สถานีความคิด

มีของฝากถึง “รองปานปรีย์” และ “รมต.สุดาวรรณ” เพื่อพิจารณา เรื่องปัญหา ของเงินกองทุนกีฬา กับปัญหา ในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ

      ปฐมบทของรัฐบาลชุดใหม่ นี้ เริ่มต้นในการบริหารงานอย่างเป็นทางการ วันที่ 1 กันยายน 2566 เมื่อถึงวันนี้ (18 ก.พ.2567) ก็จะ 6 เดือนแล้ว กับการทำหน้าที่ ในกระทรวงต่าง ๆ       ในวงการกีฬาคงโฟกัสง่าย ๆ ไปที่ รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกีฬา นายปานปรีย์ พหิทธานุกร และ นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ถือเป็นฝ่ายบริหารสูงสุดใน “องคาพยพชาวกีฬาไทย”       กับการทำหน้าที่ดูแล “การบริหารจัดการทั้งหมด”       ภาพที่เห็นที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า ทั้งโดยหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกีฬา และ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารด้านอื่น ๆ ที่ได้รับควบคู่กับกีฬานั้น ทั้ง 2 ท่าน ที่มาจากพรรคเพื่อไทย มีมากจริง ๆ …

มีของฝากถึง “รองปานปรีย์” และ “รมต.สุดาวรรณ” เพื่อพิจารณา เรื่องปัญหา ของเงินกองทุนกีฬา กับปัญหา ในมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ Read More »

กับประเด็นที่มีนักกีฬาทีมชาติ บ่นระทมใจ เพราะมีเงินเดือนน้อยกว่าผู้ใช้แรงงานขั้นต่ำเสียอีก…ที่นี่มีคำตอบ และ มีทางออกให้ครับ

     เรื่องไม่ร้อนมาก กับประเด็นเรื่องเงินเดือนนักกีฬา ที่มีอดีตนักกีฬาทีมชาติ และนักกีฬาปัจจุบันออกมาพูดถึง ดั่งน้อยอกน้อยใจว่า เงินเดือนน้อยกว่า คนงานที่ได้ค่าจ้างขั้นต่ำรายวันที่จะได้ต่อเดือนอีก      “ไม่รู้จริงหรือ ไม่เข้าใจ หรือมีวาระอะไรซ่อนเร้นไม่รู้”      แต่ขอเล่าถึง “เรื่องเงินเดือนนักกีฬาก่อน”      สรุปเริ่มต้นก่อนเลยเรื่องเงินเดือนนักกีฬาไม่เคยมีครับ      เพราะวงการกีฬาไทย นักกีฬาสมัครเล่น หรือ กีฬาเพื่อความเป็นเลิศนั้น เขาไม่มีการให้เงินเดือนเลย ตั้งแต่ไหนแต่ไรมา ในส่วนของนักกีฬาของสมาคมกีฬาต่าง ๆ ทั้งที่เป็นสมาคมกีฬาซึ่งลงท้ายด้วยแห่งประเทศไทย ของนักกีฬาปกติ และ นักกีฬาคนพิการ      และขอสรุปง่าย ๆ ต่ออีกก็คือ…เงินที่เกี่ยวข้องกับนักกีฬาทีมชาติ จะมีก็แต่เป็นเบี้ยเลี้ยง ค่าอาหาร ค่าที่พัก (ซึ่งให้เป็นรายหัว ต่อวัน) และ อีกส่วนคือ เงินรางวัลหากว่ามีผลงานตามเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งทุกบาททุกเม็ดนั้นมาจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่จัดให้      ซึ่งการจ่ายเบี้ยเลี้ยง-ค่าอาหาร-ค่าที่พัก นั้นก็จะแบ่งเป็น 2 …

กับประเด็นที่มีนักกีฬาทีมชาติ บ่นระทมใจ เพราะมีเงินเดือนน้อยกว่าผู้ใช้แรงงานขั้นต่ำเสียอีก…ที่นี่มีคำตอบ และ มีทางออกให้ครับ Read More »

บทสะท้อนจากความห่วงใยและสงสัย ต่อสมาคมมวยสากลกับวิธีคิด “การเปลี่ยนแปลงที่มองไม่เห็นฝั่งฝัน” ในความหวังโอลิมปิกเกมส์ 2024

     มวยสากลสมัครเล่น เป็นกีฬาความหวังสูง ในการแข่งขันกีฬาระดับโอลิมปิกเกมส์ ของไทยในทุก ๆ ครั้ง       “ทีมมวยสากล” ของไทย ในเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีนที่ผ่านมา ซึ่งถึงแม้จะไร้เหรียญทอง แต่ก็สามารถคว้าโควตา ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ถึง 4 คน 4 รุ่น      ผลงานจากเอเชี่ยนเกมส์ที่ได้โควตาไปโอลิมปิกเกมส์ ถือว่ารับได้บ้างกับผลงาน  แต่มันคงไม่ใช่แค่นั้น เพราะโจทก์ต่อไปของสมาคมกีฬามวยสากล คือการมุ่งไปที่ “ความหวัง” ของวงการกีฬา หรือประเทศ ในการประสบความสำเร็จในโอลิมปิกเกมส์ในปีหน้า ที่กรุงปารีส      แต่ด้วยมุมที่ว่า ขนาดระดับทวีปเอเชียเรายังไม่ถึงเหรียญทอง แล้วโอลิมปิกเกมส์ ที่รวมสุดยอดนักชกแต่ละรุ่น จากแต่ละทวีปนั้น เราจะไปถึงเป้าหมายได้หรือไม่ และควรต้องทำอย่างไร      ทุกคนที่เฝ้าดู เล็งไปที่การปรับปรุงทุกอย่างใน กระบวนการหรือขบวนการทำทีมของ “มวยสากล” ทั้งการวางแนวทางการพัฒนาให้นักชก 4 …

บทสะท้อนจากความห่วงใยและสงสัย ต่อสมาคมมวยสากลกับวิธีคิด “การเปลี่ยนแปลงที่มองไม่เห็นฝั่งฝัน” ในความหวังโอลิมปิกเกมส์ 2024 Read More »

ตอนที่ 42 : การกีฬาคือผู้รักษาสันติภาพ : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

การกีฬาคือผู้รักษาสันติภาพ             ในช่วงลำบากของการเมืองโลก คูเบอร์แต็งได้เขียนแสดงความเห็นในเรื่องนี้ ตามคำขอจากวารสารลารีวิวสปอร์ตีพอิลัสตรีของเบลเยียม มีการอภิปรายดุเดือดในสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการไม่เข้าร่วมโอลิมปิกเกมส์ในกรุงเบอร์ลินต่อประเด็นการเข้าร่วมของชาวเยอรมันเชื้อสายยิว ท่านไม่ได้กล่าวเฉพาะเจาะจงในเรื่องดังกล่าวแต่ตีความประเด็นหัวข้อจากมุมมองมานุษยวิทยาตามแบบฉบับตนเองในบทความชื่อ งานเขียนเรื่องจิตวิทยาการกีฬา ตัวแปรหลักสองประการในการควบคุมนักกีฬาเพื่อต่อสู้กับสงครามและสันติภาพคือ กล้ามเนื้อและวินัย             วารสารรีวิวสปอร์ตีพอิลัสตรีซึ่งเป็นมิตรเก่าและน่านับถือได้ขอความเห็นจากข้าพเจ้า “สองสามบรรทัด” สำหรับวารสารฉบับแรกของ ค.ศ.1935 ข้าพเจ้าจะปฏิเสธได้อย่างไร? แต่ผู้อ่านหลายท่านตระหนักดีถึงความยากลำบากเป็นอย่างยิ่งในการสร้างความเข้าใจและจัดเนื้อหาให้เหมาะสมเพียง “สองสามบรรทัด” มากกว่าจะเป็นสิ่งพิมพ์แผ่นพับ และในบางครั้งจะง่ายยิ่งขึ้นด้วยหนังสือเล่มเล็กมากกว่าสิ่งพิมพ์แผ่นพับ             ทั้งนี้ ในบรรดาประเด็นการกีฬาที่เป็นข่าวปัจจุบัน (จำนวนไม่มากในขณะนี้) เรื่องหนึ่งใดที่ข้าพเจ้าเลือกคงต้องการคำสาธยายยืดยาว แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีความจำเป็นที่จะต้องตอบสนองอย่างฉับพลันต่อสัญญาณเตือนภัย ได้รับการหยิบยกขึ้นมาเกี่ยวกับการใช้ความแข็งแกร่งของการกีฬาต่อการสงครามและการปฏิวัติ “ชาติกระหายสงคราม” ในชื่อหนึ่งและ “โลกสากลที่สาม” ในอีกชื่อหนึ่งคือคำกล่าวหาต่อการวางแผนสิ่งเลวร้ายสุดที่เป็นไปได้ซึ่งอยู่ภายใต้กลุ่มองค์กรนักกีฬาที่คุกรุ่นไปได้แรงปรารถนาต่อการล้างเลือดหรือยั่วยุเกลียดชังสังคม             ประเด็นข้างต้นเกี่ยวข้องต่อสองสิ่งคือ กล้ามเนื้อและวินัย เป็นที่แน่นอนว่า ผู้คนที่ผูกพันกับการกีฬาทรงพลังหรือแม้กระทั่งการกีฬาที่รุนแรงจะรักใคร่และเสริมสร้างความเข้มแข็ง แต่ไม่ใช่ว่าพวกเขารักใคร่และเสริมสร้างวินัยอย่างไม่ลืมหูลืมตา ในทางกลับกัน แปดในสิบคนของนักกีฬาเข้มแข็งนั้น เป็นที่พึ่งแห่งตน ตัวอย่างเช่น ความสามารถในการบังคับข้อจำกัดแก่ตนเองเพื่อให้เกิดชัยชนะแก่ทีมตนเองหรือแก่กลุ่มสีของสโมสรตนเอง ข้อจำกัดที่อาจแม้เป็นการปฏิเสธตนเอง สิ่งทั้งปวงนี้เป็นไปตามเงื่อนไขว่า เขารักษาความเป็นนายของตนเองและการเสียสละเพื่อกลุ่มนั้น ก็เป็นไปตามความต้องการของตนเองเพื่อกลุ่มเท่านั้น โดยเหตุดังนั้น หากเยาวชนรักชาติหรือฝักใฝ่ปฏิวัติได้รับการฝึกซ้อมกีฬาอย่างขมักเขม้นและสม่ำเสมอ ย่อมเป็นที่ชัดแจ้งว่า กลุ่มเยาวชนเหล่านี้จะได้รับคุณประโยชน์จากความเพียรของตนเองดังคติพจน์โบราณที่ว่า “ประเทศแข็งแกร่ง พลเมืองกล้าหาญ” (civium vires, …

ตอนที่ 42 : การกีฬาคือผู้รักษาสันติภาพ : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 41 : ธรรมนูญปฏิรูปการกีฬา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

ธรรมนูญปฏิรูปการกีฬา                 วันที่ 13 กันยายน ค.ศ.1930 คูเบอร์แต็ง ในฐานะผู้แทนทางการของรัฐบาลกรีซ ได้กล่าวสุนทรพจน์เพื่อนำเสนอและอธิบายธรรมนูญปฏิรูปการกีฬาของตนเองแก่สมาคมแห่งชาติในกรุงเจนีวา                 ท่านได้รับการสนับสนุนในเรื่องนี้จากสหายชาวกรีกคือ โจอานิส คริสซาฟิส ผู้อำนวยการการพลศึกษา กระทรวงวัฒนธรรมกรีซ และเป็นหนึ่งในสมาชิกขันแข็งจำนวนน้อยของสำนักการพลศึกษาและสหภาพการสอนนานาชาติที่ริเริ่มโดยคูเบอร์แต็งใน ค.ศ.1926                 คูเบอร์แต็งอธิบายว่า วันนี้คือช่วงสำคัญของประวัติศาสตร์การกีฬา การจัดพิมพ์ฉบับพิเศษได้รับการเผยแพร่ในภาษาเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปนและอิตาลี เพื่อทำให้ธรรมนูญการกีฬาเป็นที่แพร่หลายทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีการจัดพิมพ์รูปแบบโปสเตอร์ไว้ที่สถานที่จัดแสดงในเมืองบอนน์ภายหลังจากนั้นไม่นาน เป็นต้น                 คำคัดค้านต่อต้านการกีฬาอาจแบ่งเป็นสามกลุ่ม ดังนี้                 การกีฬา บังคับและทรมานร่างกายมากเกินควร                 การกีฬา บั่นทอนสติปัญญา                 การกีฬา เผยแพร่จิตวิญญาณการค้าและบ่มเพาะความรักต่อเงินตรา                 เป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิเสธการดำรงอยู่ของภูติผีปีศาจเหล่านี้ อย่างไรก็ตาม ความรับผิดชอบไม่ได้ตกอยู่ที่การกีฬาแต่ประการใด ผู้กระทำผิดคือ พ่อแม่ ครูใหญ่ พนักงานรัฐ …

ตอนที่ 41 : ธรรมนูญปฏิรูปการกีฬา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 40 : จดหมายเปิดผนึกถึง มร.ฟรานท์ซ-ไฮเคล : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

            ภายหลังการลาจากคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ คูเบอร์แต็งได้ทุ่มเทตนเองอย่างเต็มที่แก่งานปฏิรูปการศึกษา ในเรื่องนี้ ท่านมีความกังวลโดยเฉพาะต่อการศึกษาผู้ใหญ่ซึ่งได้รับความสำคัญในประเทศอื่นของยุโรปเช่น แผนการศึกษาผู้ใหญ่ช่วงเย็นในทศวรรษ 1920 คูเบอร์แต็งไม่มีมายาคติเกี่ยวกับการนำแผนงานไปปฏิบัติ จึงพยายามด้วยวิธีนี้ในการร้องขอความช่วยเหลือจากมิตรสหายเก่าจากกองทัพในฝรั่งเศส บุคคลเหล่านี้รวมถึง มร.ฟรานท์ซ–ไฮเคล เลขาธิการของเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 1924 โดยคูเบอร์แต็งขอให้ มร.ไฮเคล ยื่นมือช่วยเหลือต่อแผนงานโรงยิมกีฬาชุมชนในฝรั่งเศส เพื่อมอบโอกาสแก่ผู้ใช้แรงงานให้สามารถเข้าถึงการกีฬาในการสร้างเสริมสุขพลานามัยและสุขภาวะ             สหายที่รัก             เมื่อท่านหวนระลึกถึงความทรงจำร่วมกันของพวกเรา ในฐานะผู้นำการกีฬาศึกษาของฝรั่งเศส นับเป็นเวลาสี่สิบปีสำหรับตัวข้าพเจ้าและในไม่ช้าสำหรับท่าน ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าท่านพึงพอใจในผลงานที่เกิดขึ้นหรือไม่ สำหรับข้าพเจ้า ยังไม่พอใจนัก ความสว่างไสวของโอลิมปิกเกมส์ไม่ได้ปิดตาข้าพเจ้าแม้แต่น้อย โอลิมปิกเกมส์มีเป้าหมายที่อภิสิทธิ์ชนอย่างแน่นอนเนื่องเพราะเป้าหมายคือการสรรเสริญและยกย่องบรรดาเหล่านักกีฬาที่พละกำลังพิเศษจะจุดประกายความทะเยอทะยานและการลอกเลียนแบบซึ่งจำเป็นต่อการรักษาไว้ซึ่งกิจกรรมกีฬามวลชน อย่างไรก็ตาม ในทางตรงข้ามกับอภิสิทธิ์ชน ยังมีมวลชนซึ่งรวมถึงบุคคลทั้งปวงที่เล่นกีฬาแต่ไม่ต้องการความเป็นเลิศแต่ประการใด ในบรรดาคนเหล่านี้ แม้จะมีพัฒนาการใหญ่หลวงในด้านทักษะการเล่นกีฬาแต่ความแข็งแกร่งด้านปริมาณยังอ่อนแอมาก จำนวนร้อยละของนักกีฬาแท้จริงในประชากรเป็นเศษเสี้ยว การโอ่และประชาสัมพันธ์กลบเกลื่อนสถานการณ์จริงไว้ การหวดของสื่อมวลชนและสายธารของการแข่งขันชิงแชมป์ทำให้สาธารณชนหลงทิศผิดทาง ประเทศยังไม่มีความเป็นกีฬาจริงแท้จนกระทั่งพลเมืองส่วนใหญ่รู้สึกถึงความจำเป็นของการกีฬาในวันหนึ่ง หากใช้เกณฑ์ตัดสินนี้ ข้าพเจ้าไม่ทราบว่า กระทั่งอเมริกาจะใช่ชาติกีฬาหรือไม่ หากผู้คนทั้งปวงที่พูดถีงการกีฬาถูกบังคับไม่ให้พูดในวันพรุ่งนี้แล้ว ผู้คนที่เล่นกีฬาคงจะดูเหมือนกลุ่มคนที่กลายเป็นจุดทศนิยมไป             หากจะกล่าวถึงเฉพาะฝรั่งเศส สถานการณ์เป็นเช่นนี้ เพราะว่า พวกเราสนับสนุนการกีฬาเยาวชนและทีมมากเกินควรจนเกิดความเสียหายต่อผลประโยชน์หลักในมุมมองชาติพันธุ์ ข้าพเจ้าหมายถึง ปัจเจกชนผู้ใหญ่ สุขอนามัยจะมีความหมายอย่างไรหากพวกเราจัดเตรียมสถานที่ชำระร่างกายเพียงแก่เด็กและผู้ใหญ่จะต้องจัดทีมเพื่อให้ได้รับบริการนั้น? …

ตอนที่ 40 : จดหมายเปิดผนึกถึง มร.ฟรานท์ซ-ไฮเคล : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 39 : การปฏิรูปและความแพร่หลายของการศึกษาประวัติศาสตร์: ลักษณะและผลที่เกิดขึ้น : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

การปฏิรูปและความแพร่หลายของการศึกษาประวัติศาสตร์: ลักษณะและผลที่เกิดขึ้น             ณ ที่ประชุมของสถาบันวิทยาการเอเธนส์ ค.ศ.1927 คูเบอร์แต็งเน้นย้ำความจำเป็นต่อการศึกษาประวัติศาสตร์โลกด้วยวิธีการคือ “ประการแรก พวกเราต้องใช้มุมมองแบบปริซึมแก่มนุษย์และวัตถุทั้งหลาย ประการที่สอง พวกเราต้องปรับแนวคิดจาก ‘สาเหตุ’ ให้เป็น ‘สมการ” ในตอนที่สองของสุนทรพจน์นั้น คูเบอร์แต็งกล่าวถึงผลทางการเมืองจากการใช้ประโยชน์ด้านประวัติศาสตร์ว่า “ประวัติศาสตร์จะปกป้องสันติภาพสากล…ประวัติศาสตร์ยังคงทำได้มากขึ้นต่อสันติสุขสังคมในปัจจุบัน” ทั้งนี้ ท่านแสดงสิ่งได้เรียนรู้จากอาจารย์ทั้งสองคือ อัลเบิร์ต โซเรล และ พอล เลอรอย-บูลิว ที่มหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์             ท่านประธานและสมาชิกของสถาบัน             นับเป็นเกียรติสูงส่งที่ได้กล่าวในสถานที่โด่งดังเช่นนี้ซึ่งเป็นเกียรติยิ่งขึ้นโดยการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากท่านทั้งหลาย วานก่อน กรุงเอเธนส์ให้เกียรติข้าพเจ้าด้วยการรื้อฟื้นหนึ่งในประเพณีที่ถือเป็นความภาคภูมิสูงสุดของเมืองโบราณ ในวันนี้ ตามรอบปีโอลิมปิกที่ข้าพเจ้าได้พยายามจะฟื้นฟูจิตวิญญาณ นับเป็นความโชคดีของข้าพเจ้าที่จะเสนอผลงานวิชาการบริสุทธิ์แก่ทุกท่านซึ่งได้รวบรวมและแต่งขึ้นในระหว่างเวลาว่างที่ตำแหน่งประธานคณะกรรมการโอลิมปิกพอจะมีให้แก่ข้าพเจ้า เพื่อทำให้ทุกสิ่งรายล้อมข้าพเจ้ามีความเป็นกรีกเท่าที่จะเป็นไปได้ ข้าพเจ้าต้องวิพากษ์งานตนเองในที่นี้ตามแนวคิดที่โด่งดังของโซเครตีสซึ่งยังคงเป็นพื้นฐานของปรัชญาทั้งปวงที่พวกเรากำลังกล่าวถึงในปัจจุบันที่มหาวิทยาลัยเนื่องเพราะเป็นการปฏิรูปและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งเหตุผลของมนุษย์ ตอนที่หนึ่ง             ท่านสุภาพชน ประการแรก ข้าพเจ้าเสนอให้เขียนประวัติศาสตร์โลกด้วยการใช้ประโยชน์ในทุกโอกาสเพื่อให้งานลุล่วง ข้อเท็จจริงที่ว่า สิ่งต่างๆในปัจจุบันมีลักษณะเปลี่ยนแปลงนั้น ดูเหมือนจะเป็นการยืนยันที่ไม่ถูกต้องนัก โดยหากท่านติดตามใกล้ชิด การตรวจสอบข้อเท็จจริงจะยืนยันในสิ่งที่ข้าพเจ้ากล่าวข้างต้น เพื่อให้เกิดประโยชน์ การศึกษาประวัติศาสตร์โลกจำต้องมีข้อมูลสมบูรณ์และแม่นยำทั้งสถานที่และเวลาซึ่งความคิดสามารถสืบค้นกลับไปได้ตลอดเวลา สะดวกและง่าย เงื่อนไขเหล่านี้เพิ่งมีความพร้อมสรรพไม่นานมานี้ …

ตอนที่ 39 : การปฏิรูปและความแพร่หลายของการศึกษาประวัติศาสตร์: ลักษณะและผลที่เกิดขึ้น : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

ตอนที่ 38 : การกีฬาคือพระราชา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

การกีฬาคือพระราชา             คูเบอร์แต็งใช้การเปิดสมัยประชุมสมัชชาที่ 19 ของคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ ค.ศ.1920 ในการนำเสนอแก่กษัตริย์เบลเยียมเพื่อพิจารณาความสำคัญเร่งด่วนของการกีฬาภายใต้คำขวัญ “การกีฬาคือพระราชา”             สุนทรพจน์ประกอบด้วยสามตอนคือ ผลงานก้าวหน้า การอุทิศตนไม่ย่อท้อต่ออุดมคติเหนือผลประโยชน์ส่วนตน และการเป็นสาธารณูปการแก่ทุกคนในทุกวัน             ตามความเห็นของคูเบอร์แต็ง การกีฬาสร้างหลักพื้นฐานของกติกาทั้งปวงในระบอบประชาธิปไตย โดยเหตุนี้ ท่านจึงใช้สุนทรพจน์นี้เรียกร้องให้เยาวชนผู้ยากไร้ได้รับโอกาสเข้าถึงการกีฬา             ใต้ฝ่าพระบาท ท่านเจ้าเมืองผู้ทรงเกียรติ ท่านสุภาพชน              การกีฬาคือพระราชา             พวกเรายังคงมีข้อกังวลค้างคาใจอีกหรือไม่ต่อเกียรติภูมิที่พวกเราได้ฟังในปัจจุบันถึงคำพิสูจน์ชัดเจนต่อผลที่เกิดขึ้นทุกวันบนเส้นทางโอลิมปิกเกมส์สมัยใหม่ที่กำลังฟื้นฟูอย่างมั่นคงสถาพรยิ่งกว่ายุคโบราณ โดยเฉพาะข้อเท็จจริงภายหลังช่วงเวลาเลวร้ายยิ่งของความรุนแรงและขอบเขตกว้างขวางอย่างไม่น่าเชื่อ? เบลเยียมคือกุญแจหลักแห่งความสำเร็จนี้โดยแท้ซึ่งได้แสดงความหวังที่จะเพิ่มเติมเกียรติภูมิที่ได้รับใน ค.ศ.1914 และเสริมแต่งใน ค.ศ.1920 จากการจัดโอลิมปิกเกมส์อย่างชาญฉลาดและรวดเร็ว หรือหากข้าพเจ้าขอแสดงออกอย่างเปิดเผยกว่าในทางวิชาการคือ เกียรติภูมิของความพร้อมซึ่งทรัพยากร เบลเยียมทำลายสถิตินี้เช่นกัน ภายใต้สถานการณ์ต่างๆ เกียรติภูมิของเบลเยียมช่วยส่งเสริมมากกว่าลดทอนความแข็งแกร่งของการกีฬาซึ่งโอลิมปิกเกมส์เป็นทั้งสัญลักษณ์และการแสดงออก             ความซื่อสัตย์ทุกรูปแบบมีภัยคุกคาม อนาคตของการกีฬาก็ไม่มีข้อยกเว้น แม้จะได้รับการยกย่องสรรเสริญจากประชาชนและความกระตือรือร้นของเยาวชนก็ตามที พวกเราคือกลุ่มคนบนวิถีทางนี้ ในเขตอำนาจที่เป็นไปได้ อนุญาโตตุลาการของพวกเราทั่วโลกจะต้องประกันถึงความมั่นคงของอำนาจตนด้วยการทำให้อำนาจนี้มีประสิทธิผลและทรงศักดิ์มากขึ้น ปัจจัยใดที่เป็นเสถียรภาพแท้จริงของบัลลังก์? …

ตอนที่ 38 : การกีฬาคือพระราชา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว Read More »

จากฐานอำนาจเดิม ที่สร้างความว้าวุ่นในวงการกีฬา มีฟ้องร้อง ร้องเรียน แบ่งฝักฝ่ายมานาน วันนี้ควรถึงเวลา “สร้างความสามัคคีใหม่” ด้วยการทิ้งบัตรสนเท่ห์ ทิ้งอดีตขัดแย้ง แล้วเริ่มต้นด้วยความรักกัน…ซะที

      หลังเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” หนนี้ วงการกีฬาของไทย ภายใต้การนำของฝ่ายบริหารชุดใหม่ คงจะเดินเครื่องเต็มพิกัดในทุก ๆ ด้าน       เรื่องที่น่ามองและน่าเขียนถึงเพื่อนำเสนอแนะจากการประมวลความคิดเห็นของ “คนในวงการกีฬา” ที่หลากหลายซึ่งจ้องมองวงการกีฬามายาวนาน อะไรคือสิ่งที่ต้อง “เป็นบทเรียน” ในระดับฝ่ายบริหารที่กำลังเปลี่ยนผ่านมาใหม่ และเริ่มต้น       การวิเคราะห์เริ่มต้นจาก “ฝ่ายบริหาร” ของรัฐบาล ในงานกีฬา ช่วงหลังจากการรัฐประหาร จนกระทั่งมีการเลือกตั้งในรัฐบาลชุดเก่า ที่คนกล่าวถึงมากที่สุดคือการใช้อำนาจในการครองวงการกีฬาอย่างเบ็ดเสร็จ เรื่องเงินทั้งจากงบประมาณที่เช้าสู่หน่วยงานกีฬา และงบที่มาจากกองทุนพัฒนาการกีฬา มีการใช้ในมุมหนึ่งที่ต้องบอกว่า “ไร้ทิศทาง”       “ใช้ด้วยเหตุผลที่ไม่เหมาะสม” นี่คือสิ่งที่สรุปกันแบบเบา ๆ แต่คงรู้เรื่องกันว่ายังไง       “ผู้มีอำนาจก็สั่งได้สั่งเอา มือใครยาวสาวได้สาวเอา” นี่คือสิ่งที่พูดถึงกันต่อมา        จะหันไปพึ่งพา “ฝ่ายนิติบัญญัติ” ซึ่งมีหน้าที่ในการตรวจสอบ การทำงานของฝ่ายบริหาร ในนามของคณะกรรมาธิการการกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ที่เราเรียกว่า ส.ส.กีฬา  ซึ่งที่ผ่านมาก็ต้องบอกว่าไร้ผลในการพึ่งพาสาเหตุง่าย ๆ ก็คือ “เป็นพรรคเดียวกันและพวกเดียวกันจะตรวจสอบกันอย่างไร”       ซึ่งโดยการทำงานที่ควรจะเป็น …

จากฐานอำนาจเดิม ที่สร้างความว้าวุ่นในวงการกีฬา มีฟ้องร้อง ร้องเรียน แบ่งฝักฝ่ายมานาน วันนี้ควรถึงเวลา “สร้างความสามัคคีใหม่” ด้วยการทิ้งบัตรสนเท่ห์ ทิ้งอดีตขัดแย้ง แล้วเริ่มต้นด้วยความรักกัน…ซะที Read More »

นักกีฬาทีมชาติและตัวแทนจังหวัด อาจจะยังไม่ทราบ…เรื่องเจ็บ ป่วย มีเงินสวัสดิการจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติช่วยดูแลท่าน

            สิ่งที่นักกีฬาทั้งระดับชาติ ระดับจังหวัด หรือบุคลากรกีฬาอาจจะยังไม่ทราบอีกส่วน คือการดูแลช่วยเหลือ การเจ็บไข้ได้ป่วย จากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมาได้ช่วยเหลือมาโดยตลอดแต่อาจจะยังไม่เป็นที่รับทราบกัน วันนี้จึงนำมาย้ำถึงสิทธิผู้ที่เกี่ยวข้องอีกครั้งเพื่อความเข้าใจร่วมกัน             ตามประกาศของคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการช่วยเหลือด้านสวัสดิการแก่นักกีฬา บุคลากรกีฬาและผู้ซึ่งประสบอุบัติเหตุ หรือได้รับความเสียหาย หรืออันตรายจากการแข่งขันกีฬาหรือกรณีอื่นอันควรแก่การสงเคราะห์ พ.ศ.2564 ระบุโดยสรุปว่า             กลุ่มผู้ที่มีสิทธิขอรับความช่วยเหลือสวัสดิการตามประกาศนี้แบ่งเป็น 4 กลุ่มคือ             1.นักกีฬาทีมชาติ ทั้งคนปกติและคนพิการที่เข้าร่วมแข่งกีฬานั้น ๆ ตั้งแต่วันคัดเลือกเป็นตัวแทนทีมชาติ ให้เข้าร่วมรายการมหกรรมกีฬาและรายการนานาชาติ รวมทั้งรุ่นอาวุโส             2.นักกีฬาจังหวัด ซึ่งเป็นตัวแทนจังหวัดเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ กีฬาเยาวชนแห่งชาติ กีฬาคนพิการแห่งชาติ หรือกีฬาอาวุโสแห่งชาติ โดยนับตั้งแต่วันที่ได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนจังหวัด             3.บุคลากรกีฬา ที่หมายถึงผู้บริหารองค์กรกีฬา ผู้ฝึกสอนกีฬา ผู้ตัดสิน ผู้ชี้ขาด ที่เคยเข้าร่วมและปฏิบัติหน้าที่ในการแข่งขันมหกรรมกีฬา กีฬาระดับนานาชาติ และกีฬาระดับชาติ หรือกรณีอื่นที่เห็นสมควร             4.อดีตนักกีฬาทีมชาติ อดีตนักกีฬาจังหวัด และอดีตบุคลากรกีฬา             โดยการช่วยในสวัสดิการนี้ จะรวมถึงการให้เป็น ค่ายังชีพรายเดือนกรณีทุพพลภาพ …

นักกีฬาทีมชาติและตัวแทนจังหวัด อาจจะยังไม่ทราบ…เรื่องเจ็บ ป่วย มีเงินสวัสดิการจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติช่วยดูแลท่าน Read More »

error: Content is protected !!