สินธุฝาก กกท.ต้องเข้มแข็งในหน้าที่ช่วยเคลียร์เลือกตั้งนายกสอยคิว ขณะที่ตั้ม ศิษย์ฉ่อย ร้องตำรวจเพราะผวาเหตุการณ์วันเลือกตั้ง

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

สินธุ พูนศิริวงศ์ อดีตนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดฯ ที่ยาวนานกว่า 30 ปี ได้เปิดเผยกับ Station-THAI เพื่อย้ำให้เป็นกระบอกเสียงฝากถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่เป็นผู้กำกับดูแลการดำเนินงานของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยทั้งหมด ว่า จากที่ผ่านมา ในการจัดประชุมใหญ่ และมีการเลือกตั้งของสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 ก.ค.นั้น ปรากฏว่าถูกยกเลิกไปโดยสาเหตุต่าง ๆ ซึ่งตนเองทราบเรื่องก็แปลกใจการดำเนินงานของสมาคม และนอกจากนี้แล้วนั้นยังปรากฏว่ามีการเข้มงวดกับทุก ๆ คนที่เข้าไปทั้งร่วม สื่อมวลชนเอง และผู้ที่เข้าไปสังเกตการณ์แบบไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เพราะสมัยตนอยู่ 30 ปี ไม่เคยมีปรากฏเลย ทุกคนจะรักใคร่กันดี และมีหลายคนแจ้งตนเองว่ามีบรรยากาศที่ไม่เหมาะสมจากที่เคยเป็นมาเลยซึ่งตนเองมองว่าไม่ดี แต่ก็เมื่อผ่านไปแล้วก็ผ่านไป

ในส่วนที่จะเลือกตั้งใหม่นั้น ตนเองคงพูดอะไรไม่ได้มาก แต่ก็อยากเห็นสิ่งดีๆต่อวงการสอยคิวไทย จึงอยากจะฝากความหวังไว้ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ที่เป็นเจ้าพนักงานของรัฐตามพระราชบัญญัติ ซึ่งกำกับดูแลสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยว่า กกท.ควรต้องเคร่งครัดและเข้มงวด เพื่อให้การเลือกตั้งนี้เกิดความเป็นธรรม โปร่งใสที่สุดตามข้อบังคับของสมาคม และข้อบังคับที่ กกท.ถืออยู่ ซึ่งหากปล่อยประละเลยจะเป็นผลเสียอย่างมาก และอีกส่วนก็คือ ควรที่จะต้องแนะนำให้ใช้สถานที่ที่เป็นกลางในการดำเนินการเลือกตั้ง ไม่ใช่ที่ไหนก็ได้เพราะงานที่ถูกยกเลิกไปที่ผ่านมานี้ต้องถือว่ามีเหตุไม่ปกติ ที่วงการนี้ไม่เคยมีอย่างนี้มาก่อน  และกรรมการ – สมาชิกบางคนอึดอัด แต่ไม่กล้าพูดอะไรมาก นี่คือสิ่งที่ กกท.ควรรู้และเชื่อว่ารู้อยู่แล้วว่ามันเกิดอะไรในงานวันนั้นบ้างเพราะมีตัวแทนของสำนักงานกฎหมายของ กกท.ไปดูแลงานอยู่แล้ว หากคิดในความเหมาะสมสถานที่ในวันนั้นไม่เหมาะสมเพราะเป็นสถานที่ของผู้มีส่วนได้เสียก็อยากให้เปลี่ยนเพื่อความเหมาะสม ซึ่งจะเป็นที่ กกท.หัวหมากก็ได้ทุกคนจะได้สบายใจ พร้อมกันนี้ก็ฝากอีกว่า กกท.และผู้เกี่ยวข้องควรที่จะกำหนดการเลือกตั้งให้เร็วที่สุด เพราะสมาคมกีฬาบิลเลียดจะต้องจัดศึกสนุ้กเกอร์ 6 แดงของโลกที่เป็นเกมที่คนไทยคิดและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในเดือนกันยายนนี้ที่ประเทศไทย นายกคนใหม่จะได้มีเวลาทำงาน เพื่อไม่ให้งานเสียหาย นายสินธุกล่าว

ตั้ม ศิษย์ฉ่อย ร้องตำรวจ หลังโดนกระทำวันเลือกตั้งสอยคิวครั้งแรก

และยังมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาสอยคิวอีก โดย Station-THAI ได้รับการแจ้งว่าเมื่อวันที่ 24 กรกฏาคม 2565 เวลา 11.38 น. ที่สถานีตำรวจนครบาลบางโพงพาง นาย พศิน ภู่โอบอ้อม อายุ 54 ปี พี่ชายของต๋อง ศิษย์ฉ่อย หรือวัฒนา ภู่โอบอ้อม เจ้าของเหรียญทองสนุ้กเกอร์ในซีเกมส์ที่ประเทศเวียดนาม ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อร้อยเวรสถานีตำรวจนครบาลบางโพงพางว่า เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2565 ที่ผ่านมา ในการประชุมสามัญประจำปี ของสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ซึ่งมีวาระสำคัญคือการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ คนใหม่ ซึ่งนายพศิน หรือ ตั้ม ศิษย์ฉ่อย นอกจากเป็นนักกีฬาแล้ว ยังทำหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชน ของสมาคมหนังสือพิมพ์ส่วนภูมิภาคแห่งประเทศไทย หมายเลขสมาชิก 3076 โดยเป็นแอดมินเพจข่าว Tong Snooker Club ที่ปกติตนเองทำหน้าที่รายงานข่าวและไลฟ์สดข่าวคราว ความเคลื่อนไหว รวมถึงเป็นกระบอกเสียงให้กับนักกีฬา และผู้เกี่ยวข้องในวงการสอยคิวไทยมาโดยตลอด แต่การทำงานในการเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดที่ผ่านมา ขณะทำหน้าที่กลับถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกว่า 10 คนเข้ามารุมล้อม และพยายามดึงตัวออกจากห้องประชุม รวมถึงเพื่อนๆสื่อมวลชนอีกบางส่วนก็ถูกปฏิบัติเช่นเดียวกันกับตนเอง ซึ่งตนเองรู้สึกได้ว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัย จึงมาแจ้งเพื่อลงบันทึกประจำวันกับสถานีตำรวจนครบาลบางโพงพางไว้เป็นหลักฐาน และจะนำเสนอต่อการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่กำกับดูแลงานเลือกตั้งนี้ให้พิจารณาถึงความเหมาะสมในเรื่องของการเลือกใช้สถานที่ในการเลือกตั้งต่อไป.

 

RANDOM

error: Content is protected !!