อาชีวะเดินหน้ารุกอุตสาหกรรมการบิน ผลิตกำลังคนสมรรถนะสูงมาตรฐานสากล ตั้งเป้าขับเคลื่อนไทยก้าวสู่ศูนย์กลางการบินของภูมิภาค

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้เน้นย้ำการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาให้ตอบโจทย์และตรงตามความต้องการของการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศ ตามที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND, AVIATION HUB” เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา เพื่อประกาศถึงศักยภาพของประเทศไทยในการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยรัฐบาลเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพ มีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาค พร้อมยกระดับสนามบินทั่วประเทศ และมีแผนจะขยายอุตสาหกรรมการบำรุงรักษาให้กลายเป็นศูนย์กลางการบำรุงรักษาทั้งเครื่องบินพาณิชย์และเครื่องบินส่วนตัว โดย กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้ขับเคลื่อนการจัดการศึกษาในทุกมิติ ขานรับนโยบายรัฐบาลด้านการจัดการศึกษา เร่งพัฒนาคุณภาพผู้เรียน โดยเฉพาะด้านช่างอากาศยาน เพื่อรองรับการพัฒนาประเทศสู่เป้าหมาย

นายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวต่อว่า ในปัจจุบัน สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีสถานศึกษาในสังกัดที่เปิดการเรียนการสอนสาขาช่างอากาศยาน จำนวน 6 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคถลาง วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ วิทยาลัยการอาชีพขอนแก่น วิทยาลัยเทคนิคอุบลราชธานี วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง และ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ และได้รับการรับรองเป็นสถาบันฝึกอบรมนายช่างภาคพื้นดิน จาก สำนักงานการบินพลเรือแห่งประเทศไทยแล้ว 5 แห่ง ตามลำดับ โดยการเรียนการสอนเป็นไปตามหลักสูตรความรู้พื้นฐานของนายช่างภาคพื้นดิน ภายใต้การรับรองจาก The Civil Aviation Authority of Thailand (CAAT) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ในหลักสูตร Aircraft Maintenance Licence-Aeroplane Turbine (AMEL B1.1) ที่มีการเรียนการสอนแบบ Block Course จำนวนทั้งสิ้น 13 Module ซึ่งมีคณะอนุกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา (อ.กรอ.อศ.) กลุ่มอาชีพอุตสาหกรรมการบิน เป็นผู้พิจารณาหลักสูตรที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมการบินทั้งระบบ และความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในรูปแบบทวิภาคี โดยนักศึกษาจะเข้าฝึกงานในสถานประกอบการที่ได้รับการรับรองให้เป็น Maintenance Repair and Overhaul (MRO) จำนวน 2 แห่ง คือ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ประจำสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ และ สนามบินนานาชาติดอนเมือง ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด มาตรฐานใกล้เคียงกับมาตรฐานขององค์การความปลอดภัยด้านการบินของสหภาพยุโรป (EASA) เมื่อสำเร็จการศึกษา นักศึกษาจะได้รับ 1 วุฒิ และ ประกาศนียบัตรทั้งสิ้น 7 ใบ ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กำหนดว่านายช่างภาคพื้นดิน จะต้องจบการศึกษาจากสถาบันที่ CAAT รับรองเท่านั้น จะเห็นได้ว่า การเรียนสายอาชีวศึกษา มีบทบาทสำคัญในการการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม และผลิตกำลังคนด้านช่างอากาศยานให้มีสมรรถนะสูงตามมาตรฐาน ตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรม ผู้เรียนจบหลักสูตรจะผ่านการฝึกประสบการณ์ตามมาตรฐานการรับรองในระดับสากล จึงเชื่อมั่นได้ว่า ผู้เรียนอาชีวศึกษาพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการบินของประเทศให้เป็นศูนย์กลางการซ่อมบำรุงอากาศยานตามเป้าหมายของประเทศต่อไป

RANDOM

NEWS

สำนักเลขาธิการวุฒิสภา เชิญชวนน้อง ๆ นักเรียนร่วม ‘แข่งขันตอบปัญหาเชิงวิชาการเกี่ยวกับวุฒิสภาและการเมืองการปกครองของไทย สำหรับเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือ เทียบเท่า ประจำปี 2567’ ชิงเงินรางวัลรวม 290,000 บาท เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ – 24 พฤษภาคม

error: Content is protected !!