“กังหันน้ำคีรีวง” กังหันผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก นวัตกรรมฝีมือคนไทย ขยายผลสู่ชุมชนรอบเทือกเขานครศรีธรรมราช

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

แม้ว่า “ไฟฟ้าพลังน้ำ” จะเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานทดแทนที่ถูกบรรจุอยู่ ภายใต้แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2558 – 2579 (AEDP2015) แต่ส่วนใหญ่จะเน้นไปเทคโนโลยีกังหันน้ำผลิตไฟฟ้าขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าป้อนเข้าสู่ระบบสายส่ง ขณะที่ เทคโนโลยีกังหันน้ำผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก ซึ่งมีราคาต่อหน่วยพลังงานต่ำสุดในกลุ่มพลังงานหมุนเวียนด้วยกัน (ประมาณ 1.5-12 บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง) กลับเป็นเทคโนโลยีนำเข้า ที่ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูงถึงกิโลวัตต์ละ 100,000 บาท เพราะยังไม่มีบริษัทของไทยที่สามารถผลิตกังหันน้ำขนาดเล็กได้ ทั้งที่เป็นเทคโนโลยีที่จะก่อให้เกิดประโยชน์กับเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกลจากสายส่งได้อย่างมหาศาล

ชุมชนคีรีวง คือ ตัวอย่างหนึ่งของชุมชนเกษตรกรรม ที่อยู่ห่างไกลจากจากสายส่ง และต้องใช้เครื่องปั่นกระแสไฟฟ้า ที่ทำให้มีต้นทุนค่าน้ำมันค่อนข้างสูง และหากจะใช้แผงโซลาร์เซลล์ก็มีที่โล่งแจ้งอยู่จำกัด และใช้ได้เฉพาะเวลากลางวัน ขณะเดียวกันระบบท่อที่เกษตรกรแต่ละรายทำ ก็เป็นการใช้น้ำที่ไหลผ่านท่อลงมจากจากยอดเขา เพื่อปลูกผลไม้และพืชสวนต่าง ๆ เพียงอย่างเดียว ทั้งที่หากนำมาผ่านเครื่องกังหันน้ำผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (0-1 KW) ก่อนปล่อยสู่แปลงปลูก ก็จะทำให้มีกระแสไฟฟ้าที่นำไปใช้ประโยชน์ได้อีกหลายด้าน

นี่จึงเป็นที่มาของการเข้าไปทำการวิจัย พัฒนา ติดตั้ง และทดลองใช้กังหันน้ำผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ณ ชุมชนหมู่บ้านคีรีวง ตั้งแต่ปี 2548 โดยมี ผศ.ดร.อุสาห์ บุญบำรุง หัวหน้าห้องปฏิบัติการวิจัยบูรณาการระบบพลังงานสะอาด สถาบันพัฒนาและฝึกอบรมโรงงานต้นแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เป็นหัวหน้าโครงการ ที่ภายในระยะเวลา 4 ปี ก็สามารถพัฒนากังหันน้ำผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก เป็นการพัฒนาโดยคนไทย 100 เปอร์เซ็นต์ ภายใต้ชื่อ “กังหันน้ำคีรีวง”

ทีมวิจัยเข้าไปร่วมกับชุมชน เพื่อพัฒนาและสร้างกังหันน้ำผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (Pico Turbine) เมื่อปี 2548 จนมีการติดตั้ง “กังหันน้ำคีรีวง” ที่มีกำลังผลิต 1 กิโลวัตติ์ ให้กับชุมชนแห่งนี้เป็นครั้งแรก เมื่อปี 2552 จุดเด่นสำคัญของกังหันน้ำคีรีวง ที่มีขนาดเล็ก มีความทนทาน ดูแลรักษาง่าย รวมถึงมีค่าประสิทธิภาพการเปลี่ยนพลังงานน้ำเป็นไฟฟ้าค่อนข้างสูง โดยเฉพาะเมื่อคำนวณความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์แล้ว พบว่า กังหันน้ำคีรีวง ขนาด 1 กิโลวัตต์ มีต้นทุนการติดตั้งและบำรุงรักษาตลอด 20 ปี ไม่เกิน 40,000 บาท จะใช้เวลาคุ้มทุนในเวลาไม่ถึง 2 ปี เมื่อเทียบกับการใช้เครื่องปั่นไฟ ซึ่งตลอด 20 ปี จะมีค่าน้ำมันหลายแสนบาท ทำให้วันนี้มีการติดตั้งและใช้งานกังหันน้ำขนาดเล็กในพื้นที่ของชุมชนคีรีวงมากกว่า 160 ชุด โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมกันกว่า 91 กิโลวัตต์

ด้าน คุณวิรัตน์ ตรีโชติ เลขาฯวิสาหกิจชุมชนกังหันน้ำคีรีวง กล่าวว่า แม้กังหันน้ำคีรีวงจะมีข้อจำกัดตรงที่เป็นระบบผลิตไฟฟ้าระดับครัวเรือน ต่างจากแหล่งพลังงานสะอาดอย่างโซลาร์เซลล์ หรือ กังหันลม ที่คนในชุมชนได้รับประโยชน์ร่วมกัน ทำให้ที่ผ่านมาไม่สามารถขอรับการสนับสนุจากกกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานได้ แต่กังหันน้ำของที่นี่สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความคุ้มค่า และทำให้ในปีนี้มีสมาชิกในกลุ่มแสดงความจำนงขอติดตั้งกังหันน้ำด้วยเงินของตัวเองไม่น้อยว่า 10 ราย นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มเกษตรกรในอำเภอร่อนพิบูลย์ อำเภอพิปูน รวมถึง อำเภอที่อยู่รอบเทือกเขานครศรีธรรมราช เข้ามาศึกษาดูงานและสอบถามรายละเอียดของการติดตั้งและใช้งานกังหันน้ำชนิดนี้อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น เพื่อให้การผลิตและใช้ไฟฟ้าจากพลังงานน้ำขนาดเล็กในพื้นที่ห่างไกลของประเทศมีความยั่งยืน ก่อให้เกิดการขับเคลื่อนตามแผนพัฒนาพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทางเลือก พ.ศ. 2558 – 2579 (AEDP 2015) ตามยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน และแผนปฏิรูปพลังงาน รวมทั้งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน หรือ SDG ข้อ 7 สร้างหลักประกันให้ทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานสมัยใหม่ที่ยั่งยืนในราคาที่ย่อมเยา จึงเป็นที่มาของ “โครงการการพัฒนาแผนแม่บทเพื่อส่งเสริมกังหันน้ำขนาดเล็กในชุมชนรอบเทือกเขานครศรีธรรมราช โดยใช้กระบวนการนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม” ภายใต้การสนับสนุนของ วช. ที่จะต่อยอดจากกังหันไฟฟ้าจากกังหันน้ำขนาดเล็กในชุมชนคีรีวง ไปสู่ชุมชนรอบเทือกเขานครศรีธรรมราชทั้งหมด ที่ครอบคลุม 40 อำเภอ ของ 6 จังหวัด (สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง ตรัง สตูล และสงขลา)

“การนำกังหันน้ำขนาดเล็กมากมาใช้งานในพื้นที่ชุมชนคีรีวง อาจจะเป็นความสำเร็จในวันนี้ แต่การจะทำให้พื้นที่คีรีวงเป็นแหล่งที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ และเอื้อประโยชน์ต่อชุมชนรอบเทือกเขาแห่งนี้อย่างยั่งยืน นอกจากต้องทำให้แต่ละคนได้เห็นถึงประโยชน์และความคุ้มค่าของการติดตั้งและใช้กังหันน้ำขนาดเล็กอย่างเป็นรูปธรรม แต่จะต้องทำให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการวางแผนการใช้ทรัพยากรที่มีจำกัดนี้ร่วมกัน เพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างแท้จริงและยั่งยืน” ผศ.ดร. อุสาห์ กล่าวทิ้งท้าย

จากงานวิจัยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการพึ่งพาตนเองด้านเทคโนโลยี มาเป็นนวัตกรรมการผลิตไฟฟ้าที่ทำให้เกิดการใช้ทรัพยากรสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้กับเกษตรกร วันนี้กังหันน้ำคีรีวงกำลังทำหน้าที่ขับเคลื่อนชุมชนรอบเทือกเขานครศรีธรรมราช สู่เครือข่ายการจัดการน้ำที่จะช่วยทำให้พื้นที่แห่งนี้ เป็นแหล่งทรัพยากรที่จะสร้างคุณค่าและมูลค่าให้กับในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

RANDOM

สอศ. จับมือ ศูนย์การศึกษาเกาหลี ประจำประเทศไทย (KEC ) และ ศูนย์ระบบอนุญาตการจ้างงาน (EPS) กระทรวงการจ้างงานและแรงงาน เปิดสอนภาษาเกาหลีในสถานศึกษา เพื่อเข้าสู่ระบบการจ้างงานแบบถูกกฎหมาย

ทัพอาเซียนพาราไทย ประทับใจ “เหมาลำ” บินตรง สะดวก พร้อมกระซิบ กกท.งานหน้าจัดให้อีก “รองชุม” รับปากหารือ “ก้องศักด” และผู้เกี่ยวข้อง อาจเหมาบินครั้งต่อไปเอเชี่ยนพาราเกมส์ ที่หางโจว 

NEWS

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบทุนการศึกษาในโครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้าง อนาคตเด็กไทย” (ทุนการศึกษาปีสุดท้าย) ประจำปี 2568 ระดับมัธยมศึกษา ปวช. ปวส. และปริญญาตรี เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ – 8 สิงหาคม

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!