สจล. คิดค้น ‘อาหารผงแบบฟรีซดรายเพื่อผู้สูงวัย’ ชงดื่ม หรือ ป้อนผ่านสายยาง เตรียมลุยเฟส 2 จับมืออุตสาหกรรม ผลิตเชิงพาณิชย์ รับมือสังคมสูงวัย

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) โดย คณะอุตสาหกรรมอาหาร และ คณะแพทยศาสตร์ สร้างสรรค์นวัตกรรมอาหารทางการแพทย์เพื่อรองรับสังคมสูงวัย คิดค้นนวัตกรรม ‘อาหารผงแบบฟรีซดรายเพื่อผู้สูงวัย’ (Powdered Enteral Feeding for Aging Society) ปลอดภัย มีคุณภาพ และคุณค่าทางโภชนาการ เก็บรักษาได้ยาวนานกว่า 6 เดือน ไร้สารกันเสีย เพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้สูงวัยให้มีสุขภาพดี ส่งเสริมเศรษฐกิจในยุค Silver Economy ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อผู้สูงวัยที่มีมาตรฐานในระดับอุตสาหกรรม เตรียมเฟส 2 ร่วมมือ ภาคอุตสาหกรรมเพื่อผลิตเชิงพาณิชย์ ตอบสนองตลาดในประเทศและส่งออก

รศ.ดร. คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กล่าวว่า ด้วยวิสัยทัศน์ สจล. ที่มุ่งเป็นผู้นำนวัตกรรมระดับโลกเพื่อคนไทยและมนุษยชาติ เราได้เล็งเห็นว่า นับแต่ปี 2565 ประเทศไทยได้กลายเป็นสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Complete Aged Society) โดยมีประชากรอายุมากกว่า 60 ปี จำนวน 12.9 ล้านคน หรือ 20% ของประเทศ และ อีก 15 ปีข้างหน้า ไทยจะเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super Aged Society) ผู้สูงวัยจะมีสัดส่วน 28% ของประชากรทั้งหมด ความสำคัญของการพัฒนาอาหารผงสำหรับชงดื่ม หรือ ป้อนผ่านสายยาง มุ่งรองรับสังคมสูงวัย

ทั้งนี้ ทีม 5 นักวิจัย คณะอุตสาหกรรมอาหาร และ คณะแพทยศาสตร์ สจล. ประกอบด้วย รศ.ดร.นภัสรพี เหลืองสกุล , ดร.อรชร เมฆเกิดชู , นพ.อนวัช เสริมสวรรค์ , ผศ.ดร.คริษฐา อิ่มเอิบ และ Assist. Prof. Dr. Sri Charan Bindu Bavisetty ตอบโจทย์สังคมผู้สูงอายุด้วยนวัตกรรม ‘อาหารผงแบบฟรีซดรายเพื่อผู้สูงวัย’ โดยบูรณาการองค์ความรู้ 3 สาขา ได้แก่ เทคโนโลยีอุตสาหกรรมอาหาร การแพทย์ และโภชนาการ ในแนวคิดที่จะผลิต ‘อาหารสายยางชนิดผง’ ที่เป็น ‘แบรนด์ของไทย’ ลดการนำเข้า ช่วยเพิ่มโอกาสสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยผ่านการใช้นวัตกรรม โดยงานวิจัยนี้ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)

ด้าน รศ.ดร.นภัสรพี เหลืองสกุล หัวหน้าโครงการวิจัย และ คณบดี คณะอุตสาหกรรมอาหาร สจล. กล่าวต่อว่า โดยทั่วไปอาหารทางสายยาง แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ 1. อาหารปั่นผสม (Blenderized Diet) ที่ต้อง ‘ทำสด’ โดยฝ่ายโภชนาการในโรงพยาบาล ซึ่งมีอายุการใช้งานวันต่อวัน ไม่สามารถเก็บได้นาน มีปัญหาเรื่องความข้นหนืดที่ไม่สามารถควบคุมได้ เป็นสาเหตุทำให้ฟื้นตัวได้ช้า 2. อาหารสำเร็จรูปทางการแพทย์ (Commercial Formular) ผลิตภัณฑ์อาหารในรูปผงที่ใช้ละลายน้ำ เป็นโภชนบำบัดสำหรับผู้สูงอายุเฉพาะโรค ถ้าเป็นการนำเข้าจะมีราคาสูง

ทีมวิจัย สจล. จึงมีแนวคิดสร้างสรรค์อาหารแบบผงด้วยเทคโนโลยีฟรีซดราย (Freeze Drying) สำหรับการบริโภคโดยการชงดื่ม หรือ ละลายน้ำป้อนให้ผ่านสายยาง (Nasogastric Tube Feeding) ซึ่งเป็นการป้อนอาหารผ่านสายยางทางรูจมูกลงไปยังกระเพาะอาหาร สำหรับผู้สูงวัยที่ไม่สามารถรับประทานอาหารทางปากได้ แต่ระบบทางเดินอาหารยังทำงานปกติ ทีมวิจัยได้พัฒนาการเตรียมอาหารปั่นสด 7 สูตร โดยมีส่วนประกอบเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีแหล่งโภชนาการที่แตกต่างกัน แปรผันแหล่งของโปรตีนในสูตรอาหาร ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อปลา ถั่วเหลืองผง และ เวย์โปรตีน รวมถึงส่วนประกอบต่าง ๆ เช่น แหล่งใยอาหารจากผักและผลไม้ เป็นต้น โดยมีการคำนวณสูตรอาหารทางสายยางให้มีการกระจายพลังงานที่เหมาะสมกับความต้องการของร่างกาย

ขั้นตอนการผลิตอาหารผงแบบฟรีซดราย (Freeze Drying) มีส่วนประกอบจากแหล่งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ใยอาหาร วิตามิน เกลือแร่ โดยนำวัตถุดิบทั้งหมดหั่น เพื่อลดขนาดวัตถุดิบ และทำให้สุก ผสมวัตถุดิบเข้าด้วยกันตามสัดส่วน โดยเติมน้ำปั่นวัตถุดิบจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นแปรรูปด้วยเทคโนโลยี Freeze Drying ทำแห้งแบบแช่เยือกแข็ง โดยดึงความชื้น หรือ น้ำออกจากอาหาร ซึ่งเป็นวิธีการที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากคงคุณค่าทางโภชนาการ และสีสันตามธรรมชาติ ลดการทำลายเนื้อเยื่อและโครงสร้างสารอาหาร ทำให้อาหารผงมีคุณภาพ จากนั้นนำไปปั่นละเอียดเป็นผงตามขนาดที่กำหนด และบรรจุแพ็คสำหรับการบริโภค

ผลการวิจัย พบว่า ในจำนวน 7 สูตร “อาหารแบบฟรีซดราย” สูตร BD1 เหมาะกับผู้สูงอายุมากที่สุด เนื่องจากคุณภาพมีความหนืด (Viscosity) ที่เหมาะสม และความสะดวกในการใช้งานเพียงละลายในน้ำ ก็ทำให้อาหารลื่นไหลผ่านสายยางได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ตกตะกอน ช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับสารอาหารที่เพียงพอ ด้วยคุณค่าทางโภชนาการของอาหารฟรีซดรายแบบผงใน 1 มื้ออาหาร มีปริมาณ 150 กรัม ละลายน้ำที่ 600 มิลลิลิตร ให้พลังงานจากโปรตีน ร้อยละ 10 – 20 ไขมัน ร้อยละ 25 – 30 คาร์โบไฮเดรต ร้อยละ 50 – 55 และ ใยอาหาร ร้อยละ 57.94 ให้พลังงาน 689.85 kcal เมื่อรับประทาน 3 มื้อ จะให้พลังงาน 2,069 kcal ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายต่อวัน ที่สำคัญยังใช้วัตถุดิบทั้งหมดในประเทศ ต้นทุนการผลิตในระดับห้องปฏิบัติการต่ำ เฉลี่ยกรัมละ 0.22 บาท และ มีราคาต้นทุนผลิตภัณฑ์อาหารสายยางแบบผงเฉลี่ยมื้อละ 33.30 บาท

จุดเด่น และ ประโยชน์ของนวัตกรรมการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารทางสายยางชนิดผงในประเทศไทยจะช่วยให้ผู้สูงอายุเข้าถึงอาหารแบบผงที่มีคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า ด้านกระบวนการผลิตแบบ Freeze Drying มีประสิทธิภาพช่วยให้สามารถคงคุณค่าทางโภชนาการได้ครบถ้วน เก็บรักษาได้นาน 6 เดือนขึ้นไป โดยไม่มีวัตถุกันเสีย มีน้ำหนักเบา ประหยัดค่าขนส่ง เสริมสุขภาพผู้สูงวัยตามหลักการแพทย์ โดยไม่เสี่ยงต่อภาวะน้ำตาลสูงในโลหิต หรือ เบาหวาน นับเป็นต้นแบบของการพัฒนาการเตรียมอาหารทางสายยางแบบผงที่ถูกต้อง ตามหลักการปฏิบัติที่ดี เพิ่มความปลอดภัย ลดโอกาสปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ สะดวกในการดูแลผู้สูงอายุ และได้รับสารอาหารตามแผนการรักษาของแพทย์ ทดแทนการนำเข้า สามารถบริโภคได้ 2 วิธี คือ 1. ชงดื่มแทนมื้ออาหารหลักในผู้สูงวัยที่เบื่ออาหาร หรือ ทานอาหารได้น้อย หรือ ไม่มีเวลา หรือความพร้อมในการเตรียมอาหารที่มีคุณภาพ 2. ป้อนอาหารทางสายยาง ซึ่งความหนืดของอาหารผงเหมาะสม ช่วยให้ละลายน้ำง่าย และดูดซึมได้ดี

แผนงานในอนาคต คณะอุตสาหกรรมอาหาร สจล. เตรียมแผนสู่เฟส 2 การผลิตในเชิงพาณิชย์ ปัจจุบันเปิดให้เอกชนผู้สนใจลงทุนเพื่อขยายสู่ระดับอุตสาหกรรม นำองค์ความรู้ไปต่อยอดระบบการผลิตในเชิงพาณิชย์ เพื่อสร้างเป็นแบรนด์ของคนไทยที่สามารถกระจายผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ได้อย่างกว้างขวาง ทั้งโรงพยาบาล และ ในครัวเรือน (Home-Use) ซึ่งจะทำให้ราคาของผลิตภัณฑ์ยิ่งถูกลง นอกจากนี้ ยังสามารถนํางานวิจัยต้นแบบไปพัฒนาอาหารสูตรอื่น ๆ สำหรับผู้ป่วยเฉพาะโรค  หรือ พัฒนาในด้านรสชาติและเนื้อสัมผัสสำหรับเป็น ‘อาหารการแพทย์ทางเลือก’ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยอีกด้วย

RANDOM

อพวช. เชิญชวนผู้สนใจร่วมประกวดละครวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2567 หัวข้อ “Global Sustainability : Nations in Action” หรือ ความพยายามของประเทศไทยที่จะจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมสู่ความยั่งยืนระดับโลก เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ – 29 มกราคม 2567

error: Content is protected !!