สำนักงาน ก.พ. เปิดสอบแข่งขันชิงทุน ก.ล.ต. ประจำปี 2566 หมดเขตรับสมัคร 28 ธ.ค. นี้

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ขอความร่วมมือจาก สำนักงาน ก.พ. ให้ดำเนินการสอบแข่งขันเพื่อรับทุนสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ประจำปี 2566 (ทุนบุคคลทั่วไประดับปริญญา) จึงประกาศรับสมัครสอบแข่งขัน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ทุนที่รับสมัครสอบ จำนวน 2 หน่วย รวม 3 ทุน

2. ข้อผูกพันในการรับทุน
2.1 ผู้ได้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติงานกับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน
2.2 กรณีที่ผู้ได้รับทุนไม่เข้าปฏิบัติงานชดใช้ทุนตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ผู้ได้รับทุนต้องชดใช้เงินที่สำนักงานได้จ่ายไปทั้งหมดหรือบางส่วน โดยคำนวณจากระยะเวลาที่ไม่ได้ทำงานให้สำนักงานคืนสำนักงาน และต้องจ่ายเงินอีกจำนวนหนึ่งซึ่งเท่ากับจำนวนสองเท่าของเงินทั้งหมด หรือตามส่วนที่สำนักงานให้ผู้ได้ทุนชดใช้ดังกล่าวเป็นเบี้ยปรับแก่สำนักงานด้วย

3. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครสอบ
3.1 ผู้มีสิทธิสมัครสอบต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
– เป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไป และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 36 แห่ง พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 (รายละเอียดตามเอกสารแนบท้าย 2) และเป็นผู้มีคุณสมบัติเฉพาะตามที่กำหนดไว้ในแต่ละหน่วยทุน (รายละเอียดตามเอกสารแนบท้าย 1)
– ทุนศึกษาระดับปริญญาเอก
เป็นผู้ได้รับปริญญาโท หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกัน และมีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรการศึกษาไม่ต่ำกว่า 3.50 และต้องมีอายุไม่เกิน 35 ปี นับถึงวันปิดรับสมัคร (วันที่ 28 ธันวาคม 2565)
3.2 ผู้สมัครสอบที่มีผลการเรียนเฉลี่ยสะสมรวมทุกภาคการศึกษาที่ผ่านมา หรือตลอดหลักสูตรการศึกษาไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ จะต้องมีหนังสือรับรองผลการเรียนจากสถานศึกษามาแสดงว่าเป็นผู้มีผลการเรียนเทียบเท่ากับผลการเรียนที่กำหนดไว้ในแต่ละหน่วยทุนตามเอกสารแนบท้าย หากผู้ใดไม่มีหนังสือรับรองผลการเรียนมาแสดง จะถือว่าขาดคุณสมบัติในการสมัครสอบครั้งนี้
3.3 ผู้สมัครสอบที่เคยได้รับทุนรัฐบาล หรือทุนอื่นที่มีสัญญาผูกพันในการปฏิบัติงานชดใช้ทุนและอยู่ระหว่างดำเนินการไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ ไม่มีสิทธิสมัครสอบในครั้งนี้
3.4 ผู้สมัครสอบที่เคยได้รับทุนรัฐบาลไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศมาแล้ว ต้องเป็นผู้ซึ่งหมดภาระผูกพันในการปฏิบัติราชการ/ปฏิบัติงานชดใช้ทุนตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับ ก.พ. หรือส่วนราชการแล้ว ภายในวันที่ปิดรับสมัคร (วันที่ 28 ธันวาคม 2565)
3.5 ผู้สมัครสอบที่เป็นข้าราชการ ต้องแสดงหนังสืออนุญาตให้สมัครสอบ และยินยอมให้ไปปฏิบัติงานที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จากหัวหน้าส่วนราชการเจ้าสังกัด หากมิได้แสดงหนังสือดังกล่าว ก.พ. จะพิจารณาไม่ให้มีสิทธิสมัครสอบ หรือเพิกถอนการให้ทุน
3.6 ผู้สมัครสอบที่เป็นพนักงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ต้องแสดงหนังสือรับทราบจากผู้อำนวยการฝ่ายที่สังกัด หากมิได้แสดงหนังสือดังกล่าว ก.พ. จะพิจารณาไม่ให้มีสิทธิสมัครสอบ หรือเพิกถอนการให้ทุน
3.7 เป็นผู้ที่มีศีลธรรม และความประพฤติดี
3.8 สำหรับภิกษุสามเณร ทางราชการไม่รับสมัครสอบ และไม่อาจให้เข้าสอบแข่งขันเพื่อรับทุนดังกล่าว
3.9 สำหรับผู้สมัครสอบซึ่งเป็นเพศชาย ต้องผ่านการรับราชการทหาร หรือพ้นการเกณฑ์ทหารแล้ว หรือมีหลักฐานแสดงว่าไม่ต้องรับราชการทหาร
3.10 ในกรณีที่ผู้สมัครสอบได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้ได้ทุนแล้ว สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการรับสมัครคัดเลือกและบรรจุเป็นพนักงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากเมื่อผู้ได้ทุนปฏิบัติตามสัญญาทุนการศึกษาและสำเร็จการศึกษากลับมาจากต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จะบรรจุผู้ได้ทุนเป็นพนักงานอยู่แล้ว

4. การรับสมัครสอบ
4.1 ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ ดูรายละเอียดทางอินเทอร์เน็ตในเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. ที่ http://www.ocsc.go.th, http://scholar.ocsc.go.th พร้อมทั้งสามารถพิมพ์แบบฟอร์มที่ใช้ในการสมัครสอบได้ในเว็บไซต์ดังกล่าว
4.2 กำหนดวันรับสมัครสอบ และวิธีการสมัคร
– ผู้ประสงค์จะสมัครสอบ สมัครได้ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน – 28 ธันวาคม 2565 ทางอินเทอร์เน็ต ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ ตามขั้นตอนดังนี้
(1) เปิดเว็บไซต์ http://scholar.ocsc.go.th
(2) กรอกข้อความในใบสมัครให้ถูกต้องและครบถ้วน ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนด ระบบจะออกแบบฟอร์มการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ บมจ. ธนาคารกรุงไทย ให้โดยอัตโนมัติ
(3) พิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงินลงในกระดาษขนาด A4 จำนวน 1 แผ่น หรือหากไม่มีเครื่องพิมพ์ในขณะนั้น ให้บันทึกข้อมูลเก็บไว้ในรูปแบบ File ลงในสื่อบันทึกข้อมูล ในกรณีที่ไม่สามารถพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงิน หรือบันทึกข้อมูลได้ ผู้สมัครสอบ
สามารถเข้าไปพิมพ์แบบฟอร์มการชำระเงิน หรือบันทึกข้อมูลลงในสื่อบันทึกข้อมูลใหม่ได้อีก แต่จะแก้ไขข้อมูลในการกรอกใบสมัครไว้แล้วไม่ได้
– นำแบบฟอร์มการชำระเงินไปชำระเงินค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ
เฉพาะที่เคาน์เตอร์ บมจ.ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ ชื่อบัญชี “ค่าธรรมเนียมสอบทุนของ ก.พ.”
ตั้งแต่ 10 พฤศจิกายน – 29 ธันวาคม 2565 ภายในเวลาทำการของธนาคาร การสมัครสอบจะมีผลสมบูรณ์ เมื่อชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบแล้ว
– ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบ ประกอบด้วย
(1) ค่าธรรมเนียมสอบ หน่วยละ 100 บาท
(2) ค่าธรรมเนียมธนาคารรวมค่าบริการทางอินเตอร์เน็ต จำนวน 30 บาท
ค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบจะไม่จ่ายคืนให้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
– ผู้สมัครสอบที่ชำระค่าธรรมเนียมในการสมัครสอบแล้ว จะได้รับเลขประจำตัวสอบ โดยจะกำหนดเลขประจำตัวสอบตามลำดับของการชำระเงิน ทั้งนี้ ผู้สมัครสามารถตรวจสอบสถานะของการชำระเงินได้ ภายหลังการชำระเงิน 7 วัน
– ผู้สมัครสอบสมัครได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น
– การสมัครสอบตามขั้นตอนข้างต้น ถือว่าผู้สมัครสอบเป็นผู้ลงลายมือชื่อ และรับรองความถูกต้องของข้อมูลดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้น หากผู้สมัครสอบจงใจกรอกข้อมูลอันเป็นเท็จ อาจมีความผิดฐานแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137

5. การทำสัญญา
ผู้มีสิทธิได้รับทุนต้องทำสัญญาตามแบบสัญญาที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนด ทั้งนี้ จะทำสัญญาได้ ต่อเมื่อมีผลการตรวจสุขภาพและอนามัยจากคณะกรรมการแพทย์ของ ก.พ. ที่ระบุว่าพร้อมที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศได้

6. การรับเงินทุน
ผู้ได้รับทุนจะได้รับเงินทุน เมื่อทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว และจะได้รับค่าใช้จ่ายตามอัตราและหลักเกณฑ์ที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์กำหนด

อ่านรายละเอียดของทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3goEar9

RANDOM

NEWS

error: Content is protected !!