การศึกษานิวซีแลนด์ จับมือ 5 โรงเรียนดังระยอง ต่อยอดโครงการห้องเรียนดิจิทัล ปี 2022

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

นางสาวช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้อำนวยการ ประจำประเทศไทย หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ (Education New Zealand ; ENZ) สถานทูตนิวซีแลนด์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า โครงการ New Zealand – Thailand Digital Classroom จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เริ่มตั้งแต่ปี 2020 ช่วงที่มีการระบาดใหญ่ของโรคโควิด-19 ทำให้มีข้อจำกัดและอุปสรรคในการเดินทางทั่วโลก การศึกษานิวซีแลนด์ จึงได้ริเริ่มโครงการ New Zealand – Thailand Digital Classroom ขึ้น เพื่อช่วยสานต่อความร่วมมือทางการศึกษาระหว่างครูและนักเรียนไทย กับ ครูและนักเรียนชาวนิวซีแลนด์ ผ่านการทำงานและกิจกรรมออนไลน์ร่วมกัน ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์และสร้างความร่วมมือทางการศึกษาข้ามพรมแดนระหว่างโรงเรียนในนิวซีแลนด์และโรงเรียนไทยในรูปแบบที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น นักเรียนมีโอกาสพัฒนาและสร้างความเข้าใจระหว่างวัฒนธรรม และชื่นชมในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ตลอดจนพัฒนาทักษะที่จำเป็น เช่น การคิดเชิงวิเคราะห์ การทำงานร่วมกันข้ามวัฒนธรรม และการสื่อสาร นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ครูจากทั้งสองโรงเรียนได้แบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของวิธีการสอน ส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างประเทศ และปรับปรุงความสามารถทางวัฒนธรรม

ทั้งนี้ โครงการ New Zealand – Thailand Digital Classroom มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมแล้วกว่า 300 คน จากโรงเรียนต่าง ๆ เช่น ในปี 2521 ที่ผ่านมา โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง, โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย รังสิต, โรงเรียนวัดป่าประดู่ จ.ระยอง, โรงเรียนระยองวิทยาคม, โรงเรียนธัญบุรี และ โรงเรียนสาธิตสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ได้เข้าร่วมในโครงการนี้ด้วย

สำหรับในปี 2022 การศึกษานิวซีแลนด์ ได้จัดโครงการนี้ ร่วมกับ Christchurch Educated ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคของเมืองไคร์เชิร์ช นิวซีแลนด์ และ กลุ่มโรงเรียนในจังหวัดระยอง โดยมีโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ จากเมืองไคร์เชิร์ช นิวซีแลนด์ 5 โรงเรียน และ จากจังหวัดระยอง 5 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง, โรงเรียนวัดป่าประดู่ จ.ระยอง, โรงเรียนระยองวิทยาคม โรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุลวิทยา และ โรงเรียนมาบตพุดพันพิทยาคาร

ซึ่งกิจกรรมในโครงการ ประกอบด้วย การจับคู่ระหว่างโรงเรียนนิวซีแลนด์และโรงเรียนไทย โดยครูจากสองโรงเรียนตกลงในการคัดเลือกนักเรียนและจำนวนนักเรียนที่จะเข้าร่วมโครงการ ช่วงวันและเวลา และระยะเวลาในการจัดโครงการตามความเหมาะสม โดยครูจะเป็นผู้กำหนดหัวข้อกิจกรรมแต่ละสัปดาห์ และนักเรียนจากทั้งสองประเทศจะถูกจับกลุ่มร่วมกัน เพื่อทำงานกลุ่มที่ได้รับมอบหมาย มีการประชุมผ่านทางออนไลน์ทุกสัปดาห์ เพื่อปรึกษาโครงการ และนำเสนอผลการวิจัย ใช้ระยะเวลาเรียนประมาณ 5 สัปดาห์

“น้องเบียร์” นายวันชัย กระจ่าง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ ระยอง เล่าประสบการณ์ที่เคยได้ร่วมโครงการนี้ว่า ผมรู้สึกประทับใจมาก ๆ ที่เด็กต่างจังหวัด ซึ่งขาดแคลนประสบการณ์ด้านภาษาและวัฒนธรรม ได้รับโอกาสดี ๆ ที่จะฝึกภาษาอังกฤษ และทักษะต่าง ๆ เป็นการเปิดโลกให้กับเด็กอย่างผมมาก ที่ได้มีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ ได้เรียนรู้วัฒนธรรมการทำงานของเขาผ่านห้องเรียนออนไลน์ที่สะดวกสบาย ประสบการณ์ที่ได้ คือ การเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้าสู่สังคมโลกภายนอก, ทุกวันนี้โลกของเราก้าวหน้าไปมาก ทักษะที่จำเป็น คือ ทักษะการเรียนรู้ที่จะปรับตัว ทำให้ผมจะต้องปรับตัวเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อน ๆ จากประเทศนิวซีแลนด์ ทำให้ผมและเพื่อน ๆ ที่ร่วมโครงการกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นมากขึ้น และที่สำคัญ คือ กล้าที่จะใช้ภาษาอังกฤษด้วยครับ

ด้าน “น้องแป๋ม” นางสาวกัลยา พนรเขต  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนระยองวิทยาคม เล่าว่า ตอนแรกที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม New Zealand – Thailand digital classroom รู้สึกตื่นเต้นและกังวลมากค่ะ เพราะว่าเป็นครั้งแรกที่จะได้เจอได้ทำความรู้จักกับเพื่อนชาวต่างชาติ ถึงแม้ว่าจะเป็นการเจอกันแบบออนไลน์ก็ยังคงตื่นเต้นมาก ๆ อยู่ดี หลังจากที่พวกเราได้ Contacts ของเพื่อนนิวซีแลนด์มาแล้ว พวกเราก็คุยกันค่อนข้างเยอะนะคะ เพราะว่าต้องทำงานด้วยกัน ก็เลยต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนทั้งการใช้ชีวิต การเรียน การศึกษา ประสบการณ์ต่าง ๆ มากมายในชีวิตวัยรุ่น ปัญหาต่าง ๆ ที่เราทั้ง 2 ประเทศพบเจอ ทั้งสนุก ทั้งได้เปิดโลก เปิดมุมมองที่ในบางครั้งเราไม่เคยรู้ ที่สำคัญ คือ พวกเค้าน่ารักมาก ๆ ค่ะ คุยสนุกมาก ต่างคนต่างสนใจการใช้ชีวิตของกันและกัน ทำให้มีเรื่องให้คุยกันตลอดค่ะ

ทางด้าน “น้องกาละแมร์” นางสาวอุบลวรรณ สุพรมอินทร์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนวัดป่าประดู่ จ.ระยอง เล่าถึงประสบการณ์การเข้าร่วมโครงการ Digital classroom ในปี 2021 ว่า โครงการ New Zealand – Thailand digital classroom ถือเป็นโอกาสที่ดีของคนที่ไม่สามารถไปสถานที่จริง แต่การเรียนออนไลน์ทำให้เราสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า สะดวก ได้รับความรู้เหมือนกัน ถึงแม้จะไม่ได้สัมผัสบรรยากาศตรงนั้น เรียนรู้สภาพแวดล้อมตรงนั้นจริง ๆ แต่ก็ยังเป็นอะไรที่มอบประโยชน์และประสบการณ์ให้เราได้ไม่น้อยเลย ได้เปิดโลกมากขึ้น ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมของนิวซีแลนด์มากขึ้น ได้รู้จักเพื่อนใหม่ที่เป็นชาวต่างชาติจากทางออนไลน์ ได้ทำงานร่วมกัน โชคดีที่ได้เพื่อนในทีมที่น่ารัก เฟรนลี่มาก ๆ ตั้งใจทำงาน พยายาม Discuss หาเรื่องพูดคุย พยายามให้ได้รู้จักกันมากขึ้น ได้แชร์วัฒนธรรมอาหารของไทยให้กับเขา ได้ฝึกให้มีความรับผิดชอบ ที่สำคัญที่สุด คือ ได้ฝึกภาษาอังกฤษ ได้ใช้สื่อสารกับ Native speaker (ครูพื้นเมือง) ช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้น ประสบการณ์ที่ได้รับจากโครงการนี้ เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ๆ ถึงจะเหนื่อยหน่อย เพราะเวลาไม่ค่อยตรงกัน แต่ทุกคนทุ่มเทใส่ใจกับงานมาก ๆ ค่ะ

RANDOM

IBA (ไอบ้า) ปลดล็อกความกังวล เมื่อยอมอ่อนข้อ ปล่อยนักมวย เจ้าหน้าที่เทคนิค และโค้ช สังกัด IBA เข้าช่วยการแข่งขัน European Games 2023 เพื่อคัดสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ภายใต้ การดำเนินการของโอลิมปิกสากลแล้ว

NEWS

มาแล้วหัวเรือใหม่กีฬา ‘นายกเศรษฐา’ มอบหมายและมอบอำนาจให้ ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมเป็นประธานบอร์ด กกท.และบอร์ด กองทุนกีฬา แบบเบ็ดเสร็จ

‘อ.เค้ก’ ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์ ภาคภูมิใจ หลังถูกเลือก จากคณะมวยของโอลิมปิกสากล ให้ทำหน้าที่กำกับ-ประเมิน ผู้ชี้ขาด/ผู้ตัดสินมวยสากลสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ เลก ที่2

error: Content is protected !!