วงการกีฬาระอุ “บัตรสนเท่ห์ และการร้องเรียน” ว่อนสู่ กกท.และถึงสายตาคนวงการกีฬา..วันนี้จับตานายใหญ่จะเคลียร์หรือปล่อยให้ค้างคาใจ

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

 ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณพี่น้องในวงการกีฬา ระดับสูงทีเชื่อถือได้ ที่ส่งเอกสารทั้งหมดมาให้อย่างต่อเนื่อง ที่ Station THAI สื่อเล็ก ๆ อย่างเรา

 เอกสารที่ว่าคือ ข้อร้องเรียนไปถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ผ่านไปถึงผู้ว่าการ กกท.และบางส่วนผ่านสื่อออนไลน์ในกลุ่มของตัวเอง ผมว่าคนวงการกีฬาส่วนหนึ่งคงเห็น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายเชียร์หรือฝ่ายแช่งคงได้เห็นมาแล้วไม่ทั้งหมดก็คงส่วนหนึ่ง ซึ่งเอกสารเหล่านี้จะเรียกเป็นข้อเสนอแนะ ข้อร้องเรียน ข้อกล่าวหา หรือจะเรียกเป็นบัตรสนเทห์ หรือจะเรียกอะไรก็ว่าไป ตามสะดวกที่ใครจะคิดให้ความหมายไป

 เนื้อหาที่มีนั้นซ้ำ ๆ ของการร้องเรียนหลาย ๆ ฉบับ ไปถึง กกท. เอกสารบางตัวนั้นมีการลงเลขรับจาก กกท.อย่างชัดเจน ที่เนื้อหาคือ การทนไม่ไหวกับ การดำเนินการของสำนักงานกองทุนพัฒนาการกีฬา ในเรื่องต่าง ๆ ช่วงที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน

 โดยชื่อผู้ร้องเรียนนั้น ไม่ได้เปิดชื่อจริง แต่ใช้ชื่อว่าผู้ร้องทุกข์ คนในองค์กรกีฬา ผู้เกี่ยวข้อง หรือ ผู้หวังดี (อย่างนี้การปิดชื่อจริงก็ลดความน่าเชื่อถือไปมากพอควร) Station THAI ได้เห็นหลายฉบับจากความกรุณาพี่น้องที่ส่งมาให้ ก็ได้อ่านหลาย ๆ ฉบับลีลาต่างกันบ้าง แต่ระบุเนื้อหาในประเด็นโดยรวมคล้ายกันคือ

 คนในสำนักงานกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาตินั้น ทำการไม่เหมาะสม-ไม่ควร อาทิเช่น

 ดึงเครือญาติมาทำงานด้วย หรือฝากไว้ตามมุมต่าง ๆ มีผลประโยชน์ทับซ้อน

 การบริหารจัดการขาดความชำนาญ ขาดวิสัยทัศน์

 ขาดทัศนคติที่ดีต่อการทำงานด้านนี้

 โอนเอียงในการจัดงบประมาณสนับสนุนเอื้อประโยชน์

 จัดสรรงบประมาณไม่เป็นไปตามแผน เพื่อให้สมประโยชน์

 จัดสรรงบเพื่อทำโครงการที่ไม่ใช่หน้าที่หรือวัตถุประสงค์กองทุนจำนวนมาก

 เอื้อประโยชน์ต่อพวกพ้องตัวเอง และมีส่วนได้เสีย

 ไม่มีการชี้แจงการใช้งบประมาณจากกองทุน

  มีการใช้อำนาจอ้างอิงเพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้องเสมอ

 และอีกหลาย ๆ ข้อ ส่วนใหญ่เป็นการกล่าวโทษ พร้อมทั้งแจ้งเหตุผลที่กล่าวเช่นนั้นของแต่ละคน แม้กระทั่งมีประเด็นการกล่าวถึงการเตรียมตัวหาทางดึงกองทุนออกจากการกีฬาแห่งประเทศไทยแบบเบ็ดเสร็จคือไม่ยุ่งเกี่ยวกันต่อไป ก็มีการแจ้งมาให้ได้เห็น

 Station THAI เห็นทั้งหมดของเอกสารหรือข้อความการวิพากษ์ การเสนอแนะ การด่า ในกรณีนี้หลาย ๆ เอกสาร-ข้อความ ต้องบอกตรง ๆ ว่า “ไม่เชื่อถือมากนัก” เพราะเป็นการกล่าวหา ที่มาจากคนไม่มีตัวตนในชื่อที่ร้องเรียน แต่มูลเหตุที่นำมากล่าวในบันทึกนี้เพราะ เรื่องการร้องเรียน หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่ มันมีต่อเนื่องมายาวนานพอสมควร

 เราแค่สื่อไม่มีหน้าที่จัดการ หรือ วิพากษ์ใด ๆ แม้ว่าเอกสารที่มีอยู่นี้จะเต็มมือเต็มตา ก็ทำได้แต่เขียนเพื่อ “แสดงความห่วงใย” ตามหน้าที่สื่อ ที่สามารถนำเสนอเพื่อการแสดงบทบาทได้พอประมาณตามรัฐธรรมนูญเปิดทาง

 ท้ายนี้ก็ฝากถึงเจ้าใหญ่นายโตที่เกี่ยวข้องแบ่งเวลามามองเรื่องตรงนี้ ที่เชื่อว่าหากจะสนใจจริง ๆ หนังสือร้องเรียนพวกนี้คงหาไม่ยาก

 โดยคนที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะหัวแถวระดับไหนควรต้องเป็นผู้จัดการ เพราะจริง ๆ แล้ว ด้วยข้อกล่าวหาต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ แม้กระทั้งการระบุข้อร้องเรียนการดำเนินงานเช่นนี้ “นี่คือยุคมืดของวงการกีฬา” มันก็น่ามอง และถ้ามีการเคลียร์และตอบชี้แจงได้โดยรูปธรรมให้สังคมกีฬาที่เกี่ยวข้องได้กระจ่าง…มันก็จะเป็นคุณต่อผู้ถูกกล่าวหา และความกังขาก็จะสิ้นสุด

 Station THAI ก็ขอฝากไว้แค่นี้ ด้วยความเข้าใจผู้ร้องเรียนและเข้าใจผู้ถูกกล่าวหา ซึ่งล้วนเป็นคนกีฬาด้วยกันทั้งมวล ก็อยากให้มีการแก้ปัญหา ตอบปัญหา เพื่อทุกฝ่ายจะได้เดินทางพัฒนากีฬาไปด้วยกันในถนนที่มีแต่ไมตรี.

RANDOM

NEWS

error: Content is protected !!