“เอสวัน” ไชยพงศ์ กรวสุรมย์ และ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ร่วมกันมอบเงินรายได้จากชาร์ริตี้ แมตช์ ให้กับมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา เพื่อหนุนสองนักสอยคิว  มิ้งค์ – แจ็ค  สู้ศึกชิงแชมป์โลก

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ เอสวัน ซิกเนเจอร์ สนุกเกอร์ คลับ พุทธมณฑลสาย1 “เอสวัน” ไชยพงศ์ กรวสุรมย์ และ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย หรือวัฒนา ภู่โอบอ้อม ได้ร่วมกันมอบเงินรายได้จากการแข่งขันสนุกเกอร์ ชาร์ริตี้ แมตช์ “มีฝัน มีพี่” ระหว่าง จิมมี่ ไวท์ กับ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย รวมจำนวนเงิน 480,000 บาทให้กับมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา โดยนาย นัฐชัย ไชยพรม รองประธานมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา เป็นผู้รับมอบ


จากนั้น ดร.กฤตพล ทองดอนพุ่ม และนายนัฐชัย ไชยพรม ในฐานะตัวแทนของมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬาได้มอบเงินสนับสนุนให้กับ ณัฐชารัตน์ วงศ์หฤทัย หรือ “มิ๊งค์ สระบุรี” และเดชาวัตร พุ่มแจ้ง หรือ แจ๊ค สระบุรี คนละ 300,000 บาท เพื่อเป็นทุนค่าฝึกซ้อมในระหว่างการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกที่จะเริ่มเปิดฉากในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้


“เอสวัน” ไชยพงศ์ กรวสุรมย์ ผู้บริหาร เอสวัน ซิกเนเจอร์ สนุกเกอร์ คลับ กล่าวว่า การจัดสนุกเกอร์การกุศลประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ต้องขอบคุณแฟนๆสนุกเกอร์ทุกท่านที่มาร่วมงานในวันนั้นอีกครั้ง  ส่งผลให้มียอดบริจาคถึง 480,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวได้นำมอบให้กับมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬาเพื่อนำไปส่งเสริมเสริมและสนับสนุนนักกีฬาชาวไทยในการแข่งขันทุกระดับ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นอกจากนั้นยังมีการผลิตเสื้อที่ระลึกถึง 4 แบบ จำหน่ายเพื่อนำรายได้เข้าสมทบมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา ในตัวละราคา 950 บาท เป็นการหางบประมาณเตรียมไว้สนับสนุนนักสนุกเกอร์หน้าใหม่ให้ก้าวสู่สังเวียนโลกในอนาคต โดยท่านที่สนใจอยากร่วมสนับสนุนนักสนุกเกอร์ชาวไทย สามารถสั่งซื้อได้ที่ S1 Signature Snooker Club https://line.me/R/ti/p/%40s1signaturesnooker  หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 091 705 5511”
สำหรับการสนับสนุนนักกีฬาสนุเกอร์ของมูลนิธิกองทุนพัฒนาการกีฬา  ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ มอบเงินให้กับ“เอฟ วัน” หรือ เทพไชยา อุ่นหนู และ “หมู ปากน้ำ”หรือ นพพล แสงคำ สองนักสอยคิวชายไทยที่ได้โควต้าลุยศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก คนละ 300,000 บาท เพื่อเป็นทุนการฝึกซ้อมที่ประเทศอังกฤษ

RANDOM

องค์กรมวยไทยของชาติ ชี้มี “เบียร์ใช้ชื่อมวยไทย” วางตลาดในไทย ถือเป็นการลบหลู่มรดกชาติ ยันพยายามต่อสู้ เพื่อยกให้สูงมาตลอด แต่ “กระทรวงพาณิชย์” ไม่เล็งเห็นความสำคัญ ปัญหาจึงเกิด

NEWS

error: Content is protected !!