เครื่องตรวจจับความเร็วแบบเลเซอร์ ฝีมือคนไทย ราคาถูกกว่านำเข้า 5 เท่า

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกในปี 2564 พบว่า ประเทศไทยยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงเป็นอันดับ 9 ของโลก และสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ในทวีปเอเชีย และภูมิภาคอาเซียน คิดเป็นอัตราส่วน 32.1 รายต่อแสนประชากร ซึ่งส่งผลอย่างมากต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมต่อไปในระยะยาว เนื่องจากต้องสูญเสียบุคลากรที่เป็นแรงงานเพื่อพัฒนาประเทศ ทำให้เรื่องของอุบัติเหตุบนท้องถนนต้องมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาร่วมรณรงค์และกวดขันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับจราจร โดยเฉพาะความเร็วในการขับขี่ยานพาหนะ ที่ถือเป็นปัจจัยหลักของการสร้างวินัยด้านการจราจรของคนไทย

อย่างไรก็ตาม เครื่องมือการตรวจจับความเร็วของยานพาหนะที่ใช้อยู่ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่เป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศ และมีราคาสูง ทำให้ “พ.ต.ท.ภูริตพัชร์ นันทสิทธิ์อังกูร” สารวัตรกลุ่มงานวิจัยประเมินผล 3 กองวิจัย สำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะ เริ่มต้น “โครงการวิจัยและพัฒนาเครื่องตรวจจับความเร็วของรถยนต์ด้วยแสงเลเซอร์” โดยได้รับทุนสนับสนุนจาก กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) เพื่อสร้างนวัตกรรมของคนไทยที่เป็นมาตรฐานสากลนำมาสู่การลดอัตราความสูญเสียลงได้

พ.ต.ท.ภูริตพัชร์ นันทสิทธิ์อังกูร เล่าถึงที่มาของโครงการวิจัยว่า มาจากกระแสข่าวของสื่อมวลชน ที่รายงานถึงการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องตรวจวัดความเร็วของหน่วยงานราชการบางแห่งที่สูงมาก ประกอบกับ การใช้งานเครื่องตรวจวัดความเร็วของเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องใช้เป็นประจำทั้งในส่วนของระดับนครบาลและภูมิภาค จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานทั้งในภาครัฐและเอกชน เสนอโครงการวิจัยชิ้นนี้ขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานจริง ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทุกฝ่าย

โครงการวิจัยนี้เริ่มต้นจากการประกอบชิ้นส่วน มีตัวปล่อยรังสี หัววัดตรวจจับความเร็ว และจุดกำเนิดแสงเลเซอร์ ที่เป็นการผลิตภายในประเทศไทย เพราะไทยมีความพร้อมในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว แต่ก็มีชิ้นส่วนบางประเภทที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศด้วย พร้อมๆกับการนำเครื่องตรวจวัดที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ของหน่วยงานราชการอื่นเข้ามาถอดชิ้นส่วน เพื่อตรวจสอบองค์ประกอบไปด้วยกัน เป็นเสมือนการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องลองผิดลองถูก เมื่ออุปกรณ์ต้นแบบแล้วเสร็จ จึงได้เริ่มการทดลองร่วมกับ สถาบันมาตรวัดวิทยาแห่งชาติ ซึ่งถือเป็นหน่วยงานที่น่าเชื่อถือระดับประเทศ เพื่อทดสอบเครื่องตรวจจับความเร็วที่ถูกคิดค้นขึ้นมาในห้องทดลอง จนได้รับการรับรองที่เป็นมาตรฐาน

นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากบริษัทเอกชนที่มีมาตรฐานระดับโลก เข้าร่วมทดสอบการตรวจจับความเร็วในสนามจริง ซึ่งผลการทดสอบถือว่าดีตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ทั้งสองแห่ง โดยขณะนี้มีเครื่องตรวจจับความเร็วต้นแบบทั้งหมด 3-5 เครื่อง และได้นำมาใช้งานจริงที่ กองบังคับการตำรวจจราจร กับ กองบังคับการตำรวจทางหลวง แล้ว

ทั้งนี้ งานวิจัยดังกล่าว ได้รับการให้ความสนใจจากบริษัทเอกชน 2 บริษัท ที่ต้องการนำองค์ความรู้จากงานวิจัยชิ้นนี้ไปพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น ในการตรวจจับความเร็วที่เป็นของคนไทยทั้งหมด ซึ่งจะมีความชัดเจนมากขึ้นในการพัฒนาช่วงเดือนเมษายนนี้ ส่วนผลตอบรับจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้งานถือว่าดีมาก เพราะมีเครื่องมือเข้ามาช่วยตรวจจับความเร็ว และสร้างความปลอดภัยในท้องถนนได้มากขึ้น ช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้ และยังช่วยประหยัดงบประมาณได้มากอีกด้วย

“เครื่องตรวจจับความเร็วจากต่างประเทศ หากตรวจสอบข้อมูลการตลาด ราคากลางอยู่ที่เครื่องละประมาณ 300,000 บาท แต่ราคาจัดซื้อสำหรับหน่วยงานราชการบางแห่งจะอยู่ที่เกือบ 500,000 บาท แต่หากเป็นเครื่องมือที่เราคิดค้นขึ้นมา ราคาจะอยู่ที่เครื่องละ 80,000-100,000 บาท ซึ่งถือว่าถูกกว่าถึง 5 เท่า” พ.ต.ท.ภูริตพัชร์ กล่าว

RANDOM

สภากาชาดไทย ร่วมกับ มจธ. และ ม.เกษตรฯ ชวนร่วมกิจกรรม “วิ่งเพื่อน้อง BOKLUEA RUN 2025” รายได้หลังหักค่าใช้จ่ายจะมอบให้กับโครงการส่งเสริมและพัฒนาทักษะการพูด อ่าน เขียนภาษาไทย ให้เเก่เด็กและเยาวชนในพื้นที่สูงจ.น่าน หมดเขตสมัคร 31 ธันวาคม

NEWS

อว. ร่วมกับ สวทช. และ สมาคมวิทยาศาสตร์ฯ จัดโครงการมอบรางวัล Prime Minister’s Science Award 2025 เพื่อเชิญชูเกียรติโครงงานวิทยาศาสตร์ของเยาวชน และครูวิทยาศาสตร์ เพื่อรับรางวัลตัวอย่างที่ดีด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ขยายเวลาส่งผลงานถึง 20 มิถุนายน นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!