ศธ. ร่วมมือ เอสซีจี โลจิสติกส์ และ แอบโซลูท โซลูชัน ติดตั้งระบบ Smart Safety Solution โรงเรียนในสังกัด ดูแลสุขอนามัย เสริมความปลอดภัยในสถานศึกษา

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

นายสมใจ วิเศษทักษิณ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายไพฑูรย์ จิรานันตรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด และ นายอำนาจ ศรีจำเริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ็บโซลูท โซลูชัน จำกัด ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ โครงการ Smart Safety Solution ระบบความปลอดภัยสำหรับนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีผู้บริหาร ศธ. ตลอดจนผู้บริหารทั้งสองบริษัท ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายสมใจ วิเศษทักษิณ ผู้ช่วยปลัด ศธ. กล่าวว่า การส่งเสริมคุณภาพชีวิตและสร้างความปลอดภัยให้กับนักเรียน นักศึกษา และบุคลากรในสถานศึกษา เป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นของสังคม และป้องกันภัยคุกคามชีวิตในรูปแบบใหม่ เพราะความปลอดภัยเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพและการเรียนรู้ของผู้เรียนโดยตรง โดยเฉพาะในช่วงที่มีปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดต่อต่าง ๆ

ศธ. จึงได้พัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา เพื่อจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี สามารถปรับตัวต่อโรคใหม่ ๆ ที่อาจเกิดขึ้น ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพ มีความสุข ได้รับการปกป้องคุ้มครอง มีความปลอดภัยทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งสร้างทักษะให้ผู้เรียนสามารถดูแลตัวเองจากภัยอันตรายต่าง ๆ ได้

ทั้งนี้ โครงการ Smart Safety Solution เป็นอีกโครงการหนึ่งที่บูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยให้กับนักเรียน นักศึกษา และบุคลากรในสถานศึกษา ซึ่งจะมีระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ที่ช่วยในเรื่องการยับยั้ง ป้องกัน กำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียในอากาศได้สูงสุด 99% รวมถึงเชื้อไวรัสตระกูลโคโรนาที่เป็นสาเหตุของโรคโควิด 19 ด้วย

นอกจากนี้ ยังช่วยลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5 มีความปลอดภัยต่อคนและสิ่งมีชีวิตในขณะเปิดใช้งาน สามารถติดตั้งเข้ากับระบบปรับอากาศเดิมได้ทุกชนิด เพียง 1 ตัวต่อพื้นที่ 30-50 ตรม. เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อและการแพร่ระบาดในวงกว้าง โดยระบบสามารถควบคุมได้ตั้งแต่ต้นทางจากรถโรงเรียนจนถึงสถานศึกษา สามารถจัดส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการติดตามและประเมินผลให้กับ ศธ.ในการจัดทำแผนงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในอนาคต

โดยในช่วงเริ่มต้นจะมีการนำร่องในสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จังหวัดละ 1 แห่ง รวม 77 แห่งทั่วประเทศ เป็นโรงเรียนต้นแบบในการใช้งานระบบ ซึ่งปัจจุบันมีโรงเรียนปิยะฉัตร เป็นโรงเรียนนำร่องแห่งแรก ในการเข้าร่วมโครงการเพื่อเป็นต้นแบบให้กับสถานศึกษาต่าง ๆ และในอนาคตอันใกล้จะขยายผลไปยังโรงเรียน ในสังกัด สพฐ. สอศ. ตลอดจนทุกสังกัดของกระทรวงศึกษาธิการต่อไป

ซึ่งบันทึกข้อตกลงฯ ในครั้งนี้ มีกำหนดระยะเวลาถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 โดยทั้งสองบริษัทจะจัดทำระบบ Smart Safety Solution และจัดหาวัสดุอุปกรณ์ในการคัดกรองผู้ติดเชื้อ และป้องกันยับยั้งการแพร่ระบาดจากการติดเชื้อโควิด 19 รวมทั้งจัดทำขั้นตอนแนวทางปฏิบัติในการเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ แนะนำสถานศึกษา ให้ทราบถึงวิธีป้องกัน แก้ไข เฝ้าระวังปัจจัยความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะก่อให้เกิดการแพร่ระบาด การติดเชื้อ สร้างความปลอดภัยให้สถานศึกษานำร่อง โดย กระทรวงศึกษาธิการ ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3Ap1GLX

RANDOM

error: Content is protected !!