“ผ้าใยแก้วเคลือบตัวเร่งปฏิกิริยาด้วยแสงจากกากกาแฟ” เพื่อลดสารคาเฟอีนและมลพิษอื่น ๆ ในน้ำ นวัตกรรมเพื่อแบรนด์กาแฟรักษ์สิ่งแวดล้อม

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

“คาเฟอีน” เป็นสารในกาแฟที่ช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง แต่ทราบหรือไม่ว่า คาเฟอีนมีผลยับยั้งการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ในน้ำได้ เช่น สัตว์น้ำขนาดเล็ก ซึ่งน้ำที่เกิดจากกระบวนการผลิตกาแฟทั้งในโรงงานและตามร้านกาแฟ ก็ล้วนมีสารชนิดนี้เจือปนอยู่ หากน้ำถูกปล่อยลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ โดยไม่มีการบำบัดเพื่อลดปริมาณสารคาเฟอีน ตัวอ่อนของสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ ทั้งปลา กุ้ง ปู รวมถึง สัตว์น้ำขนาดเล็ก อาจได้รับผลกระทบจากสารคาเฟอีนในระยะยาวได้

นี่จึงเป็นที่มาของการนำ “กระบวนการเร่งปฏิกิริยาด้วยแสง” (Photocatalysis) มาช่วยลดปริมาณคาเฟอีนในน้ำจากโรงงานแปรรูปกาแฟ หรือ ร้านกาแฟ ผลงานวิจัย การอัพไซเคิลกากกาแฟให้เป็นหมุดควอนตัมคาร์บอนเรืองแสง เพื่อบำบัดน้ำเสียกากกาแฟด้วยกระบวนการเร่งปฏิกิริยาเชิงแสง ของ รศ.ดร.ภาติญา เขมาชีวะกุล อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ร่วมกับ รศ.ดร.สุรวุฒิ ช่วงโชติ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมเครื่องมือและวัสดุ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) และ ดร.รัตนา ม่วงโมรา โดยทีมผู้วิจัยได้ให้ข้อมูลว่า กระบวนการเร่งปฏิกิริยาด้วยแสง คือ การใช้แสงมาเป็นตัวกระตุ้นตัวเร่งปฏิกิริยาเชิงแสงให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี และให้สารอนุมูลอิสระของไฮดรอกซิล (OH•) และ ซูเปอร์ออกไซด์แอนไอออน (O•2-) เพื่อกำจัดมลพิษในน้ำ ซึ่งหนึ่งในตัวเร่งปฏิกิริยาด้วยแสงที่นิยมใช้งานด้านการบำบัดน้ำเสีย ก็คือ ไททาเนียมไดออกไซด์

“เมื่อไททาเนียมไดออกไซด์ได้รับการกระตุ้นด้วยแสงในช่วงคลื่นที่จำเพาะ และเกิดปฏิกิริยาเคมี โดยอิเล็กตรอน (-) จะรวมกับออกซิเจน และให้ซูเปอร์ออกไซด์แอนไอออน ขณะที่ โฮลจะทำปฏิกิริยากับน้ำและให้สารอนุมูลอิสระของไฮดรอกซิล ซึ่งจะเกิดกระบวนการเคมีที่จะสลายสารมลพิษอินทรีย์ที่เจือปนอยู่ในน้ำ แต่แสงที่สามารถใช้กับไทเทเนียมไดออกไซด์ได้ คือ แสง UV ทำให้ระบบนี้อาจยังไม่จูงใจในการนำมาใช้กับการบำบัดน้ำเสียของโรงงานในปัจจุบันเท่าที่ควร”

ดังนั้น วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้ คือ การทำให้ไทเทเนียมไดออกไซด์สามารถทำปฏิกิริยาภายใต้แสงที่มีความยาวคลื่นอยู่ในช่วงที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ (Visible Light) แทนการใช้แสง UV โดยวิธีการที่เลือกใช้ คือ “การเพิ่มหมุดควอนตัมคาร์บอนให้กับไททาเนียมไดออกไซด์”

“หมุดควอนตัม” หรือ ควอนตัมดอท (quantum dot) คือ วัสดุขนาดเล็กระดับนาโน (เส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 10 นาโนเมตร) ที่มีคุณสมบัติเป็นสารกึ่งตัวนำ (semiconductor) ซึ่งสมบัติเชิงแสงสามารถเปลี่ยนไป เมื่อเปลี่ยนขนาดของวัสดุ และมีคุณสมบัติในการปล่อยพลังงานในรูปแบบของแสงที่มีความยาวคลื่นต่างจากที่ดูดกลืนเข้าไปได้ จึงมีการนำไปใช้ในไดโอทเพื่อทำให้เกิดเป็นจุดสี และเป็นที่รู้จักกันในการสร้างเป็นจอแสดงผล เช่น จอ LED การเพิ่มหมุดควอนตัมคาร์บอนให้กับไททาเนียมไดออกไซด์ จึงช่วยปรับแสงที่ได้รับในช่วงอื่นมาปล่อยในช่วงที่ไททาเนียมไดออกไซด์ทำงานได้ นอกจากนั้น หมุดควอนตัมคาร์บอนยังมีสมบัติเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาด้วยแสงด้วยตัวเองที่ทำงานได้ภายใต้แสงในช่วงคลื่นที่ตามนุษย์มองเห็น ดังนั้น ตัวเร่งปฏิกิริยาใหม่ที่หมุดควอนตัมติดอยู่บนผิวของไทเทเนียมไดออกไซด์ได้ จึงทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาด้วยแสงในการบำบัดน้ำเสียได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้แสง UV

รศ.ดร.ภาติญา กล่าวว่า จากโจทย์ที่ต้องการบำบัดสารคาเฟอีนในน้ำที่เกิดจากการผลิตกาแฟ ทีมวิจัยจึงเลือกที่จะผลิตหมุดควอนตัมคาร์บอน จาก “กากกาแฟ” ที่เป็นของเหลือทิ้งจากการแปรรูปกาแฟ หรือ ชงกาแฟอยู่แล้ว (ที่เรียกหมุดควอนตัมคาร์บอน เพราะมีโครงสร้างหลักเป็นวัสดุคาร์บอน) โดยนอกจากทีมวิจัยจะสามารถผลิตหมุดควอนตัมคาร์บอนจากกากกาแฟ และนำไปติดอยู่บนผิวของไทเทเนียมไดออกไซด์ได้แล้ว ยังพัฒนาเทคนิคในการใช้งาน โดยนำไปเคลือบไว้บนผิวของผ้าใยแก้ว และนำผ้าใยแก้วไปขึง เพื่อให้น้ำเสียไหลผ่าน แทนวิธีการเดิมที่เป็นการใส่ลงไปน้ำที่ต้องการบำบัดโดยตรง

จากการทดลองในห้องทดลองที่ให้น้ำกาแฟที่เหลือจากการชงกาแฟไหลผ่านผ้าใยแก้วอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลา 12 ชั่วโมง พบว่า สีของน้ำจะมีความใสขึ้นอย่างชัดเจน และยังทำให้ปริมาณคาเฟอีนในน้ำลดลงร้อยละ 80 ที่สำคัญ คือ การเคลือบไทเทเนียมไดออกไซด์บนผ้าใยแก้ว ทำให้ลดปริมาณไทเทเนียมไดออกไซด์ และหมุดควอนตัมคาร์บอนที่ต้องใช้ เพราะผ้าใยแก้วที่ใช้แล้ว สามารถนำไปล้างทำความสะอาดและใช้ซ้ำได้อีก และแม้จะใช้ซ้ำถึง 5 ครั้ง ก็ยังคงประสิทธิภาพในการกำจัดสารคาเฟอีนได้เท่ากับการใช้ในครั้งแรก

สำหรับการนำ “ผ้าใยแก้วเคลือบตัวเร่งปฏิกิริยาด้วยแสงจากกากกาแฟ เพื่อลดสารคาเฟอีนและมลพิษอื่น ๆ ในน้ำ” ชิ้นนี้ มาสู่การใช้งานจริงนั้น ทางผู้วิจัย กล่าวว่า เนื่องจากกฎหมายประเทศไทยยังไม่มีมาตรฐานเกี่ยวกับปริมาณคาเฟอีนในน้ำที่ถูกปล่อยออกสู่แหล่งน้ำ แต่ด้วยจุดเด่นของนวัตกรรมที่มีค่าวัสดุและต้นทุนการผลิตที่ไม่สูง เป็นระบบที่ไม่ซับซ้อน และทำงานได้ทันทีที่มีแสงแดด จึงน่าจะเป็น “จุดขาย” ให้กับผู้ผลิตกาแฟ หรือ ร้านกาแฟ ที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมได้ไม่มากก็น้อย

RANDOM

รร.วิทย์จุฬาภรณราชวิทยาลัย ปทุมธานี คว้าชนะเลิศ Thailand Junior Water Prize 2025 จากผลงาน “นวัตกรรมบำบัดน้ำลดแก๊สเรือนกระจก” เป็นตัวแทนประเทศไทยลงแข่งขันเวทีนานาชาติ Stockholm Junior Water Prize 2025 ที่สวีเดน

NEWS

บริดจ์ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย รุ่นอายุไม่เกิน 12-15-18 ปี “เด็กภูธร” โชว์ฟอร์มสุดเฉียบ พาเหรดกวาดถ้วยแชมป์ ได้ครองถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!