สถานีการศึกษา

สพป.ลำพูน เดินหน้า “กองทุนช่วยเหลือนักเรียน” ช่วยเหลือนักเรียนที่ประสบเหตุภัยพิบัติ

ดร.ณัฐกุล รุณผาบ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 1 เป็นประธานเปิดการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนช่วยเหลือนักเรียนของ สพป.ลำพูน เขต 1 ครั้งที่ 1/2565 โดยมีทีมบริหารการศึกษาของ สพป.ลำพูน เขต 1 ทุกท่าน , ผู้แทนข้าราชการบำนาญ จำนวน 4 ท่าน , ประธานเครือข่ายพัฒนาคุณภาพการศึกษา อำเภอละ 1 ท่าน และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับนักเรียนที่ประสบเหตุภัยพิบัติ ภัยที่เกิดจากธรรมชาติ ภัยที่เกิดจากการกระทำของมุนษย์ ภัยอุบัติเหตุ ภัยจากโรคร้าย ภาวะโคม่า และการขับเคลื่อนกองทุนช่วยเหลือนักเรียน อาศัยอำนาจตาม ข้อ 7 แห่งระเบียบสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลำพูน เขต 1 ว่าด้วยกองทุนช่วยเหลือนักเรียน พ.ศ. 2562 ณ ห้องประชุมบุษราคัม สพป.ลำพูน เขต 1 อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อเร็ว ๆ นี้

สัตวแพทย์ จุฬาฯ แนะวิธีรับมือ “โรคฝีดาษลิง” ย้ำอย่าตื่นตระหนก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ ป้องกันได้

“โรคฝีดาษลิง” มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในต่างประเทศ เป็นโรคที่ใกล้ตัวเราเข้ามาทุกที สร้างความวิตกกังวลให้หลายคนที่กลัวว่าจะติดเชื้อหลังจากที่สถานการณ์โรคโควิด-19 เริ่มจะคลี่คลาย ผศ.น.สพ.ดร.สว่าง เกษแดงสกลวุฒิ ภาควิชาพยาธิวิทยาและหน่วยชันสูตรโรคสัตว์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง เพื่อสร้างความเข้าใจให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนก พร้อมแนะวิธีป้องกันตนเองให้ปลอดภัยห่างไกลจากโรคนี้ จุดเริ่มต้นโรคฝีดาษลิง ผศ.น.สพ.ดร.สว่าง อธิบายว่า โรคฝีดาษลิง เกิดจาก เชื้อไวรัส Monkeypox ซึ่งเป็นไวรัสที่มีความใกล้เคียงกับโรคฝีดาษคน หรือ ไข้ทรพิษ พบครั้งแรก เมื่อปี 2501 ในห้องแลปที่ประเทศเดนมาร์ก จากลิงที่ใช้ในการทดลองทางวิทยาศาสตร์ ส่วนการพบในมนุษย์พบครั้งแรก เมื่อปี 2513 ที่ประเทศคองโก ทวีปแอฟริกา ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ที่ระบาด คือ แถบแอฟริกาตะวันตก และแอฟริกากลาง ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมาก คือ ไนจีเรีย เมื่อปี 2546 พบผู้ป่วยเป็นโรคฝีดาษลิงมีความสัมพันธ์กับสัตว์ คือ แพรีด็อก ซึ่งซื้อมาจากร้านขายสัตว์เลี้ยง โดยมีการสัมผัสใกล้ชิดแล้วโดนกัด จากการสืบสวนโรคพบว่ามีการเลี้ยงแพรีด็อกอยู่ในกรงใกล้ ๆ กับสัตว์ฟันแทะที่นำเข้ามาจากจากประเทศกาน่า ซึ่งสัตว์อาจจะมีพาหะอยู่แต่ไม่ได้แสดงอาการชัดเจน การติดเชื้อและการแพร่ระบาดในปัจจุบัน พาหะของโรคฝีดาษลิง คือ สัตว์ฟันแทะ …

สัตวแพทย์ จุฬาฯ แนะวิธีรับมือ “โรคฝีดาษลิง” ย้ำอย่าตื่นตระหนก เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ ป้องกันได้ Read More »

มทร.พระนคร สอนอาชีพอิสระด้านสิ่งทอให้ผู้สูงวัย ขยายโอกาสมีงานทำให้ผู้สูงอายุ

คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร ร่วมกับ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 8 และ สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ จัดกิจกรรมส่งเสริมการประกอบอาชีพอิสระให้ผู้สูงอายุ ประจำปี 2565 ภายใต้โครงการขยายโอกาสการมีงานทำให้ผู้สูงอายุ เพื่อการส่งเสริมการมีงานทำ และพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุ โดยการฝึกปฏิบัติการทำอาชีพอิสระเพื่อนำไปประกอบอาชีพ สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคต ณ คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น มทร.พระนคร ศูนย์พณิชยการพระนคร ทั้งนี้ มี ผศ.ดร.รัตนพล มงคลรัตนาสิทธิ์ อาจารย์ประจำสาขานวัตกรรมและเทคโนโลยีสิ่งทอ พร้อมทีมคณาจารย์ และนักศึกษา คณะอุตสาหกรรมสิ่งทอและออกแบบแฟชั่น ประกอบด้วย อาจารย์จารุวรรณ ดิศวัฒน์ , ผศ.วาสนา ช้างม่วง และ ดร.เกษม มานะรุ่งวิทย์ บรรยายให้ความรู้ในหัวข้อ “การมัดย้อมผลิตภัณฑ์สิ่งทอด้วยสีครามธรรมชาติ และสีสังเคราะห์” และหัวข้อ “การพิมพ์ถุงผ้ารักษ์โลกด้วยบล็อกผักผลไม้” ซึ่งผู้สูงอายุจะได้รับความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการพิมพ์ผ้าด้วยสีพิมพ์ผ้า เทคนิคการแกะสลักผักผลไม้ เพื่อใช้เป็นแม่พิมพ์ และเทคนิคการทำให้สีติดทนทาน ตลอดจนเรียนรู้เทคนิคการมัดย้อมผลิตภัณฑ์สิ่งทอด้วยสีครามธรรมชาติ และสีสะท้อนแสงแบบพาณิชย์ นอกจากนี้ ยังมีการบรรยายเรื่อง “การส่งเสริมการมีงานทำกับการรับงานไปทำที่บ้าน” โดย วิทยากรฝ่ายส่งเสริมการมีงานทำในประเทศ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานคร …

มทร.พระนคร สอนอาชีพอิสระด้านสิ่งทอให้ผู้สูงวัย ขยายโอกาสมีงานทำให้ผู้สูงอายุ Read More »

“โคมัตสุ” ร่วมยกระดับคนอาชีวะ สอนทวิภาคีเครื่องจักรกลหนัก นำร่องแห่งแรก ที่วิทยาลัยการอาชีพนครศรีธรรมราช

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 เรืออากาศโท สมพร ปานดำ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และ นายศรัณย์ ชินประหัษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด ลงนามความร่วมมือ เพื่อร่วมกันพัฒนาหลักสูตรและจัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) พ.ศ. 2563 ในสาขาวิชาเทคนิคเครื่องกล สาขางานเทคนิค เครื่องจักรกลหนัก โดยจัดการเรียนการสอนในรูปแบบอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี นำร่องที่ “วิทยาลัยการอาชีพนครศรีธรรมราช” เป็นแห่งแรก เรืออากาศโท สมพร ปานดำ รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เปิดเผยว่า สอศ. เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการผลิตและพัฒนากำลังคนให้สามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีคุณภาพ ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักของภาครัฐบาล และ กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งความร่วมกับภาคเอกชน อย่าง บริษัท บางกอกโคมัตสุเซลส์ จำกัด ในครั้งนี้ ถือเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการเรียนการสอนให้กับนักเรียน นักศึกษา ในสาขาวิชาเทคนิคเครื่องกล สาขางานเทคนิค เครื่องจักรกลหนัก ทั้งรูปแบบการเรียนการสอนปกติ และระบบทวิภาคี โดยนำร่องจัดการเรียนการสอนในระบบทวิภาคีรุ่นแรก จำนวน 11 คน ที่ …

“โคมัตสุ” ร่วมยกระดับคนอาชีวะ สอนทวิภาคีเครื่องจักรกลหนัก นำร่องแห่งแรก ที่วิทยาลัยการอาชีพนครศรีธรรมราช Read More »

รร.บ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ จ.ลำพูน ต้นแบบ “โรงเรียนดีมีทุกที่” ของภาคเหนือ

“โครงการโรงเรียนดีมีทุกที่” เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ มูลนิธิเอเชียประจำประเทศไทย ร่วมกับ สถานทูตออสเตรเลีย, มูลนิธิอานันทมหิดล, สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท., กรุงเทพมหานคร และสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดพลังบวกในสังคม และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน “โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์” อ.ลี้ จ.ลำพูน หนึ่งในโรงเรียนดีของทางโครงการฯ ได้ใช้หลักบวร นำบ้าน, วัด และโรงเรียน มาจัดการด้านการศึกษาให้กับเยาวชนจนประสบความสำเร็จ ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก สามารถนำมาเป็นต้นแบบในโครงการโรงเรียนดีมีทุกที่ของภาคเหนือ ดร.ธราดร ตันวิพงษ์ตระกูล ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ อ.ลี้ จ.ลำพูน กล่าวว่า “โรงเรียนบ้านห้วยต้มฯ ตั้งอยู่ในชุมชนพระพุทธบาทห้วยต้ม ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวปกาเกอะญอ หรือกะเหรี่ยง โดยมีครูบาชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน และเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนขึ้นมา สิ่งที่โดดเด่น คือ ทางโรงเรียนได้ใช้หลักบวร นำบ้าน วัด โรงเรียน มาผสานสัมพันธ์ในการพัฒนาเด็ก เกิดเป็นโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ที่มีการพัฒนาทั้งด้านวิชาการ วิชาชีพ และวิชาชีวิต โดย “บ้าน” คือ ทรัพยากรบุคคลในชุมชน ที่ได้มาร่วมมือกันพัฒนาสิ่งมีประโยชน์ต่อลูกหลาน …

รร.บ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ จ.ลำพูน ต้นแบบ “โรงเรียนดีมีทุกที่” ของภาคเหนือ Read More »

ทำความรู้จัก “โครงการโรงเรียนคุณภาพ” ยกระดับมาตรฐานในทุกมิติ

“โครงการโรงเรียนคุณภาพ” เป็นนโยบายสำคัญของการกระทรวงศึกษาธิการ ที่มุ่งหวังให้โรงเรียนได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพเเละปลอดภัย โดยหน่วยงานหลักที่รับผิดชอบ คือ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ได้ดำเนินการโดยพัฒนาต่อยอดจากโครงการเดิมคือ โรงเรียนคุณภาพประจำตำบล โรงเรียนคุณภาพของชุมชน โรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง และโรงเรียนที่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ (Stand Alone) โดยได้กำหนดทิศทางขับเคลื่อนโครงการ ภายใต้จุดเน้น 7 ด้าน ดังนี้ 1.ความปลอดภัยของผู้เรียน 2.ระบบประกันคุณภาพ 3.การพัฒนาครู 4.การเรียนการสอน 5.การวัดและประเมินผล 6.การนิเทศกำกับและติดตาม 7.Big Data หากกล่าวถึงทิศทางการพัฒนา สำหรับ โรงเรียนคุณภาพระดับประถมศึกษา คือ โรงเรียนประถมศึกษา หรือโรงเรียนขยายโอกาส ที่มีความพร้อมและเหมาะสม มีโรงเรียนเครือข่ายโดยรอบ สามารถนำนักเรียนมาเรียนรวม เพื่อยกระดับคุณภาพให้เกิดความมั่นใจต่อชุมชน และผู้ปกครอง เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และแชร์ทรัพยากรร่วมกัน โรงเรียนคุณภาพระดับมัธยมศึกษา คือ โรงเรียนที่เปิดสอน ม.1-6 มีความพร้อมรองรับโรงเรียนประถมศึกษาที่จะมาเรียน และรับนักเรียนขยายโอกาสที่จะมาศึกษาต่อ หรือมาเรียนรวม เป็นการแบ่งเบาภาระในการรับนักเรียนโรงเรียนแข่งขันสูงกลับสู่ชุมชน และ โรงเรียนคุณภาพเเบบ Stand Alone คือ โรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลทุรกันดาร พื้นที่สูง บนเกาะ …

ทำความรู้จัก “โครงการโรงเรียนคุณภาพ” ยกระดับมาตรฐานในทุกมิติ Read More »

สภาสมาคมธรรมาภิบาล และมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต มอบทุนพัฒนาการศึกษาด้านหลักธรรมาภิบาล ที่ รร.ฤทธิยะวรรณาลัย

สภาสมาคมธรรมาภิบาล และมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต มอบทุนธรรมาภิบาลทางการศึกษา จำนวน 50,000 บาท ให้กับโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย เพื่อนำไปพัฒนาการศึกษาด้านหลักธรรมาภิบาล ณ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย โดยมี ดร.เลอภพ โสรัตน์ เลขาธิการสภาสมาคมธรรมาภิบาล และเลขาธิการมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต เป็นตัวแทนมอบทุนธรรมาภิบาลทางการศึกษา ประจำปี 2565 จำนวน 50,000 บาท ให้กับโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย โดยมี ดร.สุมนา ธิกุลวงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน เป็นผู้รับมอบ เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 65 ดร.เลอภพ โสรัตน์ กล่าวว่า นับเป็นเกียรติ ที่ได้รับมอบหมายให้มามอบทุนทุนธรรมาภิบาลทางการศึกษา สำหรับนักเรียนในครั้งนี้ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ซึ่งทั้งสภาสมาคมธรรมาภิบาล และมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต มองเห็นความสำคัญของผู้ที่ขาดโอกาสในระดับเยาวชนที่อยู่ในสถานศึกษา ที่เราพบว่า ยังมีความต้องการแรงสนับสนุนอีกมาก และสิ่งที่น่ายินดีในครั้งนี้ พบว่า มีการนำหลักธรรมาภิบาลไปใช้ในโรงเรียนเพิ่มมากขึ้น โดย ดร.สุมนา ธิกุลวงษ์ ผู้อำนวยการ โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ได้ยืนยันว่าหลักการเหล่านี้ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในโรงเรียนได้ดี ซึ่งได้นำมาปฏิบัติที่โรงเรียนมาระยะหนึ่งแล้ว เพื่อใช้เป็นหลักคิดให้กับนักเรียนในการที่จะเติบโตเป็นคนดีของสังคมในอนาคต …

สภาสมาคมธรรมาภิบาล และมูลนิธิธรรมาภิบาลและต่อต้านทุจริต มอบทุนพัฒนาการศึกษาด้านหลักธรรมาภิบาล ที่ รร.ฤทธิยะวรรณาลัย Read More »

5 องค์กรสำคัญ ผนึกกำลังแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ตั้งเป้าปี 68 ยอดผู้เสียชีวิตลดลง 50%

“อุบัติเหตุบนท้องถนน” ถือเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าประเทศไทยมีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก (คิดเป็น 32.7 คนต่อประชากร 1 แสนคน) มีประชากรในช่วงอายุ 15 – 19 ปี ได้รับบาดเจ็บจากการขับขี่รถจักรยานยนต์ เฉลี่ยวันละ 59 คน การเสียชีวิตจากการใช้ความเร็วมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 4 ผู้เสียชีวิตจากการดื่มแล้วขับในช่วงเทศกาลพุ่งสูงกว่าปกติร้อยละ 25 ล่าสุด องค์กรพันธมิตรสำคัญ 5 องค์กร ประกอบด้วย 3 กองทุน 2 หน่วยงาน คือ 1.กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) 2.สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 3.กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม โดย สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) 4.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และ 5.หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) ร่วมกันลงนามสร้างความร่วมมือแก้ปัญหาความปลอดภัยทางถนน โดยใช้ฐานความรู้จากงานวิจัยไปสู่การแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม โดยได้รับเกียรติจาก พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา …

5 องค์กรสำคัญ ผนึกกำลังแก้ปัญหาอุบัติเหตุทางถนน ตั้งเป้าปี 68 ยอดผู้เสียชีวิตลดลง 50% Read More »

นักชีววิทยา มช. ประสบความสำเร็จ ประยุกต์ใช้ eDNA สำรวจสิ่งมีชีวิตหายากในแม่น้ำสายหลักของไทย

แม่น้ำเปรียบเสมือนเส้นเลือดที่หล่อเลี้ยงชีวิตทั้งคนและสัตว์ในแต่ละภูมิภาค แต่เนื่องจากสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์มีความแตกต่างกัน จึงเกิดเป็นระบบนิเวศที่มีความหลากหลายของพันธุ์พืชและพันธุ์สัตว์นานาชนิด เป็นเหตุผลที่ทำให้ประเทศไทยติดอันดับการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ที่สำคัญของโลกในหลายปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความมหัศจรรย์แห่งระบบนิเวศในประเทศที่รอการค้นพบอีกมาก ด้วยเหตุนี้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยทีมนักวิจัยภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จึงผลักดันการประยุกต์ใช้ environmental DNA หรือ eDNA ในการสำรวจสิ่งมีชีวิตหายากในแม่น้ำสายหลักของไทย จนประสบความสำเร็จ เพื่อให้การสำรวจประชากรของสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำง่ายขึ้น สามารถนำมาช่วยในการวางแผนการอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตที่ใกล้สูญพันธุ์ได้ในอนาคต การศึกษาสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำเป็นสิ่งสำคัญในการอนุรักษ์ ทั้งการประเมินความอุดมสมบูรณ์ และการเฝ้าระวังสิ่งมีชีวิตรุกรานต่างถิ่น โดยวิธีการทั่วไปนั้นจะอาศัยการจับสิ่งมีชีวิตที่ต้องการศึกษาจากแหล่งน้ำด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ตาข่ายสวิง อวน เบ็ด หรือแม้กระทั้งการใช้กระแสไฟฟ้า ซึ่งการใช้อุปกรณ์เหล่านี้ มีข้อจำกัดตามสภาพแหล่งน้ำ จึงไม่สามารถสำรวจสิ่งมีชีวิตได้ครบทุกชนิด ทั้งยังเป็นการรบกวนการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิตในแหล่งน้ำอีกด้วย ทีมนักวิจัยภาควิชาชีววิทยา นำโดย รศ.ดร.มัสลิน โอสถานันต์กุล อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา ได้ใช้ Environmental DNA (eDNA) ซึ่งเป็นชิ้นส่วน DNA สายสั้น ๆ ของสิ่งมีชีวิตที่ถูกปล่อยออกมาสู่สิ่งแวดล้อม ทดแทนวิธีการใช้อุปกรณ์แบบดั้งเดิม พบว่า สามารถช่วยให้สำรวจสิ่งมีชีวิตในสิ่งแวดล้อมนั้น ๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความแม่นยำสูง ตรวจหาสิ่งมีชีวิตได้แม้จะมีจำนวนน้อย และไม่ทำลายระบบนิเวศที่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิต ทั้งนี้ …

นักชีววิทยา มช. ประสบความสำเร็จ ประยุกต์ใช้ eDNA สำรวจสิ่งมีชีวิตหายากในแม่น้ำสายหลักของไทย Read More »

วิศวะ จุฬาฯ สร้างโลกเสมือนจริงในเมตาเวิร์ส อยู่ที่ไหนก็เที่ยวจุฬาฯ ได้

คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จัดสร้างหอประวัติจุฬาฯ บนโลกเสมือนจริงสามมิติขึ้น เพื่อให้บุคคลทั่วไปสามารถเข้าเยี่ยมชมศึกษาเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศไทยได้ ผ่านอุปกรณ์วีอาร์ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาสถานที่จริง อีกทั้งต่อยอดความรู้ในการสร้างโลกเสมือนจริงที่ช่วยในการดำเนินกิจการในภาครัฐวิสาหกิจ และด้านสุขภาพในยุคเมตาเวิร์ส รองศาสตราจารย์ ดร. ลัญฉกร วุฒิสิทธิกุลกิจ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า การสร้างโลกเสมือนจริงของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นความร่วมมือระหว่าง คณะวิศวกรรมศาสตร์ กับ สถาบันไทยศึกษา จัดสร้างหอประวัติจุฬาฯ บนโลกเสมือนจริงสามมิติขึ้น เพื่อบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์เกี่ยวกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผ่านเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน เป็นการบูรณาการข้ามศาสตร์ระหว่างองค์ความรู้ด้านมนุษยศาสตร์ และวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี เพื่อดำรงคุณค่าและเพิ่มมูลค่าด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ นอกจากนี้ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ยังได้มีการต่อยอดนำความรู้ในการสร้างโลกเสมือนจริงช่วยในการดำเนินกิจการในภาครัฐวิสาหกิจ ด้วยการพัฒนาระบบฝาแฝดดิจิทัลของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ณ เขื่อนท่าทุ่งนา ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานของบุคลากรในเขื่อนตามนโยบายเข้าพัฒนาสู่ยุคดิจิทัลของหน่วยงาน ในโครงการนี้ได้สร้างแบบจำลองสามมิติของโรงไฟฟ้าครบถ้วน ทั้งพื้นที่ภายในและอาคารภายนอก รวมถึงชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่มีในโรงไฟฟ้าทั้งหมด ผลลัพธ์ของโครงงานเป็นประโยชน์เพื่อเตรียมความพร้อมในการนำหุ่นยนต์อัตโนมัติเข้ามาประยุกต์ใช้ในการดูแลโรงไฟฟ้า สามารถใช้ในการฝึกฝนบุคลากรให้มีทักษะในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังใช้สำหรับให้ความรู้กับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับวิศวกรรมเขื่อน และการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเขื่อน โครงการนี้จึงเป็นตัวอย่างของการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเมตาเวิร์สในภาคอุตสาหกรรมที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ในมิติของสุขภาพในยุคเมตาเวิร์ส คณะวิศวกรรมศาสตร์ ร่วมกับ ศูนย์ดูแลสภาวะสมองเสื่อม (Dementia Day Center) โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ …

วิศวะ จุฬาฯ สร้างโลกเสมือนจริงในเมตาเวิร์ส อยู่ที่ไหนก็เที่ยวจุฬาฯ ได้ Read More »

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!