รร.บ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ จ.ลำพูน ต้นแบบ “โรงเรียนดีมีทุกที่” ของภาคเหนือ

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

“โครงการโรงเรียนดีมีทุกที่” เกิดขึ้นจากความร่วมมือของ มูลนิธิเอเชียประจำประเทศไทย ร่วมกับ สถานทูตออสเตรเลีย, มูลนิธิอานันทมหิดล, สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 อสมท., กรุงเทพมหานคร และสำนักคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดพลังบวกในสังคม และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน “โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์” อ.ลี้ จ.ลำพูน หนึ่งในโรงเรียนดีของทางโครงการฯ ได้ใช้หลักบวร นำบ้าน, วัด และโรงเรียน มาจัดการด้านการศึกษาให้กับเยาวชนจนประสบความสำเร็จ ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก สามารถนำมาเป็นต้นแบบในโครงการโรงเรียนดีมีทุกที่ของภาคเหนือ

ดร.ธราดร ตันวิพงษ์ตระกูล ผู้อำนวยการ โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ อ.ลี้ จ.ลำพูน กล่าวว่า “โรงเรียนบ้านห้วยต้มฯ ตั้งอยู่ในชุมชนพระพุทธบาทห้วยต้ม ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชาวปกาเกอะญอ หรือกะเหรี่ยง โดยมีครูบาชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน และเป็นผู้ก่อตั้งโรงเรียนขึ้นมา สิ่งที่โดดเด่น คือ ทางโรงเรียนได้ใช้หลักบวร นำบ้าน วัด โรงเรียน มาผสานสัมพันธ์ในการพัฒนาเด็ก เกิดเป็นโรงเรียนแห่งการเรียนรู้ที่มีการพัฒนาทั้งด้านวิชาการ วิชาชีพ และวิชาชีวิต โดย “บ้าน” คือ ทรัพยากรบุคคลในชุมชน ที่ได้มาร่วมมือกันพัฒนาสิ่งมีประโยชน์ต่อลูกหลาน เช่น ช่วยกันสร้างสนาม BBL (Brain Based Learning) เพื่อเด็ก ๆ จะได้มีสถานที่เล่นปนเรียน เพิ่มความสนุกสนาน, ส่วน “วัด” ก็จะสนับสนุนการดูแลเรื่องคุณธรรม จนทำให้เป็นโรงเรียนคุณธรรมของ สพฐ. และเป็นโรงเรียนดี ไม่มีอบายมุข  สอดคล้องกับการเป็นหมู่บ้านศีล 5 แห่งแรกของประเทศไทย, ด้าน “โรงเรียน” ก็ได้มีการปรับตัว พัฒนาให้เกิดการเรียนรู้อย่างแท้จริง ทั้งด้านศักยภาพครู บุคลากร ผู้บริหาร รวมถึงนักเรียนอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยมีการกำหนดทิศทางของโรงเรียนไว้ คือ คิดและทำอย่างมีคุณภาพมาตรฐาน แต่อยู่ในบริบทของพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีหน่วยลูกเสือจิตอาสาพระราชทาน ทำให้สามารถปลูกฝังนักเรียนในเรื่องจิตอาสา เป็นคุณธรรมที่อยู่ในใจ จนกลายเป็นจริยธรรมที่ปรากฏออกมาในการทำกิจกรรมต่าง ๆ มีการนิมนต์ท่านเจ้าคณะ ต.นาทราย มาให้ความรู้ เทศนาธรรม และการปฏิบัติสมาธิ จนเกิดเป็นค่ายคุณธรรมที่นักเรียนทุกระดับชั้นได้ปฏิบัติเป็นประจำทุกปี

ด้าน ดร.รัตนา แซ่เล้า เจ้าหน้าที่โครงการอาวุโส มูลนิธิเอเชียฯ หัวหน้าในการจัดทำโครงการ ได้กล่าวเสริมว่า คุณครูที่โรงเรียนบ้านห้วยต้มฯ เป็นแรงหนุนสำคัญในการพัฒนาโรงเรียน ต้องอย่าลืมว่าโรงเรียนนี้ตั้งอยู่บนที่สูง ในช่วงฤดูเก็บเกี่ยวลำไย เด็กจำนวนมากต้องหยุดเรียนไป เพื่อช่วยเหลือทางบ้าน ครูจึงเป็นเสาหลักในการตามเด็กกลับมาเรียน หรืออธิบายให้ผู้ปกครองได้รับทราบ นอกจากนี้ ยังมีปัญหาและความท้าทายอีกหลายอย่าง ซึ่งคณะครูและผู้บริหารได้ร่วมกันแก้ไขปัญหา มีการทำงานร่วมกันเป็นทีม ช่วยเหลือและสื่อสารกัน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าจะมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ไม่เอื้อต่อการพัฒนา แต่โรงเรียนก็ไม่นำมาเป็นประเด็นเพื่อขัดแย้งกับความสำเร็จ สามารถผลักดันและปรับตัวเองให้เป็นโรงเรียนสมัยใหม่ ก้าวหน้า เด็กมีงานทำ หรือได้เรียนต่อ และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข

ในส่วนของตัวนักเรียนนั้น นายชาติชัย คีรีเสถียรทรัพย์ ชั้น ม.3/1 โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ อ.ลี้ จ.ลำพูน เล่าว่า “โตขึ้นผมอยากเป็นช่างทำสีรถ เพราะมีความชอบเกี่ยวกับเครื่องยนต์ โดยตั้งใจจะไปศึกษาต่อในระดับชั้นที่สูงกว่าในตัวเมือง จ.ลำพูน ในช่วงโควิดที่ผ่านมา ผมใช้วิธีการหาความรู้ผ่าน Google และพูดคุยกับเพื่อนและคุณครูผ่านการแชท และเมื่อมีเวลาว่างก็จะเข้าไปดู YouTube เพื่อหาความบันเทิง โดยชอบดูการ์ตูนพวก Marvel ต่าง ๆ”

ขณะที่ นายนราวิชญ์ ธารสุขสนธิ ชั้น ม.3/1 โรงเรียนบ้านห้วยต้มชัยยะวงศาอุปถัมภ์ บอกว่า “ผมอยากเป็นนักวาดการ์ตูน วิชาที่ชอบและเรียนดีที่สุด คือ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ และศิลปะ สมัยที่เรียนชั้นประถม ผมเป็นตัวแทนส่งรูปภาพเข้าประกวด และได้รางวัลทุกปี ส่วนวิธีการหาความรู้ในช่วงที่ผ่านมา ถ้าเป็นพวกสูตรและหลักการต่าง ๆ นั้น จะไปหาจากใน Google แต่ถ้าเป็นวิธีการคิด ผมจะเข้าไปดูใน YouTube ซึ่งสำหรับผมคิดว่าเป็นวิธีการที่ดี โดยจุดเด่นของโรงเรียนเรา ผมคิดว่าจะเป็นเรื่องวัฒนธรรม อาทิ การใส่เสื้อปกาเกอะญอ และการกินเจในวันพระครับ”

 

 

RANDOM

“ครูมวยไทย” เนื้อหอม เตรียมเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่เผยแพร่กิจกรรมส่งเสริมกีฬามวยไทย ที่ซาอุดีอาระเบีย ระหว่าง 7-9 พ.ค.นี้ หลังได้ใบประกาศนียบัตร ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สาขาผู้ฝึกสอนมวยไทย ระดับ 1

คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ชวนน้อง ๆ นักเรียน นักศึกษา ร่วมประกวดภาพยนตร์สั้น Short Film Contest “พราวไทย : Proud Thai สืบสาน อนุรักษ์ สร้างสรรค์เอกลักษณ์ วัฒนธรรมไทย” ชิงทุนการศึกษา 420,000 บาท สมัครและส่งผลงานได้ตั้งแต่บัดนี้ – 8 พ.ค. 67 

error: Content is protected !!