Day: June 15, 2022

สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดรับสมัครทุนวิจัย ปีงบประมาณ 2566

วัคซีน ถือเป็นเครื่องมือทางสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันประชาชนจากโรคภัยต่าง ๆ ดังนั้น วัคซีนจึงมีความสำคัญและความจำเป็นต่อความมั่นคงด้านสุขภาพของประเทศ ที่ผ่านมาประเทศไทยมีความมุ่งมั่นในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาวัคซีนในประเทศมาโดยตลอด ซึ่งการพัฒนาวัคซีนแต่ละชนิดมีความซับซ้อนและมีวงจรการพัฒนาที่ยาวนาน อีกทั้งเทคโนโลยีในการพัฒนาและผลิตวัคซีนยังมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศจะต้องพัฒนาองค์ความรู้และศักยภาพด้านวัคซีนอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางด้านการวิจัยพัฒนา การผลิต การควบคุมคุณภาพ การเพิ่มศักยภาพของบุคลากรด้านวัคซีน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น เพื่อให้มีองค์ความรู้และนวัตกรรมที่ทันสมัย พร้อมรองรับการพัฒนางานด้านวัคซีนของประเทศอย่างครบวงจร สถาบันวัคซีนแห่งชาติ ในฐานะหน่วยบริหารจัดการทุนเฉพาะด้านวัคซีน และเป็นหน่วยงานกลางด้านวัคซีน มีหน้าที่ในการส่งเสริมและสนับสนุน หรือดำเนินการ ให้มีการวิจัยพัฒนาการผลิตวัคซีนให้มีคุณภาพ และมีปริมาณที่เพียงพอสำหรับใช้ในสถานการณ์ปกติ และในสถานการณ์ฉุกเฉิน และส่งเสริม สนับสนุน การพัฒนาบุคลากรด้านวัคซีนของประเทศ ตามพระราชบัญญัติความมั่นคงด้านวัคซีนแห่งชาติ พ.ศ. 2561 เพื่อให้เปิดการวิจัยพัฒนาวัคซีนอย่างต่อเนื่อง เป็นรูปธรรม และประเทศสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ทั้งในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข ประเภททุนที่เปิดรับสมัคร ประเภททุนวิจัย คุณสมบัติผู้ขอรับทุน ผู้ขอรับทุนวิจัยต้องเป็นผู้วิจัย ผู้พัฒนา ผู้ผลิต ผู้ประกันและควบคุมคุณภาพ ผู้บริหารจัดการ ผู้จัดหา ผู้กระจาย หรือ ผู้ให้บริการวัคซีนหรือการสร้างภูมิคุ้มกันโรค   เงื่อนไขการสมัครขอรับทุน 1.กรอบงบประมาณขึ้นอยู่กับเป้าหมาย และตัวชี้วัดของข้อเสนอโครงการ 2.ผู้ขอรับทุนต้องมีการสืบค้นข้อมูลสิทธิบัตร และชี้แจงในแบบฟอร์มที่สถาบันวัคซีนแห่งชาติกำหนด หากไม่มีข้อมูลจะต้องชี้แจงต่อคณะกรรมการที่ทำหน้าที่ในการพิจารณาจัดสรรทุน 3.กรณีที่ผู้ขอรับทุนมีการต่อยอดการวิจัยจากผลงานเดิม ต้องแสดงขอบเขตการดำเนินงานเดิม …

สถาบันวัคซีนแห่งชาติ เปิดรับสมัครทุนวิจัย ปีงบประมาณ 2566 Read More »

“สุภัทร” ปลัด ศธ. รับไม้ต่อ “สุทธิชัย” นั่งแท่นประธานแก้หนี้สินครู ชู 7 เรื่องต้องเร่งขับเคลื่อน เพื่อให้การแก้ปัญหาหนี้สินครูบรรลุผล

เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายสุทธิชัย จรูญเนตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้แจ้งต่อที่ประชุมคณะกรรมการฯ ว่า ได้ลาออกจากตำแหน่ง ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้ นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ. ทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการฯ แทน เพื่อสานต่อการขับเคลื่อนงานให้เกิดความต่อเนื่อง ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นว่า “ปัญหาหนี้สินครู” คนส่วนใหญ่มักด่วนสรุปว่า ต้นตอของปัญหาอยู่ที่ตัวของครูที่ขาดวินัยทางการเงิน ซึ่งก็อาจมีส่วนถูกอยู่บ้าง แต่เป็นเพียงส่วนเดียว ในทางกลับกัน เจ้าหนี้ของครูที่ให้สินเชื่ออย่างไม่เป็นธรรม คิดดอกเบี้ยเงินกู้แพงกว่าการเป็นสินเชื่อสวัสดิการ ก็เป็นอีกส่วนสำคัญที่ทำให้ครูต้องตกอยู่ในวังวนของปัญหาหนี้สิน นอกจากนี้ ศธ.ในฐานะนายจ้างของครู เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธความรับผิดชอบกับปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะทำหน้าที่ตัดเงินเดือนนำส่งให้เจ้าหนี้ โดยไม่ได้ดูว่าครูมีเงินเดือนหลังจากหักจ่ายชำระหนี้แล้ว (Residual Income) เพียงพอในการดำรงชีพอย่างมีศักดิ์ศรีหรือไม่ ถือเป็นอีกต้นตอหนึ่งที่ทำให้ครูต้องหันไปพึ่งพาหนี้นอกระบบ เมื่อขาดสภาพคล่อง ดังนั้น การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูทั้งระบบให้เกิดประสิทธิผล จึงจำเป็นที่จะต้องมองในภาพรวมทั้ง 3 ส่วน ทั้งในส่วนของตัวครู ส่วนของเจ้าหนี้ครู และส่วนของนายจ้าง หรือ ศธ. ซึ่งจะเป็นสื่อกลางให้สองส่วนแรก โดยจะมีเรื่องสำคัญที่ ศธ. จำเป็นต้องขับเคลื่อนให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม …

“สุภัทร” ปลัด ศธ. รับไม้ต่อ “สุทธิชัย” นั่งแท่นประธานแก้หนี้สินครู ชู 7 เรื่องต้องเร่งขับเคลื่อน เพื่อให้การแก้ปัญหาหนี้สินครูบรรลุผล Read More »

error: Content is protected !!