หลังเพื่อไทยได้ตำแหน่งรัฐมนตรีกีฬา ตอนนี้ต้องลุ้นต่ออีกสเต็ปว่าอีก 2 ตำแหน่งสำคัญคือประธานบอร์ด กกท.และ กองทุน จะได้มาแบบเบ็ดเสร็จหรือไม่…น่าติดตาม

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

                ที่นี่ Station THAI เคยแสดงความคิดเห็นเรื่องราวของรัฐบาลใหม่ ที่จะมาดูแลกีฬาตั้งแต่หลังจบการเลือกตั้งหมาด ๆ ซึ่งพรรค“เพื่อไทย” มีแนวโน้มอยู่ในฝั่งเป็นรัฐบาล โดยวันนั้นระบุอย่างชัดเจนว่า “เพื่อไทย” มาคุมกีฬาแน่นอน เพราะมีหลาย ๆ อย่างที่เข้าล็อค ที่เล็งของพรรคนี้

                ลองติดตามข้อคิดเห็นเดิม ในวันนั้น ที่นี่ https://www.station-thai.com/idea/28251/

                จากวันนั้นถึงวันนี้คงจะเห็นภาพการเคลื่อนไหวในการต่อรอง ไม่ว่าจะหมุนการเลือกแบ่งกระทรวงซักกี่รอบจากพรรคร่วมรัฐบาล ท้ายที่สุดเรื่องที่เคยคิดไว้ก็เป็นจริง คือ พรรคเพื่อไทย  ได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จริง ๆ (ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยจากการต่อรองใดๆก็ตาม)

                แต่จริง ๆ เรื่องการที่ใคร พรรคใด ได้มาเป็น “รัฐมนตรีกีฬา” แม้จะเป็นจุดน่ามองสำหรับคนในวงการกีฬามากก็ตาม แต่ก็คงไม่เท่ากับการมองอีกชั้น คือ การที่ฝ่ายบริหารรัฐที่นำโดย ท่าน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีนี้ จะมอบรองนายกรัฐมนตรี คนใดมาเป็นประธานกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย และ ประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เพราะในส่วนนี้คือส่วนของหัวขบวนการขับเคลื่อนทุกอย่างในวงการกีฬาอย่างแท้จริง

                ที่คาดไว้ตอนนี้คือ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ คงไม่มานั่ง 2 ตำแหน่งนั้นเองเพราะภาระงานอื่น ๆ เยอะ  และ ต้องมอบหมายรองนายกคนใดคนหนึ่ง ที่คาดว่าจะต้องเป็นรองนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทย มาทำหน้าที่ เพราะนี่คือการจัดการทุกอย่างในวงการกีฬาแบบเบ็ดเสร็จ แต่ถ้าหลุดจากที่คาดนี้ คือนายกรัฐมนตรีไปมอบหมายให้กับรองนายกรัฐมนตรีจากพรรคอื่นมานั่งหัวของ 2 ตำแหน่งนั้น ที่ท่านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยนั่งอยู่….คงจะเป็นการแปลกพอสมควร(และคงไม่เกิดขึ้น)

                สิ่งที่ต้องจับตาวันนี้ที่เคยเป็นแนวปฏิบัติ หลังจากมีการมอบหมายรองนายกรัฐมนตรี มานั่งดูแล 2 ตำแหน่งนั้นแล้ว กรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย  กรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมทั้งอนุ หรือ คณะทำงานต่าง ๆ ที่ถูกตั้งขึ้นมาโดยชื่อในสมัยท่านประวิตร นั้น ซึ่งจะต้องเปลี่ยนแปลงแน่ ๆ และเมื่อไหร่

                และที่ต้องคิดต่อก็คือ วันนี้วงการกีฬาที่เคยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ “พลเอกประวิตร” มาตลอดนั้น จะเดินกันอย่างไร หลังจากคุ้นชินกับแนวทางพลเอกประวิตรและคณะมายาวนานกว่า 10 ปี ที่เดินตาม “ประวิตรโมเดล”

                เพราะวันนี้ “เพื่อไทย” หลังรู้ว่าจะได้คุมกระทรวงกีฬา ได้เดินหน้าแล้วในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการเตรียมคณะทำงานต่าง ๆ ขึ้นมา เพราะรู้ๆ กัน ว่าพรรคนี้มีขุมกำลังทางกีฬาประเภทที่รู้แจ้งรู้ชัดมากขนาดไหน และ ปัญหาที่เกิดขึ้นในวงการกีฬาที่ผ่านมานั้น  ยากที่จะบอกว่ากลุ่มของผู้ที่มาใหม่จะไม่รู้เรื่อง

                และมักจะเป็นธรรมดา ที่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงอย่างนี้ “ข้อมูลเท็จ” รวมทั้งการใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น เพื่อ เอาความดีความเด่นเข้าตัวเองหรือกลุ่มคณะตัวเอง จะระบาดมากขึ้นเพราะ “ต้องการโชว์” ความฉกาจตัวเองให้ต้องตาต้องใจ “คณะบริหารที่มาใหม่” และอยู่ได้อยู่ดีในอนาคตข้างหน้า…ซึ่งเริ่มแล้ว

                แต่ที่นี่มองว่า คนกีฬาไม่ควรไปเล่นเกม ใด ๆ เพราะ “ทีมงานผู้มาใหม่” เขาไม่โง่หรอก…สู้สงบนิ่งรอดูสิ่งที่มันจะเกิดขึ้นในกาลเวลาอันใกล้ข้างหน้านี้ ชัดๆ แล้วมีอะไรค่อยโชว์กับผู้นำกีฬาคนใหม่ จะดีกว่า….เพราะอีกไม่นานก็จะรู้ว่า จะมีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง ขอให้จับตาเริ่มต้นการลุ้น 2 ตำแหน่งสำคัญที่ว่า…. แล้วทุกอย่างจะตามมาแบบสนุก ๆ เอง.

RANDOM

กฟผ. โครงการห้องเรียนสีเขียว จับมือ 11 มหาวิทยาลัยชั้นนำ เชิญชวนน้อง ๆ มัธยมปลาย ประชันไอเดีย ร่วมประกวดนวัตกรรมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ประจำปี 2567 ชิงทุนการศึกษารวม 285,000 บาท หมดเขตรับสมัคร 15 มิ.ย. 67

error: Content is protected !!