พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ หรือ “พระองค์วรรณ” ทรงเป็นผู้วางกฎเกณฑ์ในการบัญญัติศัพท์ภาษาต่างประเทศด้วยคำบาลีและสันสกฤต และได้รับการยกย่องจาก ราชบัณฑิตยสภา เสนอให้รัฐบาลประกาศยกย่องเป็น พระบิดาแห่งการบัญญัติศัพท์ภาษาไทย นอกจากนี้ ยังทรงพระปรีชาสามารถในด้านการเมืองการปกครอง เคยดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และประธานสมัชชาแห่งชาติ และองคมนตรี ด้านการทูตท่านได้สร้างคุณปการอย่างใหญ่หลวงต่อประเทศชาติและนานาชาติหลายครั้ง และท้ายสุดได้รับเลือกจากประเทศสมาชิกของสหประชาชาติให้ดำรงตำแหน่ง ประธานสมัชชาสหประชาชาติ นับว่าเป็นคนไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้ และเป็นคนไทยคนเดียว แม้จนปัจจุบันในด้านการศึกษา พระองค์ทรงเป็นผู้ร่วมสถาปนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า และทรงเสนอให้คณะรัฐมนตรีสมัยคณะราษฎร จัดตั้ง “โรงเรียนการเมืองชั้นสูง” (เป็นจุดเริ่มต้นแนวคิดการก่อตั้งมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง) รวมทั้งยังทรงเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ประชาชาติ และทรงเขียนคอลัมน์ วรรณไวไขข่าว มีผลงานที่เป็นหมุดหมายสำคัญของวงวรรณคดีไทย คือ พระนิพนธ์ “วิทยาวรรณกรรม” ด้วยพระอัจฉริยภาพดังที่ได้กล่าววมา เมื่อ พ.ศ 2534 ในวาระครบชาตกาล 100 ปี ของพระองค์ ยูเนสโกได้ประกาศยกย่องให้พระองค์เป็นบุคคลสำคัญผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมของโลก
อนึ่ง ในปัจจุบันมีนักเขียนรุ่นใหม่จำนวนมากที่ผลงานได้ผ่านการเผยแพร่ในเครือข่ายสังคมออนไลน์ นักเขียนเหล่านี้มีศักยภาพในการสร้างสรรค์ผลงาน และมีใจรักการเขียน ดังนั้น การส่งเสริมนักเขียนให้สามารถ “เกิด” ในวงการวรรณกรรมไทยนั้น เป็นสิ่งที่สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ในฐานะหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวกับการดำเนินการส่งเสริม สนับสนุน และผลักดันงานวรรณกรรมในหลายรูปแบบ ยินดีให้การสนับสนุน สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทยจึงดำริที่จะจัดการประกวดวรรณกรรมขึ้น และเพื่อเป็นการแสดงกตัญญุตาทิคุณต่อ พลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่นนราธิปพงศ์ประพันธ์ โดยการเห็นชอบของท่านผู้หญิงวิวรรณ วรวรรณ ทายาท จึงเห็นสมควรให้ตั้งชื่อรางวัลวรรณกรรมนี้ว่า รางวัล “พระองค์วรรณ” โดยรางวัลนี้มุ่งส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมแก่นักเขียนรุ่นใหม่ ผู้มีความสามารถด้านการเขียน และมี “แวว” การเป็นนักเขียนมืออาชีพในอนาคตและเป็นความหวังของวงการวรรณศิลป์ไทยต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนให้นักเขียนรุ่นใหม่มีโอกาสแสดงศักยภาพในการประพันธ์อย่างประณีตและสร้างสรรค์
2. เพื่อส่งเสริมให้เกิดผลงานวรรณกรรมใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพ
3. เพื่อก่อให้เกิดพื้นที่การสร้างงานและเกิดความเคลื่อนไหวในแวดวงวรรณกรรม
4. เพื่อส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีในหมู่นักเขียนทั้งรุ่นเก่าและนักเขียนรุ่นใหม่ ผ่านกระบวนการจัดประกวด
ประเภทผลงานที่จัดประกวด
ประเภทเรื่องสั้น
ลักษณะของผลงานที่ส่งเข้าประกวด
1. เป็นเรื่องสั้นโดยมีแนวคิดของเรื่อง คือ “กำลังใจ”
2. งานเขียนที่ส่งเข้าประกวดเป็นการนำเสนอในรูปแบบเรื่องสั้น และนำเสนออย่างสร้างสรรค์
3. มีต้นฉบับเป็นภาษาไทย และพิมพ์ลงในกระดาษ A4 จำนวน 7 – 12 หน้า ใช้ตัวอักษรขนาด 16 ตัวพิมพ์ (16 พอยท์) ในกรณีที่ผู้ส่งผลงานเป็นผู้ต้องขังในเรือนจำหรือทัณฑสถาน อนุโลมให้เขียนด้วยลายมือตัวบรรจงได้ (จำนวนไม่เกิน 10 หน้า)
คุณสมบัติผู้ส่งผลงานเข้าประกวด
1. บุคคลทั่วไปอายุไม่เกิน 45 ปี (เกิดตั้งแต่ พ.ศ. 2523)
2. ผู้เขียนยังมีชีวิตอยู่ในขณะที่ส่งผลงาน
ข้อปฏิบัติในการส่งผลงานเข้าประกวด
1. ผู้เขียนหนึ่งคนมีสิทธิ์ส่งผลงานเข้าประกวดได้ 1 ผลงาน
2. เป็นผลงานที่เขียนขึ้นใหม่ ไม่เคยพิมพ์เผยแพร่ในสื่อทุกประเภทก่อนการตัดสินของคณะกรรมการฯ
3. ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดจะต้องสร้างสรรค์ผลงานที่ส่งเข้าประกวดด้วยตนเองเพียงผู้เดียว ไม่ลอกเลียนแบบ หรือตกแต่งดัดแปลงจากผลงานของผู้อื่น หากมีการลอกเลียน ตกแต่งดัดแปลง ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยในการเขียน ผู้เขียนจะต้องรับผิดตามกฎหมาย ในกรณีที่พบว่าเป็นการลอกเลียน ตกแต่ง ดัดแปลง ละเมิดลิขสิทธิ์ หรือใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยในการเขียน หรือเป็นผลงานที่มีผู้สร้างสรรค์มากกว่าหนึ่งคน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจพบระหว่างหรือหลังจากการประกวด การส่งผลงานเข้าประกวดหรือการได้รับรางวัลถือเป็นโมฆะ โดยคณะกรรมการจะพิจารณาเพิกถอนสิทธิในรางวัลของผู้เขียนทุกประการ
4. ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดต้องตรวจสอบต้นฉบับให้สมบูรณ์ หากส่งผลงานเข้าประกวดแล้ว จะไม่สามารถขอแก้ไขหรือยกเลิกผลงานเดิมเพื่อส่งผลงานใหม่ แม้ยังไม่หมดเวลารับผลงาน
5. ส่งต้นฉบับทางไปรษณีย์ ส่งถึง สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย เลขที่ 31 ซอยกรุงเทพ
นนทบุรี 33 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 โทร. 02-910-9565 วงเล็บมุมซอง (รางวัลพระองค์วรรณ)
เงื่อนไขการพิจารณาผลงานที่ส่งเข้าประกวด
1. ผลงานที่ส่งเข้าประกวด ต้องมีเนื้อหาสร้างสรรค์สังคม ยกระดับจิตใจ และสร้างแรงบันดาลใจเชิงบวก ไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดี และไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งหรือความไม่สงบในสังคม
2. คณะกรรมการบริหารสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ไม่มีสิทธิ์ในการส่งผลงานเข้าประกวด
3. สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่ส่งคืนต้นฉบับผลงานที่ส่งเข้าประกวด
4. คณะกรรมการรางวัลพระองค์วรรณ ขอสงวนสิทธิ์ในการไม่ให้รางวัลใดรางวัลหนึ่ง หากไม่มีผลงานใดเหมาะสมถึงเกณฑ์ที่กำหนด
5. การพิจารณาและการตัดสินของคณะกรรมการรางวัลพระองค์วรรณ ถือเป็นที่สิ้นสุด ไม่สามารถนำไปฟ้องร้องและดำเนินคดีใด ๆ ได้
6. ในกรณีที่ผู้ส่งผลงานเข้าประกวดทำผิดหลักเกณฑ์ จะด้วยวิธีการใดก็ตาม คณะกรรมการฯขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกคืนรางวัลพร้อมเงินรางวัล
รางวัลการประกวด
1. รางวัลยอดเยี่ยม 1 รางวัล ได้รับโล่รางวัล เกียรติบัตร และเงินรางวัล 50,000 บาท
2. รางวัลดีเด่น 1 รางวัล ได้รับโล่รางวัล เกียรติบัตร และเงินรางวัล 20,000 บาท
3. รางวัลชมเชย 3 รางวัล ได้รับเกียรติบัตร และเงินรางวัล ๆ ละ 10,000 บาท
ผลงานที่ได้รับรางวัลทุกอันดับ ลิขสิทธิ์ในการตีพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเป็นของสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย โดยค่าลิขสิทธิ์รวมอยู่ในเงินรางวัล
กำหนดการ
– สมัครและส่งผลงานวันที่ 15 มิถุนายน ถึง 15 กันยายน 2568
– ตุลาคม – พฤศจิกายน 2568 กรรมการประชุมตัดสินงาน
– พฤศจิกายน 2568 ประกาศผล
สอบถามเพิ่มเติมที่ เฟซบุ๊ก สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย หรือ โทร. 02-910-9565
ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://shorturl.asia/n7Oao
อ้างอิงจาก https://shorturl.asia/a7qZV
ขอบคุณภาพจาก มติชน