CADT DPU จับมือ TAI หวังตั้งศูนย์ฝึกอบรมมาตรฐานการบินยุโรป พร้อมแลกเปลี่ยนบุคลากร พัฒนาหลักสูตร ฝึกปฏิบัติ ฝึกอบรม

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

น.ต.ดร.วัฒนา มานนท์ คณบดีวิทยาลัยการพัฒนาและฝึกอบรมด้านการบิน (CADT) และผู้อำนวยการสถาบันการบิน (DAA) มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) หรือ DPU เปิดเผยว่า CADT DPU  ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ บริษัท  THAI AEROSPACE INDUSTRIES จำกัด (TAI) โดยมี ดร.ชิตพงษ์ อัยสานนท์ กรรมการผู้บริหารระดับสูง ของ TAI ร่วมลงนาม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานักศึกษาและบุคลากรด้านการบิน ให้มีความรู้ ประสบการณ์ และทัศนคติที่พร้อมในการทำงานในอุตสาหกรรมการบินระดับภูมิภาคและระดับโลก สอดคล้องกับการส่งเสริมให้ประเทศเป็นศูนย์กลางด้านการบิน ตามนโยบายของรัฐบาล 

ทั้งนี้ ความร่วมมือดังกล่าว จะเป็นการฝึกอบรม ส่งเสริม และสนับสนุนบุคลากรในอุตสาหกรรมการบิน ให้มีการวางแผน การจัดกิจกรรมนักศึกษา จัดการศึกษาร่วมกัน สนับสนุนสื่อการสอน งานวิจัยในการจัดการศึกษา และการฝึกอบรมต่าง ๆ โดยจะร่วมกันพัฒนาหลักสูตรการศึกษา และหลักสูตรฝึกอบรม ให้เป็นไปตามมาตรฐานหน่วยงานความปลอดภัยการบินยุโรป (European Aviation Safety Agency : EASA) โดยเพิ่มจากเดิมที่ CADT DPU เป็นศูนย์ฝึกอบรมที่ได้รับการรับรองจากสมาคมขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA)

น.ต.ดร.วัฒนา กล่าวต่อว่า TAI มีภารกิจหลากหลาย ทั้งการซ่อมบำรุง พัฒนาบุคลากรด้านการบิน และเป็นตัวแทนการผลิตบุคลากร ตามมาตรการ EASA และ FAA ซึ่งแตกต่างจาก CADT DPU ที่ใช้มาตรฐาน IATA  ดังนั้น จะเป็นการแลกเปลี่ยนบุคลากรในการฝึกอบรม ฝึกปฏิบัติ ที่สำคัญจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มีใบประกาศนียบัตร EASA หรือ FAA ซึ่งสามารถไปใช้ในการสมัครงานได้ทั่วโลก รวมถึงอนาคตอาจจะเป็นศูนย์ทดสอบภาคพื้นของไทย มาตรฐาน EASA หรือ FAA ระหว่าง CADT / DAA และ บริษัท TAI

“จากการหารือเบื้องต้น คาดว่า จะเปิดโอกาสให้นักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของวิทยาลัย ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาทักษะด้านบริการสำหรับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน  ซึ่งทางบริษัท TAI ได้มีการดำเนินการอยู่แล้ว และนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของ CADT จะมีการออกไปฝึกสหกิจ นอกเหนือจากการเข้าสอบในสาขาพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน กับ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (TPQI) ที่ทาง CADT จัดให้นักศึกษาเป็นประจำทุกปี โดยจะเปิดสอบอีกครั้ง ในวันศุกร์ที่ 27 พ.ค. นี้ ซึ่งเป็นการสอบทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ หากนักศึกษาสอบผ่านก็จะได้รับประกาศนียบัตรจาก TPQI  และหากได้เข้าร่วมโครงการของทางบริษัท TAI ก็จะทำให้นักศึกษามีโอกาสไปทำงานในสายการบินทั้งในและต่างประเทศมากขึ้น” คณบดีวิทยาลัย CADT กล่าว

สำหรับการแลกเปลี่ยนบุคลากรนั้น ขณะนี้ทั้ง 2 หน่วยงาน กำลังหารือร่วมกัน โดยจะนำร่องในการพัฒนาบุคลากรของทั้ง 2 หน่วยงาน ให้มีมาตรฐานการฝึกอบรมสากล ICAO, EASA, FAA และ IATA  เพื่อเพิ่มทักษะของบุคลากรด้านการบิน รวมถึงการเตรียมความพร้อมนักศึกษาให้กลายเป็นบัณฑิตที่มีศักยภาพรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมการบินที่กำลังจะเติบโตขึ้นหลังจากเปิดประเทศ

น.ต.ดร.วัฒนา กล่าวอีกว่า ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินเป็นอย่างมาก มีการเลิกจ้างพนักงาน บุคลากรด้านการบิน นักบิน และสายการบินหลายแห่งได้ปิดตัวลง รวมถึงยอดของนักศึกษาที่สนใจเข้าเรียนการบิน โดยในช่วงโควิด-19 นักศึกษาวิทยาลัย CADT หายไปประมาณ 1 ใน 3 

“ผมเชื่อว่า หลังจากนี้ธุรกิจการบินจะกลับมาเติบโตเหมือนเช่นในอดีต แต่อาจจะไม่เติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะยังมีหลาย ๆ ประเทศที่โรคยังระบาดอยู่ และอาจมีสายพันธุ์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นอีก ดังนั้น แต่ละภาคส่วน ไม่ว่าจะภาครัฐ ภาคเอกชน หรือผู้โดยสาร เอง ก็ยังคงต้องเดินทาง โดยจะมีการระมัดระวังและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่แต่ละประเทศกำหนด แต่อาจจะไม่มีการปิดประเทศแล้ว เพราะเศรษฐกิจต้องขับเคลื่อนต่อไป โดยควบคู่ไปกับความอยู่รอด” น.ต.ดร.วัฒนา กล่าว

 

 

 

 

RANDOM

error: Content is protected !!