ตอนที่ 40 : จดหมายเปิดผนึกถึง มร.ฟรานท์ซ-ไฮเคล : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

            ภายหลังการลาจากคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติ คูเบอร์แต็งได้ทุ่มเทตนเองอย่างเต็มที่แก่งานปฏิรูปการศึกษา ในเรื่องนี้ ท่านมีความกังวลโดยเฉพาะต่อการศึกษาผู้ใหญ่ซึ่งได้รับความสำคัญในประเทศอื่นของยุโรปเช่น แผนการศึกษาผู้ใหญ่ช่วงเย็นในทศวรรษ 1920 คูเบอร์แต็งไม่มีมายาคติเกี่ยวกับการนำแผนงานไปปฏิบัติ จึงพยายามด้วยวิธีนี้ในการร้องขอความช่วยเหลือจากมิตรสหายเก่าจากกองทัพในฝรั่งเศส บุคคลเหล่านี้รวมถึง มร.ฟรานท์ซไฮเคล เลขาธิการของเจ้าภาพโอลิมปิกเกมส์ 1924 โดยคูเบอร์แต็งขอให้ มร.ไฮเคล ยื่นมือช่วยเหลือต่อแผนงานโรงยิมกีฬาชุมชนในฝรั่งเศส เพื่อมอบโอกาสแก่ผู้ใช้แรงงานให้สามารถเข้าถึงการกีฬาในการสร้างเสริมสุขพลานามัยและสุขภาวะ

            สหายที่รัก

            เมื่อท่านหวนระลึกถึงความทรงจำร่วมกันของพวกเรา ในฐานะผู้นำการกีฬาศึกษาของฝรั่งเศส นับเป็นเวลาสี่สิบปีสำหรับตัวข้าพเจ้าและในไม่ช้าสำหรับท่าน ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าท่านพึงพอใจในผลงานที่เกิดขึ้นหรือไม่ สำหรับข้าพเจ้า ยังไม่พอใจนัก ความสว่างไสวของโอลิมปิกเกมส์ไม่ได้ปิดตาข้าพเจ้าแม้แต่น้อย โอลิมปิกเกมส์มีเป้าหมายที่อภิสิทธิ์ชนอย่างแน่นอนเนื่องเพราะเป้าหมายคือการสรรเสริญและยกย่องบรรดาเหล่านักกีฬาที่พละกำลังพิเศษจะจุดประกายความทะเยอทะยานและการลอกเลียนแบบซึ่งจำเป็นต่อการรักษาไว้ซึ่งกิจกรรมกีฬามวลชน อย่างไรก็ตาม ในทางตรงข้ามกับอภิสิทธิ์ชน ยังมีมวลชนซึ่งรวมถึงบุคคลทั้งปวงที่เล่นกีฬาแต่ไม่ต้องการความเป็นเลิศแต่ประการใด ในบรรดาคนเหล่านี้ แม้จะมีพัฒนาการใหญ่หลวงในด้านทักษะการเล่นกีฬาแต่ความแข็งแกร่งด้านปริมาณยังอ่อนแอมาก จำนวนร้อยละของนักกีฬาแท้จริงในประชากรเป็นเศษเสี้ยว การโอ่และประชาสัมพันธ์กลบเกลื่อนสถานการณ์จริงไว้ การหวดของสื่อมวลชนและสายธารของการแข่งขันชิงแชมป์ทำให้สาธารณชนหลงทิศผิดทาง ประเทศยังไม่มีความเป็นกีฬาจริงแท้จนกระทั่งพลเมืองส่วนใหญ่รู้สึกถึงความจำเป็นของการกีฬาในวันหนึ่ง หากใช้เกณฑ์ตัดสินนี้ ข้าพเจ้าไม่ทราบว่า กระทั่งอเมริกาจะใช่ชาติกีฬาหรือไม่ หากผู้คนทั้งปวงที่พูดถีงการกีฬาถูกบังคับไม่ให้พูดในวันพรุ่งนี้แล้ว ผู้คนที่เล่นกีฬาคงจะดูเหมือนกลุ่มคนที่กลายเป็นจุดทศนิยมไป

            หากจะกล่าวถึงเฉพาะฝรั่งเศส สถานการณ์เป็นเช่นนี้ เพราะว่า พวกเราสนับสนุนการกีฬาเยาวชนและทีมมากเกินควรจนเกิดความเสียหายต่อผลประโยชน์หลักในมุมมองชาติพันธุ์ ข้าพเจ้าหมายถึง ปัจเจกชนผู้ใหญ่ สุขอนามัยจะมีความหมายอย่างไรหากพวกเราจัดเตรียมสถานที่ชำระร่างกายเพียงแก่เด็กและผู้ใหญ่จะต้องจัดทีมเพื่อให้ได้รับบริการนั้น? การกีฬาก็เป็นเช่นเดียวกัน ลักษณะทีมทำให้ยากแก่การเล่นและการรวมกลุ่มก็เป็นอุปสรรค นอกจากนี้ การผลักดันเด็กเล็กมากเข้าสู่การกีฬาที่หนักหน่วงนั้น พวกเราเร่งเร้าเสน่ห์ของการกีฬาและการได้รับคุณประโยชน์ก่อนเวลาอันควร โดยพื้นฐานแล้ว เยาวชนในช่วงขีดสุดต้องการสิ่งเชิญชวนนี้น้อยมาก พลังงานล้นเหลือจะค้นหาการใช้กล้ามเนื้ออยู่เสมอ การจัดเตรียมสิ่งรองรับถือเป็นการเพียงพอ ไม่มีประเด็นที่จะต้องการความเร้าใจมากนัก นอกจากนี้ ภาระงานและความเหนื่อยล้าเกินควรจากชีวิตสมัยใหม่ทำให้การกีฬาเป็นการถ่วงดุลย์ที่สำคัญยิ่ง เป็นวิธีการฟื้นฟูที่ขาดเสียมิได้ และเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ไม่มีสิ่งใดทดแทนได้ ในวันนี้ องค์กรพวกเราได้จัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหลายอย่างไรแก่เขาในเรื่องนี้บ้าง? ไม่ว่าพวกเราจะล้าหลังเพียงใดในเรื่องวารีบำบัด แต่ก็อาจจะคาดถึงวันหนึ่งซึ่งจะมีอ่างอาบน้ำจำนวนมากสำหรับสาธารณะ แต่มวลหมู่กรรมาชีพในเมืองซึ่งผู้คนไม่มีเวลาว่างที่แน่นอนจะสามารถเล่นกีฬาได้ในสถานที่แห่งใด? โรงยิมที่ไม่มีหรือเกือบไม่คิดค่าบริการใดเปิดบริการแก่เขาบ้าง? ในสวนสาธารณะของเมืองชิคาโก ในประเทศเดนมาร์ก ในประเทศเยอรมนี มีอุปกรณ์พร้อมใช้…ข้าพเจ้าไม่ทราบจะมีที่ใดในฝรั่งเศส แม้จะเป็นการติดตั้งกลางแจ้ง แต่ก็ไม่เพียงพอและไม่พร้อมสรรพ

            สิ่งนี้คือเหตุผลที่ข้าพเจ้าประสงค์จะเห็นการรื้อฟื้นโรงยิมเทศบาลโบราณในรูปแบบขยายและสมัยใหม่ ข้าพเจ้าควรพอใจในสถานที่ซึ่งใบฎีกาและบันทึกทั้งหลายคือสิ่งต้องห้าม แต่เป็นพื้นที่ซึ่งผู้ใหญ่คนใดในเวลาสะดวกใดที่ปลอดภัยจากการถูกสอดแนมและวิพากษ์วิจารณ์ จะสามารถฝึกหัดการออกกำลังกายในรูปแบบอย่างง่ายสุดไม่ว่าจะเป็นการวิ่ง การกระโดด การขว้างและยิมนาสติก…พร้อมการเข้าร่วมอย่างพอเหมาะกับการชกมวย การเรียนฟันดาบ การควบม้าในสนามหรือการว่ายน้ำในสระ สิ่งปลูกสร้างเพียงลำพังก็สามารถสร้างความเป็นชาติกีฬาให้แก่ฝรั่งเศสเหมือนชาติอื่นในประการนี้ โดยไม่อาจสำเร็จด้วยการสร้างกระทรวงการกีฬาหรือทวีคูณผู้กำกับดูแลและสนามกีฬา หรือการผสมลูกเสือในขบวนพาเหรดระดับชาติหรือนานาชาติ หรือจะยากขึ้นด้วยการชื่นชมการจัดลีกนานาชาติที่มีเจ้าหน้าที่มากพอแล้ว จงให้ “ชนชั้นกระฎุมพี” จ้องมองสิ่งปลูกสร้างที่ข้าพเจ้ากำลังเอ่ยถึงในวันหนึ่งโดยกรรมาชนด้วยค่าใช้จ่ายของตนเองซึ่งกำลังจะจัดโอลิมปิกเกมส์ของแรงงานที่จิตวิญญาณกีฬามีความสูงส่งกว่าของพวกกลุ่มกระฎุมพีนี้ 

            ตัวข้าพเจ้านั้น จะไม่เคยสูญเสียความสนใจในอุดมการณ์โอลิมปิกและการกีฬา อย่างไรก็ตาม วัยหกสิบห้าปีของข้าพเจ้าได้ยึดจับภารกิจใหม่ที่เรียกร้องความแข็งแกร่งทั้งปวงของพวกเขากล่าวคือ การปฏิรูปฐานรากของวิธีการสอน และข้าพเจ้าจะไม่สามารถอุทิศตนเองตามควรแก่งานฟื้นฟูที่จำเป็นแก่ความเจริญรุ่งเรืองของการกีฬานี้ จึงเป็นเหตุให้ข้าพเจ้าร้องขอต่อท่าน มิตรสหายเก่าจากกองทัพของข้าพเจ้า นอกจากนี้ ท่านยังสามารถทำในสิ่งที่ข้าพเจ้าไม่อาจทำได้ในฝรั่งเศสเนื่องเพราะแม้ท่านอาจได้รับการต่อต้านในบางคราว แต่ก็ไม่เคยเป็นความริษยาและความหลอกลวงที่ยืดเยื้อยาวนาน ดังที่ยังความเจ็บปวดแก่ข้าพเจ้าอย่างสาหัส ข้าพเจ้าไม่ได้ถือสาหาความในเรื่องนี้นัก สุภาษิตกล่าวว่า “ไม่มีบุรุษใดเป็นศาสดาพยากรณ์ในประเทศตนเอง” และประเทศกรีซได้ชดเชยความผิดหวังทั้งมวลของข้าพเจ้าในอดีตหรืออนาคตด้วยการจารึกชื่อข้าพเจ้าบนหินอ่อนในผืนดินที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลกคือ เมืองโอลิมเปียและกรุงเอเธนส์

            โดยเหตุนี้ สหายที่รัก ข้าพเจ้าจึงขอฝากความหวังไว้กับท่านสำหรับยุทธศาสตร์เร่งด่วนนี้ จงมีศรัทธาต่อข้าพเจ้าตลอดไป

             ด้วยความรักและเสียสละ

             ปิแอร์ เดอ คูเบอร์แต็ง   

RANDOM

error: Content is protected !!