นักวิจัย มจธ. ผุดไอเดียสร้างเครื่องผลิตไฮโดรเจนจากเอทานอล ไซส์มินิ จากรถตุ๊กตุ๊กปลอดมลพิษ ต้นแบบโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กเพื่อชุมชนห่างไกล

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

รถยนต์ไฮโดรเจน ได้รับการยอมรับว่าเป็นรถยนต์พลังงานสะอาดที่สุดในโลก เพราะไฮโดรเจนจะเป็นธาตุที่ไม่มีวันหมดไปจากโลก และแฝงอยู่ในแต่ละโมเลกุลของสิ่งมีชีวิตและพืชพรรณ เช่น สารเคมีจำพวกไฮโดรคาร์บอน (HC) หรือในสิ่งที่เราอุปโภคและบริโภค เช่น น้ำ (H2O) หรือ น้ำทะเล เป็นต้น และสิ่งที่ได้จากการทำปฏิกิริยาเคมีไฟฟ้า (Electrochemical Reaction) ของก๊าซไฮโดรเจน (H2) ร่วมกับ ก๊าซออกซิเจน (O2) ที่มีอยู่ในอากาศ คือ พลังงานไฟฟ้า และ น้ำบริสุทธิ์ (H2O) เท่านั้น ไม่เป็นอันตรายต่อโลกหรือสิ่งมีชีวิต และจากจุดเด่นดังกล่าวทำให้หลายสิบปีที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาเครื่องผลิตไฟฟ้าจากไฮโดรเจนออกวางจำหน่ายแล้ว รวมถึงเทคโนโลยีการผลิตไฮโดรเจน ที่ก้าวหน้าไม่แพ้กัน

สำหรับประเทศไทยที่เป็นแหล่งเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจหลากหลายชนิด เช่น อ้อย มันสำปะหลัง สามารถผลิตเชื้อเพลิงพลังงาน ที่เรียกว่า “เอทานอล” ได้ปีละกว่า 6 ล้านลิตร เพื่อใช้ผสมกับน้ำมันให้เป็นแก๊สโซฮอล์ สำหรับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน หากมีเครื่องมือที่แยกก๊าซไฮโดรเจนออกจากเอทานอลได้ จะทำให้เกิดอุตสาหกรรมพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับพืชทางการเกษตรของไทยได้ไปในคราวเดียวกัน

“โครงการผลิตระบบเซลล์เชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่จากแอลกอฮอล์” เป็นโครงการที่ ผศ.ดร.ณัฐพล วงศ์เยาว์ จาก สถาบันพัฒนาและฝึกอบรมโรงงานต้นแบบ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) เป็นหัวหน้าโครงการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นโครงการที่ต้องการพัฒนาเทคนิคในการผลิตก๊าซไฮโดรเจนจากเอทานอล โดยใช้อ้อยและมันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการผลิต เพื่อที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตพลังงานในส่วนของกระแสไฟฟ้าจากเอทานอล ผ่านกระบวนการเคมีไฟฟ้าให้มีค่าเพิ่มขึ้นจากเดิม และเพิ่มความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ผศ.ดร.ณัฐพล เปิดเผยว่า ทีมวิจัยของเราสามารถพัฒนาระบบการผลิตเชื้อเพลิงไฮโดรเจนจากเอทานอล โดยใช้ชุดท่อปฏิกรณ์ความร้อนสูงที่ใช้นิเกิล (Ni) เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ภายใต้ กระบวนการปฏิรูปด้วยไอน้ำ (stream reforming) ในการผลิตก๊าซไฮโดรเจนในรูปแบบของ syngas (H2 CH4 CO CO2) ที่มีองค์ประกอบไฮโดรเจนมากกว่า 90% ที่มีขนาดเล็กกะทัดรัด ติดตั้งง่าย และสามารถขนย้านเคลื่อนที่ได้ อธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุด คือ เราได้นำเครื่องผลิตไฮโดรเจนที่พัฒนาขึ้น มาต่อกับเครื่องผลิตไฟฟ้าในการแปลงไฮโดรเจนให้เป็นกระแสไฟฟ้าผ่านชุดเซลล์เชื้อเพลิงแบบออกไซด์แข็ง (SOFC) ที่สามารถใช้เชื้อเพลิงหลัก คือ H2 และยังสามารถใช้ CH4 และ CO ในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้อีกด้วย ให้กลายเป็นระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากเอทานอล ขนาดเล็ก (Minimal) และนำไปติดตั้งบนรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าจากพลังงานเอทานอลคันนี้นี่เอง ต้นทุนเฉพาะระบบผลิตก๊าซไฮโดรเจนประมาณ 7 หมื่นบาท (ไม่รวมตัวรถ) สามารถผลิตก๊าซไฮโดรเจนให้แก่ชุดเซลล์เชื้อเพลิงขนาด 1 kW โดยใช้เอทานอลเฉลี่ย 0.23 l/hr และในการทดสอบการเคลื่อนที่ของรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าคันนี้ ที่มีน้ำหนักประมาณ 480 kg ใช้มอเตอร์ขับเคลื่อน 1 Hp สามารถวิ่งได้จริงที่ความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

หัวหน้าโครงการวิจัย กล่าวต่อไปว่า การนำเซลล์ผลิตไฟฟ้าจากเอทานอลไปใช้งานจริงกับรถยนต์ไฮโดรเจนเหมือนรถตุ๊กตุ๊กคันนี้ อาจต้องใช้เวลาในการพัฒนาเพื่อลดความซับซ้อนของระบบฯ รวมถึงการผลักดันนโยบายที่ชัดเจนจากทางภาครัฐบาล เช่นเดียวกับ มาตรการสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) แต่เราสามารถนำเอทานอลมาผลิตไฟฟ้าเพื่อจ่ายไฟฟ้าภายในรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ได้โดยตรง นอกจากนี้ ระบบการผลิตไฟฟ้าจากเอทานอลที่มีขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายได้ และมีการบำรุงรักษาที่ไม่ยุ่งยาก จึงเป็นจุดเด่น สำหรับนำมาแก้ปัญหาด้านพลังงานให้กับชุมชนขนาดเล็ก ๆ ในพื้นที่ห่างไกลที่ระบบสายส่งไฟฟ้ายังไปไม่ถึง หรือพื้นที่ประสบภัยพิบัติได้

เมื่อนำชุดผลิตก๊าซไฮโดรเจนจำนวนหลาย ๆ ตัวมาต่อกันเป็นระบบที่ใหญ่ขึ้น ก็จะสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้นตามจำนวนเชื้อเพลิงไฮโดรเจนที่เพิ่มขึ้น จาก 1 กิโลวัตต์ เพิ่มเป็นหลายสิบ หลายร้อยกิโลวัตต์ ก็จะสามารถทำหน้าที่เป็นเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า (Generator) ให้กับระบบไฟฟ้าของชุมชนที่มีขนาดใหญ่ขึ้น หรือ เป็นสถานีประจุไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) สำหรับโรงไฟฟ้าในลักษณนี้จะมีจุดเด่นที่สำคัญ คือ สามารถทำงานได้ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ต่างจากระบบโซล่าเซลล์ที่จะผลิตไฟฟ้าได้เฉพาะช่วงที่มีแสงแดด นอกจากนี้ ชุดผลิตก๊าซไฮโดรเจนยังสามารถใช้วัตถุดิบอื่น นอกจากเอทานอล ได้แก่ ก๊าซชีวภาพ ที่มีองค์ประกอบของก๊าซมีเทน ที่สามารถนำก๊าซไฮโดรเจนที่ได้ไปผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยเซลล์เชื้อเพลิงนี้ได้”

ในส่วนของงานวิจัยในระยะต่อไปนั้น ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า จะยุบรวมระบบผลิตก๊าซไฮโดรเจนและระบบผลิตกระแสไฟฟ้าให้อยู่ในระบบเดียวกัน เพื่อเป็นการลดปริมาณชิ้นส่วน และความซับซ้อนลง ทำให้ได้ขนาดระบบรวมเล็กลง ซึ่งจะทำให้ชุดผลิตไฮโดรเจนจากเอทานอล ขนาด Minimal ตัวนี้ มีประสิทธิภาพมากขึ้น และมีต้นทุนด้านพลังงานที่ลดลงต่อไป รวมถึงการประยุกต์ใช้งานก๊าซไฮโดรเจนกับเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น เครื่องยนต์ หรือ ระบบเผาไหม้ความร้อนสูงที่ใช้กับภาคอุตสาหกรรม

โครงการผลิตระบบเซลล์เชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้าแบบเคลื่อนที่จากแอลกอฮอล์ จึงเป็นอีกหนึ่งความพยายามของนักวิจัยไทยที่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้คนหลากหลายกลุ่ม ทั้งเกษตรกรผู้ปลูกอ้อย และมันสำปะหลัง กลุ่ม SMEs ที่ผลิตแอลกอฮอล์ และกลุ่มอุตสาหกรรมโรงกลั่นแอลกอฮอล์ อีกทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเสถียรภาพและการพึ่งพาตนเองด้านพลังงาน ตามหลักการของ BCG พร้อมกับแสดงถึงการมีส่วนร่วมของประเทศไทยในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกตามพันธสัญญาที่ให้กับประชาคมโลก (COP26) ไปพร้อมกัน

RANDOM

ซีพี ออลล์ จับมือ สกสค. มอบทุนเรียนฟรี ให้บุตรหลานของครูและบุคลากรทางการศึกษาทั่วประเทศ จำนวน 100 ทุน ระดับ ปวช. ปวส. และ ป.ตรี สาขาการจัดการธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ แจ้งความประสงค์ขอรับทุน ภายใน 14 ก.พ. นี้

ก.พาณิชย์ เดินหน้าจัดการประกวดรางวัลการออกแบบยอดเยี่ยม ปี 2568 “DEmark 2025″ ในธีม “THE LIVABLE CREATION” : สร้างสรรค์ อย่างน่าอยู่” มุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม หนุนคุณภาพชีวิตที่ดี ต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่สากล

NEWS

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบทุนการศึกษาในโครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้าง อนาคตเด็กไทย” (ทุนการศึกษาปีสุดท้าย) ประจำปี 2568 ระดับมัธยมศึกษา ปวช. ปวส. และปริญญาตรี เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ – 8 สิงหาคม

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!