สกสว. เชื่อ ไทยสามารถผลิตวัคซีนได้เอง ได้มาตรฐานสากล พร้อมรับมือโรคอุบัติใหม่ในอนาคต

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) นำโดย รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. และทีมผู้บริหาร สกสว. ผู้บริหารสถาบันวัคซีนแห่งชาติ และ หน่วยบริหารจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) เยี่ยมชมและติดตามความก้าวหน้าการวิจัยและพัฒนาการผลิตวัคซีนที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ จาก สกสว. ผ่านกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กววน.) ที่ โรงงานผลิต(วัคซีน)ชีววัตถุ องค์การเภสัชกรรม ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยมี นายรังษี ปัดลี รองผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม และคณะ ให้การตอนรับ พร้อมรับฟังรายงานความก้าวหน้าโครงการวิจัยและพัฒนาการผลิตวัคซีนเอชเอ็กซ์พี-จีพีโอแวค (HXP-GPOVac) โครงการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ชนิดเชื้อตาย 4 สายพันธุ์ (TetraFluvac TF) ชนิดพร้อมฉีด (Pre-filled syringe) และ โครงการพัฒนาการผลิตวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H7N9 ชนิดเชื้อตาย ด้วยเทคโนโลยีการใช้เซลล์เพาะเลี้ยง ก่อนนำเยี่ยมชมโรงงานผลิตวัคซีน

รศ.ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการ สกสว. กล่าวว่า สกสว. เป็นหน่วยงานกลางของประเทศ ที่มีหน้าที่ในการส่งเสริม สนับสนุน และขับเคลื่อนระบบวิจัยและนวัตกรรมของประเทศในทุกด้าน เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างสมดุลและยั่งยืน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) ในทุกประเด็น โดยเฉพาะประเด็นเร่งด่วน เช่น การวิจัยและพัฒนาทางด้านวัคซีน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาและผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้เอง สามารถพึ่งพาตนเอง และแข่งขันได้ในระดับสากล และจากการเยี่ยมชมโรงงานผลิตวัคซีน ด้วยเทคโนโลยีไข่ไก่ฟัก และผลการดำเนินงานโครงการทางด้านวัคซีน ที่ สกสว.จัดสรรงบประมาณ ให้แก่ หน่วยบริหารจัดทุน บพข. และ สถาบันวัคซีนแห่งชาติ สนับสนุนแก่ องค์การเภสัชกรรม เพื่อพผลิตและพัฒนาวัคซีน โดยส่วนตัวเชื่อว่า อีกไม่นานประเทศไทยจะสามารถผลิตวัคซีนได้ตามมาตรฐานสากล เพื่อใช้ในการเตรียมพร้อมรับมือกับโรคอุบัติใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต นอกจากการผลิตวัคซีน เพื่อใช้เองในประเทศตามมาตรฐานสากลแล้ว อีกประเด็นสำคัญที่เกี่ยวเนื่อง คือ การพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่จะต้องมีการหารือ และร่วมกันขับเคลื่อนต่อไป

ด้าน นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ กล่าวว่า สถาบันวัคซีนแห่งชาติ มีหน้าที่ในการศึกษา วิเคราะห์ และจัดทำร่างนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ รวมถึงการส่งเสริม สนับสนุน หรือดำเนินการให้มีการวิจัย การพัฒนา การผลิต และการกระจายวัคซีนให้มีคุณภาพ และมีปริมาณเพียงพอ สำหรับที่จะใช้ทั้งในสถานการณ์ปกติ และในสถานการณ์ฉุกเฉิน และบริหารจัดการขับเคลื่อนการดำเนินการให้สัมฤทธิ์ผลตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ ตลอดจนสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีน และประสานงานหารือร่วมมือกับหน่วยงานของรัฐ สถาบัน การศึกษา องค์กรระหว่างประเทศ หรือองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินการเกี่ยวกับวัคซีน

ปัจจุบัน สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินการด้านวัคซีน ทั้งในส่วนของการดำเนินงานวิจัยต้นน้ำ กลางน้ำ และ ปลายน้ำ เช่น การวิจัยพัฒนากระบวนการ การวิจัยพัฒนาศักยภาพการผลิต และ การวิจัยทางคลินิก รวมงบประมาณทั้งสิ้น กว่า 7,277 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานด้านการวิจัยและพัฒนาทางด้านวัคซีน นอกจากจะเป็นการดำเนินงานตามแผน ววน.แล้ว ยังมีความสอดคล้องกับนโยบายและยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2566-2570 ภายใต้วิสัยทัศน์ ให้ประชาชนทุกคนในประเทศไทยเข้าถึงการป้องกันโรคที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม

 

RANDOM

เปิดบ้าน ม.ธรรมศาสตร์ สุดคึกคัก ชูสุดยอด 129 หลักสูตร ป.ตรี อัปเลเวลสู่ “มหาวิทยาลัยสมบูรณ์แบบชั้นนำแห่งอนาคต” รุกปรับหลักสูตรครั้งใหญ่ เน้นความสนใจ โอกาส และการเปลี่ยนแปลงโลก

สภาดิจิทัลฯ ชง “มาตรการเพื่อลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา” ช่วยนักเรียนยากจนเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ที่ประชุม ครม. รับลูก แทงเรื่องให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อ

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!