#เหตุการณ์ตะกร้อในซีเกมส์ครั้งที่15
#เส้นทางเหนื่อยกว่าจะได้เหรียญทองทีมชุด
เหตุการณ์การแข่งขันเซปักตะกร้อ ในกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 15 พ.ศ.2532 ซึ่งแข่งขันกันที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เริ่มต้นจากการแข่งประเภททีมชุดของนักกีฬาไทย มีเรื่องนราวที่บันทึกไว้ดังนี้
การแข่งขันนัดแรก ในการพบกันหมดประเภททีมชุด วันที่ 25 ส.ค.2532 ไทย เจอกับมาเลเซียเจ้าภาพประเดิมเลย ทีมแรกไทย ก็ชุดเก่ง ภักดี วีรัส และ เกรียงไกร ในนัดนี้ เกรียงไกร ไม่ใคร่สมบูรณ์ต้องอาศัยยาชาช่วยในเกมแข่ง มีพักให้หมอดูอาการบ่อย และ ด้วยทุกแรงทั้งแรงเชียร์และแรงฮึด ทำให้มาเลเซียสอยไทยไปก่อน 10-15, 15-12, 18-15 จากนั้นทีม บี และ ทีม ซี ทีมมาเลเซียก็ซัดไทยกระเจิง 2 ทีมรวด ทีมละ 2-0 เซตอีก
#หากมาเลเซียอยากจะแกล้งไทยก็ทำได้
หลังจากแพ้มาเลเซียในนัดแรกนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องน่าห่วงเพราะทีมที่เหลือ หากเป็นไปตามฝีมือแล้ว ทีมไทยเหนือกว่าอินโดนีเซีย สิงคโปร์ บรูไน และ ฟิลิปปินส์ หากไทยชนะหมด ก็ยังจะได้ชิงกับมาเลเซีย แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ทีมไทยกลัวกัน ณ วันนั้นก็คือ หากว่าทีมเจ้าภาพเล่นกล ด้วยการแพ้ สิงคโปร์ 1-2 ทีม คะแนน 3 ทีมคือ มาเลเซีย ไทย และ สิงคโปร์ จะเท่ากัน ต้องมานับแต้มจากผลแข่งได้-เสีย ถ้านับเซตและนับแต้มจากการชนะแต่ละทีม ทีมไทยที่แพ้มาเลเซียในนัดแรก 0-3 ทีมนั้นจะตกเป็นอันดับ 3 ทันที และอดได้ชิงเหรียญทอง (มีรายงานข่าวว่า ในซีเกมส์ก่อนหน้านี้ทีมไทยเคยใช้แผนนี้เขี่ยมาเลเซียอดชิงมาแล้ว)
#แต่มาเลเซียใจใหญ่ต่อลมหายใจให้ไทย
ในวันที่ 27 ส.ค.2532 รอบแรกนัดสุดท้ายนั้น ทีมมาเลเซีย อัดทีมบรูไนก่อน 3-0 ทีม ก่อนที่จะเอาจริง ชนะสิงคโปร์ไป 3-0 ทีม ส่วนทีมไทยนั้น ชนะอินโดนีเซีย 3-0 ทีม จากผลนี้ ทำให้ทีมไทย เป็นอันดับ 2 และได้ชิงกับเจ้าภาพที่ยืน 1 ในตารางแต้ม ที่ต้องบอกว่า ทีมไทยต้องขอบคุณ มาเลเซีย ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ไทย ที่ตอนนั้นตัวหลัก อย่าง ประภาส เปล่งเติม เอ็นเข่าขาด และอีกคนคือ วีรัส ณ หนองคาย ขาหัก ได้ชิงกับเขาในประเภททีมชุด ในวันที่ 29 ส.ค.2532….และไทยก็ต้องขอบคุณมาเลเซียอีกหน เมื่อ เราได้เหรียญทองกลับไทยในการชิงวันนั้น
การแข่งขันตะกร้อซีเกมส์ ครั้งที่ 15 รอบชิงชนะเลิศ ประเภททีมชุด ทีมมาเลเซีย เจ้าภาพ กับทีมไทย แข่งในวันที่ 29 ส.ค.2532 ที่เนการา ยิมเนเซียม
ทีมไทยชุดแรกประกอบด้วย สมประสงค์ จันทร์อ่อน ชัยรัตน์ เครื่องดี สมศักดิ์ ดวงเมือง ดวลกับเจ้าถิ่น ทีมนี้ทีมไทยโดนก่อน แพ้ไป 2 เซตรวด 3-15 และ 4-15 ใช้เวลาเพียง 41 นาที
ชุดที่สอง ทีมไทยประกอบด้วย ภักดี แดงวัฒนไพบูลย์ ชูชีพ คงมีชนม์ เกรียงไกร มุทาลัย ในเซตแรกใช้เวลา 20 นาที ไทยชนะไป 15-5 แต่ในเซตที่สอง ช่วงแรกไทยทำแต้มนำไป และหยุดอยู่ที่ 10-4 จากนั้นทีมเจ้าถิ่นก็ไล่มาเรื่อย ๆ พร้อมกับกองเชียร์เจ้าถิ่นก็เชียร์แบบสนุกสนานช่วยทีม แต่อย่างไรก็ดีทีมไทยก็ไปขึ้นแท่นนำที่ 13-10 ในช่วงนั้น กองเชียร์ของมาเลเซียก็ยังดุดัน ขณะที่กองเชียร์ชาวไทยที่เป็นเจ้าหน้าที่ทีมกีฬาอื่น ๆ เข้าสนามก็ไม่ยอมแพ้ในเสียงเชียร์ จนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในสนามเกรงจะมีอะไรเกินเลย เลยไปควบคุมระยะห่างของกองเชียร์ทั้งสองทีม เกมจึงเริ่มต่อแม้ว่าทีมไทยจะโดนกวนหนักจากเสียงเชียร์ แต่ก็ยังรักษาความมั่นใจ เข้าวินไปได้ในเซตนี้ 15-10 ใช้เวลา 42 นาที ….ต้องตัดสินกันในทีมที่สาม
ชุดที่สาม ทีมไทยประกอบด้วย แสนพล ทับทิม คำนวณ สุนนานนท์ วิรัช โพธิ์ม่วง เริ่มต้นการเล่นนั้นทีมไทยทำท่าไม่ดีนัก โดนนำไปก่อน 4-0 โค้ชจึงเปลี่ยนเอา สุรัตน์ ณ เชียงใหม่ ลงแทน แสนพล แต่ก็ยังไม่ดีขึ้น ทีมเจ้าภาพนำไทยไปก่อนแบบห่าง 9-0 และในที่สุดก็พิชิตทีมไทยไปในเซตแรกนี้ 15-4 ใช้เวลาเพียง 24 นาที
เริ่มเซตที่สอง มาเลเซีย ออกนำก่อน 2-0 ก่อนที่ไทยจะค่อย ๆ ไล่มา เป็น 3-3 ก่อนที่จะตั้งสติประคองเกมจนเอาชนะไป 15-11 ใช้เวลา 41 นาที ไล่มาตีเสมอ 1-1 เซต
ต้องวัดกันที่เซตที่สาม ที่ทีมใดแพ้ก็ต้องอดเหรียญทอง ในเซตนี้ทีมไทยออกนำไปก่อน 4-0 และเหมือนว่าเจ้าภาพอ่อนแรงลงเมื่อเจอทีมไทยที่ฮึดขึ้นมาและไทยนำห่างไปถึง 10-3 แต่ก็เดินแต้มต่อไม่ได้ เมื่อเจ้าภาพไล่มาถึง 8-12 เกมก็ยังลุ้นหนักกันตลอด เมื่อทีมไทยขึ้นแท่นไปถึง 14-8 เป็นฝั่งไทยที่ได้เสิร์ฟ ในก่อนที่จะเสิร์ฟนั้น สุรัตน์ก็วางลูกตะกร้อในมือลงพื้นแล้วนั่งกราบไปที่ลูกตะกร้อ เพื่อเรียกขวัญ และกำลังใจ
ก่อนที่จะหยิบลูกตะกร้อ แล้วก็ส่งให้ คำนวณ เพื่อโยนให้กับตัวเอง และสุรัตน์ ก็เสิร์ฟปิดเกมได้สำเร็จ เมื่อลูกพุ่งข้ามตาข่ายไปที่ช่องเกรงใจระหว่างแบ็คกับหน้าขวาของเจ้าถิ่น ลูกตกก่อนถึงเส้นหลังไปไม่มากนัก และผลจากการได้แต้มลูกนี้ ทำให้ทีมไทยชนะไป 15-8 และ แต้มนี้ทำให้ทีมตะกร้อไทยคว้าเหรียญทองซีเกมส์ ประเภททีมชุด เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน
…………………………………………….
บันทึกถึงการแข่งขันตะกร้อในซีเกมส์ครั้งที่ 15 นอกเหนือจากที่นำเสนอ ในนัดชิงทีมชุดไปแล้ว จากนี้จะเป็นการเขียนถึงประเภททีมเดี่ยว ที่แข่งขันก่อนประเภททีมชุดโดยเริ่มต้นจากรอบรองทีมเดี่ยวซึ่งแข่งวันที่ 22 ส.ค.2532
#รอบรองประเภททีมเดี่ยวคู่แรกไทยเฮ
คู่แรก…ทีมไทย เอ.ประกอบด้วย ภักดี แดงวัฒนไพบูลย์ วีรัส ณ หนองคาย เกรียงไกร มุทาลัย เอาชนะ ทีมมาเลเซียชุด บี ไปหวุดหวิด 2-1 เซต 15-3, 10-15, 18-16 ใช้เวลาดวลกัน 125 นาที โดยเซตสุดท้ายกองเชียร์ไทยหวิดหัวใจจะวาย เมื่อเจ้าภาพนำไปก่อน 8-0 และทีมไทยค่อย ๆ ไล่ จนตีเสมอ 10-10 และเบียดกัน 13-13 ต้องดิวส์ 5 แต้ม ก่อนที่ไทยจะเบียดเข้าวินไป
#รอบรองคู่2ประภาสเจ็บทีมไทยแพ้
คู่ที่สอง…ทีมไทย บี.ประกอบด้วย สุรัตน์ ณ เชียงใหม่ วิรัช โพธิ์ม่วง ประภาส เปล่งเติม เจอกับทีมมาเลเซีย เอ. ปรากฏว่าทีมไทยแพ้ไป 1-2 เซต 18-15, 12-15, 5-15 ในการแข่งขันครั้งนี้ ในเซตที่ 2 ขณะที่เกมเบียดกัน มาเลเซียนำอยู่ 13-11¬ ประภาส เปล่งเติม ประภาส วิ่งไล่ลูกเพื่อเปิดให้วิรัช ฟาดลงในแดนมาเลเซียสำเร็จ แต่การไล่ลูกครั้งนั้นประภาสเกิดพลาดท่าทำให้บาดเจ็บไม่สามารถเล่นต่อได้ จึงนำเอา สมศักดิ์ ดวงเมือง ลงไปแทน เมื่อเริ่มเล่น กรรมการกลับไปให้ทีมมาเลเซียเสิร์ฟ ทั้งที่วิรัช ฟาดลงและแต้มควรเป็นของไทย ตอนนั้นทีมไทยจึงประท้วงแต่ก็ไม่เป็นผล คนดูฝั่งเจ้าภาพก็โห่ใส่ทีมไทยตลอดเวลา พร้อมกับขว้างปาสิ่งของลงสนาม …สุดท้ายทีมไทยก็ยอมเล่นต่อและแพ้ไป
#รอบชิงทีมเดี่ยวทองเป็นของเจ้าภาพ
รอบชิงทีมเดี่ยว 23 ส.ค.2532 ทีมไทย เอ ประกอบด้วย ภักดี เกรียงไกร วีรส เจอกับ อับดุล มาเล็ก ซัมซุดดิน นอดิน ซาบา อุสดิน และ วีอาร์ โมหมัด อุสดิน ทีม บี ของเจ้าถิ่น ท่ามกลางคนชมแน่นจนล้นอยู่นอกยิม เริ่มเกมทีมเจ้าภาพเปิดฉากนำไปก่อนถึง 7-0 กองเชียร์เจ้าถิ่นได้ใจ ช่วยทำลายจังหวะทีมไทยด้วยการส่งเสียงลั่นสนามโดยเฉพาะตอนเสิร์ฟ และผู้เล่นเจ้าภาพก็ได้ใจ ชนะไปในเซตแรก 15-7 ใช้เวลา 30 นาที วัดกันต่อในเซตที่ 2 แต้มเบียดกันไปถึง 5-5 จากนั้นท่ามกลางบรรยากาศเสียงสนั่นยิม มีทั้งเสียงคน เสียงนกหวีด และกระทืบเท้า ประกอบกับทีมเจ้าภาพทำอะไรก็ดีไปหมด จึงกดทีมไทยไปได้อีกเซต 15-12 ใช้เวลา 41 นาที….ทีมมาเลเซียแย่งแชมป์ทีมเดี่ยวไทยไปสำเร็จ
#ชิงที่สามเกือบมีมวยหมู่ทีมไทยแพ้อีก
ในการชิงที่ 3 ชิงเหรียญทองแดง ทีมไทย บี. เจอกับ มาเลเซียชุด เอ เกมแข่งเป็นไปแบบวุ่นวาย มีการประท้วงจากการทำหน้าที่ของกรรมการ และ ผู้กำกับเส้นตลอด จนเกือบจะมีมวยหมู่ ทำให้เซตแรกเจ้าภาพชนะไป 15-1 และในเซตที่สอง ก็แบบเดิม ไทยเจอปัญหาเรื่องผู้ตัดสินตลอด ต้องประท้วงไปเล่นไป และกองเชียร์เจ้าภาพก็ทั้งส่งเสียงทั้งขว้างสิ่งของลงสนามมายังทีมไทยอีก แม้ว่าจะเบียดกันในเกมสนุก แต่ไทยก็แพ้ไป 16-18