Lerpop Sorutana

มรภ.สุรินทร์-มหามกุฏ-แม่โจ้ เปิดรับสมัครผู้สนใจร่วมงานจำนวนหลายอัตรา ภายในเดือน พ.ย.นี้ ติดตามได้ที่นี่

ด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ มีความประสงค์จะรับสมัครคัดเลือกบุคคลเป็นพนักงานที่จ้างจากเงินนอกงบประมาณ โดยได้รับค่าจ้างจากเงินรายได้ จำนวน 2 อัตรา โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1 ตำแหน่งนักวิทยาศาสตร์(คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) จำนวน 1 อัตรา ค่าตอบแทน: 14,680 บาท คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง :-สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านการศึกษา สาขาวิชาชีววิทยาจากสถาบันการศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)รับรองจากภายในประเทศ หรือจากหน่วยงานต่างประเทศ เกรดเฉลี่ยสะสมทุกภาคการศึกษาไม่ต่ำกว่า 3.00 สามารถปฏิบัติงานธุรการและงานสารบรรณได้ มีความรู้ความสามารถด้านการใช้งานคอมพิวเตอร์โปรแกรม Microsoft Word, Excel, Power Point หรือโปรแกรมอื่นๆ ในระดับดี ถ้ามีประสบการณ์ด้านการมีภาวะผู้นำระหว่างการศึกษาหรือหลังจากสำเร็จการศึกษา จะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ 2 ตำแหน่งครู(โรงเรียนสาธิต สำนักงานอธิการบดี) จำนวน 1 อัตรา ค่าตอบแทน: 14,680 บาท คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง :-สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี สาขาวิชาคอมพิวเตอร์หรือสาขาวิชาอื่นที่เกี่ยวข้องจากสถาบันการศึกษาที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.)รับรองจากภายในประเทศหรือจากต่างประเทศ ถ้ามีประสบการณ์การสอนจะรับพิจารณาเป็นพิเศษ ผู้ประสงค์จะสมัคร สามารถยื่นใบสมัครพร้อมเอกสารประกอบการสมัครด้วยตนเอง ได้ที่ กองบริหารงานบุคคล อาคาร 31 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ เลขที่ 186 หมู่ 1 ถนนสุรินทร์ …

มรภ.สุรินทร์-มหามกุฏ-แม่โจ้ เปิดรับสมัครผู้สนใจร่วมงานจำนวนหลายอัตรา ภายในเดือน พ.ย.นี้ ติดตามได้ที่นี่ Read More »

มจธ.ร่วมมือ ม.เกียวโต จัดเวทีที่มุ่งเน้นการนำเสนอความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน

สืบเนื่องมาจากการปล่อยก็าซเรือนกระจกซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นเรื่องเร่งด่วนของประชาคมโลก การประชุมระดับสมัชชาประเทศภาคีอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 26 (COP26) ที่จัดขึ้น ณ เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2564 ที่ผ่านมาจึงมีความเข้มข้นและจริงจังเป็นพิเศษ โดยผู้นำประเทศต่างๆทั่วโลกประมาณ 70 ประเทศรวมทั้งนายกรัฐมนตรีประเทศไทย ได้ประกาศเจตนารมณ์ในที่ประชุมเพื่อมุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในส่วนของประเทศไทยนั้น ได้ตั้งเป้าหมายภาวะความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero GHG emission) ในปี ค.ศ. 2065 ซึ่งต่อมาได้มีการประกาศความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ Net-Zero เพิ่มขึ้นอีกเป็นประมาณ 130 ประเทศ (รวมประเทศที่ประกาศเจตนาที่จะตั้งเป้าหมายในไม่ช้าด้วย) รศ.ดร.บัณฑิต ฟุ้งธรรมสาร ที่ปรึกษาอธิการบดีด้านวิจัยและนวัตกรรม มจธ. และประธานคณะกรรมการวิชาการของ SEE 2022 กล่าวว่า จากภาวะโลกร้อนที่ทวีความรุนแรงขึ้น จึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่กระตุ้นให้ทุกประเทศต้องมีมาตรการที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งมีหมุดหมายสำคัญ 2 ช่วง คือ ภายในปี ค.ศ. 2030 จะต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 45-50% และภายในปี ค.ศ.2050 จะต้องลดเหลือสุทธิเป็นศูนย์ …

มจธ.ร่วมมือ ม.เกียวโต จัดเวทีที่มุ่งเน้นการนำเสนอความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน Read More »

มูลนิธิ EDF ชวนผู้ใจบุญร่วมแบ่งปัน มอบรองเท้าให้นักเรียนที่ขาดแคลนกับโครงการ “เก่าไม่ไหว ขอคู่ใหม่ให้หนูที”

เพื่อมอบโอกาสให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนในพื้นที่ห่างไกลในโรงเรียนประถมศึกษาขนาดเล็กและโรงเรียนประถมศึกษาขยายโอกาสในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มูลนิธิ EDF (มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อการพัฒนา) เชิญผู้สนใจส่งมอบรองเท้านักเรียนคู่ใหม่ให้นักเรียนกับโครงการ “เก่าไม่ไหว ขอคู่ใหม่ให้หนูที” โดยร่วมบริจาคทาง https://taejai.com/th/d/newschoolshoes/ แพลตฟอร์มระดมทุนออนไลน์เพื่อสังคมภายใน 28 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อให้นักเรียนได้ใส่รองเท้านักเรียนคู่ใหม่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โดยมูลนิธิ EDF ตั้งเป้ามอบรองเท้านักเรียนคู่ใหม่ทั้งหมด 1,000 คู่ โครงการ “เก่าไม่ไหว ขอคู่ใหม่ให้หนูที” เพื่อมอบรองเท้านักเรียนคู่ใหม่ให้นักเรียนยากจนในโรงเรียนชนบทห่างไกล จะสามารถช่วยป้องกันความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ สร้างเสริมสุขภาพอนามัย และที่สำคัญยิ่งช่วยส่งเสริมแรงบันดาลใจในการไปโรงเรียนให้กับนักเรียนที่ขาดแคลนได้อีกด้วย สำหรับนักเรียนที่ขาดแคลนแล้ว รองเท้านักเรียน 1 คู่ มีความสำคัญมากกว่าเพียงการใส่ไปโรงเรียน พวกเขามักใส่ไปเล่นกีฬา ใส่เล่นกับเพื่อน ๆ  ใส่ทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน และใส่ไปทำงานช่วยพ่อแม่หารายได้จุนเจือครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่า ความสมบุกสมบันในการใช้งานมักทำให้รองเท้านักเรียนของนักเรียนเหล่านี้มีสภาพเก่าชำรุดในเวลาอันรวดเร็ว รองเท้าของนักเรียนบางคนอาจจะขาดวิ่นจนเห็นนิ้วโผล่ออกมา ขณะที่อีกหลายคนพื้นรองเท้าสึกจนเห็นฝ่าเท้า และมีนักเรียนจำนวนอีกไม่น้อยที่ยังไม่เคยมีรองเท้านักเรียนคู่แรกในชีวิต และใส่เพียงรองเท้าแตะไปโรงเรียน ผู้สนใจสามารถร่วมบริจาคในโครงการ “เก่าไม่ไหว ขอคู่ใหม่ให้หนูที” ของมูลนิธิ EDF ได้ที่ https://taejai.com/th/d/newschoolshoes/ ภายใน 28 กุมภาพันธ์ 2566 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่นายวีระยุทธ กันติเอื้อ ฝ่ายรณรงค์ทุนการศึกษามูลนิธิ EDF อีเมล weerayut@edfthai.org โทรศัพท์ 02 579 9209-11 (วันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-16.30 น.) ทาง LINE @edfthai สำหรับเงินบริจาคสามารถนำใบเสร็จรับเงินที่ได้รับจาก taejai.com ไปหักลดหย่อนภาษีเงินได้ประจำปีได้ตามกฎหมาย นอกจากนั้นสามารถคลิกดูรายละเอียดกิจกรรมต่าง ๆ ของมูลนิธิได้ที่เฟสบุ๊กแฟนเพจ https://www.facebook.com/edfthai หรือเว็บไซต์ www.edfthai.org

ม.เกษมบัณฑิตผนึกสถาบันอุดมศึกษาองค์กรภาคเอกชน จัดประชุมวิชาการระดับชาติตอบโจทย์พัฒนาประเทศรองรับการเปลี่ยนแปลง

ดร.วัลลภ สุวรรณดี อธิการบดี มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เปิดเผยว่าจากการที่รัฐบาลกำหนดให้ทุกภาคส่วนของสังคมเร่งพัฒนาประเทศเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันภายใต้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่พร้อมจะก้าวสู่อุตสาหกรรมยุคใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตจึงร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาและองค์กรภาคเอกชนซึ่งประกอบด้วยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน สถาบันอาชีวศึกษาภาคกลาง 5 และสมาคมผู้ผลิตเครื่องมือตัดไทย บริษัทครีเอทแมคาโทรนิกส์ จำกัด หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กำหนดจัดประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการระดับชาติ ครั้งที่ 4 เรื่อง “การพัฒนาวิศกรรมและนวัตกรรมเทคโนโลยีสู่การเป็นผู้นำพอเพียงเพื่อความยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ระหว่างวันที่  5 – 6 พฤศจิกายน 2565 ณ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า ดร.วัลลภ กล่าวต่อไปว่าสำหรับการการจัดประชุมวิชาการและแสดงนิทรรศการในครั้งนี้นอกจากนักวิชาการจากสถาบันอุดมศึกษาและภาคเอกชนจะได้ร่วมนำเสนอบทความทางวิชาการและผลงานในมิติต่างๆแล้วยังถือว่านับเป็นครั้งแรกที่สถาบันการศึกษาจะได้นำผลผลิตด้านพัฒนาวิศวกรรม นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ผลงานของอาจารย์และนักศึกษาในสังกัดคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะวิชาอื่นที่เกี่ยวข้องมาร่วมแสดงพร้อมกันนั้นสมาคมเครื่องมือตัดไทยและสถานประกอบการที่เป็นสมาชิกของสมาคมฯซึ่งมีบทบาทสำคัญในการผลิตอุปกรณ์เครื่องมือและผลผลิตทางวิศวกรรมจะได้นำผลงานส่วนสำคัญในการเพิ่มผลผลิตทางเทคโนโลยีให้กับประเทศมาร่วมในการจัดการแสดงด้วย และเพื่อให้การจัดโครงการในครั้งนี้มีความสมบูรณ์และเข้มข้นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ยิ่งขึ้นคณะกรรมการดำเนินงานยังได้จัดการเสวนาทางวิชาการเรื่อง “ระบบการศึกษาและพัฒนาตามทิศทางระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน” โดยผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการศึกษาและอุตสาหกรรมพร้อมกับการบรรยายทางวิชาการซึ่งได้รับเกียรติจากคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่จะมาร่วมขับเคลื่อนและถ่ายทอดองค์ความรู้พร้อมประสบการณ์ที่ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศภายใต้เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆอาทิ ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม บรรยายเรื่อง “ กระทรวง อว.กับการขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG” คุณวรรณา ดุลยาสิทธิพร รองประธานคณะกรรมการพัฒนาการศึกษาหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย บรรยายเรื่อง “หอการค้าไทยกับการผลิตกำลังคนให้มีทักษะและสมรรถนะตามความต้องการของผู้ประกอบการ” ศาสตราจารย์ ดร. สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ …

ม.เกษมบัณฑิตผนึกสถาบันอุดมศึกษาองค์กรภาคเอกชน จัดประชุมวิชาการระดับชาติตอบโจทย์พัฒนาประเทศรองรับการเปลี่ยนแปลง Read More »

คณะครุศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) พัฒนาสื่อการเรียนรู้ดิจิทัล “หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์”เพื่อเด็กอายุ 10-12 ปี

โครงการ“พัฒนาสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลเพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ในการจัดทำหลักสูตร “อุ่นใจไซเบอร์” เป็นโครงการเพื่อมุ่งเน้นในการออกแบบและพัฒนาสื่อการเรียนรู้ดิจิทัล รวมถึงสร้างแบบทดสอบเพื่อประเมินผลผู้เรียนตามกรอบเนื้อหาในหลักสูตร “อุ่นใจไซเบอร์” ที่พัฒนาขึ้นโดยกรมสุขภาพจิตร่วมกับ AIS และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและเทคโนโลยี ได้รับความไว้วางใจให้เป็นผู้จัดทำสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลในแต่ละเนื้อหาของหลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์ ทั้ง 4P4ป ครอบคลุมทักษะดิจิทัลให้ออกมาในรูปแบบที่เข้าใจง่าย และเข้าถึงได้ทุกเพศทุกวัย ประกอบด้วย แอนิเมชัน โมชันกราฟิก และวีดิทัศน์จำลองสถานการณ์ความยาว 3-5 นาที ดร.ดารุวรรณ ศรีแก้ว อาจารย์จากคณะครุศาสตร์ฯ มจธ. ในฐานะหัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า จุดเริ่มต้นที่ทำโครงการนี้ เริ่มจากทาง AIS ให้ช่วยเผยแพร่ DQ Framework (Digital Intelligence Quotient) ซึ่งเป็นกรอบการพัฒนาทักษะทางดิจิทัลของประเทศสิงคโปร์มาปรับและเผยแพร่บนแพลตฟอร์มดิจิทัล LearnDi และแอปพลิเคชันอุ่นใจไซเบอร์ ตั้งแต่ปี 2564 ต่อมาทาง AIS ได้มีแนวคิดจัดทำหลักสูตรการพัฒนาทักษะดิจิทัลที่เหมาะกับบริบทของไทยขึ้น โดยมีกรมสุขภาพจิตพัฒนาเนื้อหาหลักสูตร และ มจธ.เป็นผู้พัฒนาจัดทำสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลทั้งหมด จนกระทั่งออกมาเป็น“หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์”สำเร็จในเดือนเมษายน 2564 จากนั้นได้เสนอไปยังกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อขอรับรองหลักสูตรเพื่อให้ครูสามารถนำไปนับชั่วโมงการอบรมและขอเลื่อนหรือขอมีวิทยฐานะ รวมทั้งขอความร่วมมือในให้การเผยแพร่หลักสูตร จนเกิดเป็นความร่วมมือขึ้นในเดือนกรกฎาคม และเริ่มเผยแพร่สื่อการเรียนรู้ดิจิทัลของหลักสูตรเข้าไปโรงเรียนแกนนำในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในเดือนตุลาคม “ช่วงแรกๆ เป็นการอบรมเผยแพร่ให้ความรู้กับครูก่อน ประกอบกับเป็นช่วงระบาดของ COVID-19 จึงเป็นการสอนแบบออนไลน์ ทางคุณครูจึงได้ทดลองนำมาใช้เป็นสื่อการสอนและเป็นการบ้านให้กับนักเรียน หลังจากนั้น 3 เดือนได้ประเมินผลโรงเรียนแกนนำ 3 แห่ง พบว่ามีประโยชน์มาก เพราะนอกจากครูสามารถนำไปประเมินวิทยฐานะแล้ว ยังเป็นการสร้างวัคซีนให้กับเด็ก ๆ ให้มีความรู้และทักษะทางด้านดิจิทัล อีกทั้งเด็กบางคนยังนำไปเล่าให้ผู้ปกครองฟังด้วย ต่อมาในเดือนมกราคม 2565 ก็ได้รับความสนใจจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) กระทรวงมหาดไทย นำสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลของหลักสูตรไปทดลองใช้กับโรงเรียนท้องถิ่นหรือเทศบาล ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากครูและนักเรียนเช่นกัน …

คณะครุศาสตร์ฯ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) พัฒนาสื่อการเรียนรู้ดิจิทัล “หลักสูตรอุ่นใจไซเบอร์”เพื่อเด็กอายุ 10-12 ปี Read More »

มูลนิธิสัมมาชีพคัดเลือก 5 บุคคลรับรางวัล “ปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบ”ปี 2565 เพื่อเชิดชูปราชญ์ท้องถิ่นที่นำความรู้ ประสบการณ์ สร้างสรรค์งานที่ก่อให้เกิดคุณค่าและเผยแพร่ความรู้ต่อสังคม ก่อให้เกิดการนำไปปฏิบัติในวงกว้าง

นายมงคล ลีลาธรรม ประธานคณะกรรมการบริหาร มูลนิธิสัมมาชีพ กล่าวว่า คณะกรรมการมูลนิธิฯ ได้มีมติเลือก 5 ปราชญ์ชาวบ้านที่มีผลงานความสำเร็จโดดเด่นเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคม รับรางวัล “ปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ” ประจำปี 2565 โดยรางวัลดังกล่าว ทางมูลนิธิริเริ่มจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้ เพื่อเชิดชูเกียรติบุคคลที่ริเริ่ม สร้างสรรค์งาน ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม รวมทั้งเผยแพร่ความรู้และก่อให้เกิดการนำไปปฏิบัติ  ซึ่งได้รับความสนใจจากองค์กรต่างๆ ร่วมเสนอชื่อบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต่อการเป็นปราชญ์ชาวบ้านให้เข้าพิจารณาถึง 325 คน และคณะกรรมการตัดสินได้พิจารณาคัดเลือกปราชญ์ชาวบ้าน 5 คนเข้ารับรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ นายมงคลกล่าวต่อว่า สำหรับบุคคลทั้ง 5 ที่ได้รับเลือกเป็นปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพประกอบด้วย นายชัยพร พรหมพันธุ์ ชาวนา จ.สุพรรณบุรี นายบรรจง พรมวิเศษ ผู้นำชุมชน จ.ปราจีนบุรี นางประภาพรรณ ศรีตรัย ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหม้อห้อมทุ่งเจริญย้อมสีธรรมชาติ จ.แพร่ นายเปลี่ยน สีเสียดค้า นักพัฒนาปุ๋ยอินทรีย์ จ.พะเยา และนายสุริยา ศิริวงษ์ ผู้นำแปรรูปมังคุด โดยบุคคลทั้งหมดมีผลงานความสำเร็จในแต่ละด้านแตกต่างกันไป “บุคคลทั้ง 5 ท่าน เป็นผู้ที่เหมาะสมกับรางวัลปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบสัมมาชีพ เพราะเป็นผู้ที่บุกเบิก …

มูลนิธิสัมมาชีพคัดเลือก 5 บุคคลรับรางวัล “ปราชญ์ชาวบ้านต้นแบบ”ปี 2565 เพื่อเชิดชูปราชญ์ท้องถิ่นที่นำความรู้ ประสบการณ์ สร้างสรรค์งานที่ก่อให้เกิดคุณค่าและเผยแพร่ความรู้ต่อสังคม ก่อให้เกิดการนำไปปฏิบัติในวงกว้าง Read More »

สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรมการท่องเที่ยว มข.จัดสัมมนา “มหัศจรรย์สมุนไพรกัญชา” ทำอาหารก็ได้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวก็ดี

สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรมการท่องเที่ยว คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น จัดงานสัมมนา “มหัศจรรย์สมุนไพรกัญชา ตื่นตาไปกับอาหารสายเขียว เที่ยวไทยสราญใจไปด้วยกัญ” (Amazing Cannabis Herbal for Gastronomy Tourism) โดยมี ศ.ดร.มนต์ชัย ดวงจินดา รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นประธานในงาน รศ.ดร.เพ็ญศรี เจริญวานิชคณบดี คณะบริหารธุรกิจและการบัญชี มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงานสัมมนา ผศ.ดร.ดลฤทัย โกวรรธนะกุล ประธานหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดโครงการ ในการนี้มีนักศึกษา และ ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมกว่า 354 คน ณ ห้องออดิทอเรียม อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ผู้เข้าร่วมผ่านช่องทางออนไลน์รวมทั้งสิ้น 135 คน   ผศ.ดร.ดลฤทัย โกวรรธนะกุล ประธานหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า  สำหรับงานสัมมนาครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการเรียน การสอนรายวิชา BS944761 สัมมนาทางการท่องเที่ยว เพื่อให้นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาการจัดการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ได้นำทฤษฎีความรู้เกี่ยวกับการจัดประชุมสัมมนามาฝึกปฏิบัติจริง โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างการรับรู้เกี่ยวกับพืชสมุนไพรกัญชาแบบองค์รวม และเป็นการถ่ายทอดแนวทางการทำธุรกิจเกี่ยวกับสมุนไพรกัญชาให้ประสบความสำเร็จโดยใช้ Gastronomy Tourism เป็นฐานในการทำธุรกิจ  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานครั้งนี้จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ และ กระตุ้นจุดขายของผู้ประกอบการธุรกิจอาหารที่มีความสนใจในการนำสมุนไพรกัญชามาเป็นส่วนประกอบในการสร้างสรรค์เมนูอาหารของตน และ ยังเป็นการส่งเสริมยกระดับพืชสมุนไพรกัญชาของประเทศไทยสู่ครัวโลกอีกด้วย …

สาขาวิชาการจัดการนวัตกรรมการท่องเที่ยว มข.จัดสัมมนา “มหัศจรรย์สมุนไพรกัญชา” ทำอาหารก็ได้ ส่งเสริมการท่องเที่ยวก็ดี Read More »

มรภ.สงขลา จับมือเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ฯ ทำโครงการ “นาบุญ จิตอาสาซอแรงดำนา แบบวิถีพื้นบ้านสตูล” ดึงคนรุ่นใหม่สืบสานประเพณีท้องถิ่น

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา (มรภ.สงขลา) นำทีมคณาจารย์และนักศึกษา มรภ.สงขลา เข้าร่วมโครงการ “นาบุญ จิตอาสาซอแรงดำนา แบบวิถีพื้นบ้านสตูล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566” ณ ศูนย์เรียนรู้และถ่ายทอดนวัตกรรมชุมชนทุ่งใหญ่สารภีโมเดล มรภ.สงขลา วิทยาเขตสตูล โดยมี นางปิยรัตน์ ลัภกิตโร เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิด ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการได้ร่วมกันถอนเตรียมต้นกล้าและปักดำต้นกล้าในแปลงนาสาธิต ฐานการทำนาอินทรีย์ ทั้งยังเป็นการบูรณาการร่วมกับการเรียนการสอนให้แก่นักศึกษาสาขาวิชานวัตกรรมเกษตรเพื่อความยั่งยืน ได้มีประสบการณ์การดำนาด้วยวิธีปักดำ ซึมซับและสิบทอดประเพณีอันดีงาม รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดี มรภ.สงขลา กล่าวว่า ศูนย์เรียนรู้และถ่ายทอดนวัตกรรมชุมชนทุ่งใหญ่สารภีโมเดล มีวิสัยทัศน์คือ เป็นศูนย์กลาง (Hub) การทำเกษตรด้วยนวัตกรรม ยกระดับชุมชนเข้มแข็งบนฐาน BCG ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมีภารกิจการดำเนิน 3 ด้าน คือ การพัฒนาพื้นที่ พัฒนาคน และพัฒนาท้อง ตามบริบทภูมิสังคม ซึ่งในการดำเนินงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ศูนย์ฝึกการเรียนรู้และถ่ายทอดนวัตกรรมชุมชน “ทุ่งใหญ่สารภีโมเดล” ได้ดำเนินการปรับพื้นที่ตามรูปแบบ โคก หนอง นา ในพื้นที่จำนวน 13.50 ไร่ …

มรภ.สงขลา จับมือเครือข่ายศูนย์เรียนรู้ฯ ทำโครงการ “นาบุญ จิตอาสาซอแรงดำนา แบบวิถีพื้นบ้านสตูล” ดึงคนรุ่นใหม่สืบสานประเพณีท้องถิ่น Read More »

แต่งตั้งรองผู้ว่าการ กกท.2 ตำแหน่งไม่ได้ข้อยุติ เส้นทางที่ชาวหัวหมากซึ่งคุมเกมเองไม่ได้ ก็คงทำได้แค่…ต้องทนได้และทนต่อไป

ตามที่ รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2565 พร้อมกันทั้ง 2 คน จากนั้นการกีฬาแห่งประเทศไทย โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการ กกท. ได้เริ่มกระบวนการสรรหาภายในเพื่อหาผู้ที่จะขึ้นมาแทน และ มีพนักงานระดับ 9 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วม สมัครเข้าสู่การคัดเลือกลุ้นสู่ระดับ 10 (รองผู้ว่าการ) ที่เขามีสิทธิ และคณะทำงาน ที่ผู้ว่าการ กกท.ผู้ที่มีอำนาจโดยตรงในการเลือกรองผู้ว่าการฯ ได้ตั้งขึ้นมา  ได้ช่วยดำเนินการสรรหา คัดเลือกผู้ที่เหมาะสมแล้วเสร็จสิ้นขั้นตอนตั้งแต่เดือน ก.ย.2565 และได้เสนอผลต่อ ดร.ก้องศักด เรียบร้อยแล้ว จากนั้นเรื่องก็ไม่มีอะไรคืบหน้ามาก จนบัดนี้ (30 ต.ค.2565)  ก็ไม่ได้มีการนำเสนอชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือกสู่คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ด กกท. ที่มีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานกรรมการ เพื่อขอ (แค่) ความเห็นชอบก็จะได้รองผู้ว่าการ กกท.มาทำงาน เพื่อให้จบกระบวนการแต่อย่างใด…และวันนี้ ก็เลยยังไม่มีรองผู้ว่าการ กกท.คนใหม่ …

แต่งตั้งรองผู้ว่าการ กกท.2 ตำแหน่งไม่ได้ข้อยุติ เส้นทางที่ชาวหัวหมากซึ่งคุมเกมเองไม่ได้ ก็คงทำได้แค่…ต้องทนได้และทนต่อไป Read More »

ปิดหีบรับสมัคร และได้ชื่อ 12 จังหวัดที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ในไทยปี 68 แล้ว โดยส่งชิงลุ้นทั้งแบบจะขอจัดจังหวัดเดียว และขอจัดโดยรวมกลุ่มจังหวัดข้างเคียง

นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา (กกท) ในฐานะรองประธานในคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาจังหวัดเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ครั้งที่ 13  ในปี พ.ศ.2568  ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ได้เปิดเผยต่อ Station-THAI ว่าจากที่ไทยเตรียมที่จะเป็นเจ้าภาพกีฬาทั้ง 2 รายการดังกล่าว โดยหลักการเริ่มต้นคือเชิญชวนจังหวัดต่างๆ ให้เสนอตัวเป็นจังหวัดเจ้าภาพนั้น ในการดำเนินงาน ผู้ว่าการ กกท.ดร.ก้องศักด ยอดมณี ในฐานะประธานอนุกรรมการเพื่อพิจารณาจังหวัดเจ้าภาพนี้ ได้ออกหนังสือถึงทุกจังหวัดเชิญเสนอตัว พร้อมทั้งแจ้งหลักเกณฑ์การคัดเลือกไปให้ทราบพร้อมกันเมื่อต้นเดือนต.ค.2565  และกำหนดให้จังหวัดที่สนใจเสนอตัวได้แจ้งกลับมาที่ กกท.ภายในวันที่ 28 ต.ค.2565 โดยเสนอตัวได้ทั้งการรวมตัวจัดในกลุ่มจังหวัด หรือ เสนอจังหวัดเดียวก็ได้นั้น ล่าสุดคณะอนุกรรมการฯ ได้ปิดการรับเอกสารการเสนอตัวตามกรอบเวลาแล้ว ปรากฏว่ามี 12 จังหวัดที่แสดงความจำนงเข้าสู่กระบวนการคัดเลือกจังหวัดเจ้าภาพทั้ง 2 รายการดังกล่าว โดยแยกเป็นเสนอเสนอ แบบจัดจังหวัดเดียว ประกอบด้วย เชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา และ สงขลา และจังหวัดที่รวมตัวเสนอตัวแบบกลุ่มจังหวัดนั้น ประกอบด้วยกลุ่มแรก 4 จังหวัด คือ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ …

ปิดหีบรับสมัคร และได้ชื่อ 12 จังหวัดที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ในไทยปี 68 แล้ว โดยส่งชิงลุ้นทั้งแบบจะขอจัดจังหวัดเดียว และขอจัดโดยรวมกลุ่มจังหวัดข้างเคียง Read More »

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!