สจล. ชู “3 ไม่” โมเดลขับขี่ปลอดภัย เตรียมใช้เซนเซอร์ส่งเสียงเตือน เสริมความปลอดภัยสาธารณะบนท้องถนน

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมเป็นพลังสร้างสรรค์ ‘ความปลอดภัยสาธารณะ’ (Public Safety) ในสังคม  เปิดโครงการขับขี่ปลอดภัย ด้วยสโลแกน “ 3 ไม่” คือ 1. ไม่ขับตัดเลน 2. ไม่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ไม่แซง ไม่ปาด 3. ไม่ขับขี่ หรือ ซ้อนรถจักรยานยนต์โดยไม่สวมหมวกกันน็อก ทั้งนี้ เพื่อสร้างเสริมวินัยจราจรและความปลอดภัยให้กับนักศึกษา บุคลากร และประชาชน พร้อมทั้งกำหนดแผนระยะสั้น ระยะกลาง และ ระยะยาว เตรียมนำเทคโนโลยีติดตั้งระบบเซนเซอร์ส่งเสียงเตือนรถที่ขับตัดเลน ปาด หรือ แซง
.
.
รศ. ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เปิดเผยว่า สจล. ขอเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างเสริมสังคมไทยที่มี ‘ความปลอดภัยสาธารณะ’ ทั้งนี้ ลักษณะทางกายภาพของ สจล. เป็นพื้นที่เปิด มีถนนตัดผ่านกลางสถาบัน ทำให้มีระบบขนส่งสาธารณะหลายแบบที่ผ่านเข้ามาในพื้นที่ของ สจล. ไม่ว่าจะเป็น รถไฟ รถเมล์ รถสองแถว รถตู้สาธารณะ วินมอเตอร์ไซด์ รวมทั้ง รถส่วนบุคคล รถรับส่งพนักงานในนิคมอุตสาหกรรม ทำให้เกิดปัญหารถติด และอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จึงทำให้ สจล. ได้กำหนดรูปแบบที่มีชื่อว่า “3 ไม่” เป็นโมเดลแห่งการขับขี่ปลอดภัย สร้างวินัยจราจร พร้อมทั้งปลูกจิตสำนึกในการใช้ถนนร่วมกัน ประกอบด้วย 1. ไม่ขับตัดเลน เพราะลักษณะของถนนมีทางแยกจำนวนมาก ทั้งทางแยกเข้าโรงเรียน ทางแยกเข้าวัด ทางแยกเข้าชุมชน รวมทั้ง ประตูเข้า-ออก ของ สจล. ที่มีหลายประตู จึงทำให้ผู้ใช้รถมีการขับรถตัดเลน และทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง 2. ไม่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง ไม่แซง ไม่ปาด ด้วยปัญหารถติด มีทางแยกเยอะ ประตูเข้าออกเยอะ รวมทั้งมีนักศึกษาจำนวนมากที่อยู่ในพื้นที่ ถ้าผู้ขับขี่รถขับขี่ด้วยความเร็วสูงก็จะทำให้มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุได้  3. ไม่ขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือ ซ้อนท้ายโดยไม่สวมหมวกกันน็อก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกัน ลดการบาดเจ็บ และการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุให้กับผู้ขับขี่รถจักยานยนต์ โดยเฉพาะในพื้นที่ของ สจล. ได้มีการเข้มงวดกวดขันอย่างจริงจัง
.
.
ด้าน ผศ.สมเกียรติ  ขวัญพฤกษ์ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกายภาพ จราจร และความปลอดภัย สจล. กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการวางรากฐาน และปรับปรุงเรื่องการจราจรนั้น ทาง สจล. ได้จัดทำแผนเรื่องการจราจรและความปลอดภัยไว้ 3 แผน คือ 1. แผนระยะสั้น เร่งประชาสัมพันธ์ ปลูกจิตสำนึกในความปลอดภัย  สร้างความเข้าใจ และกวดขันด้านวินัยจราจรกับผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในพื้นที่ 2.แผนระยะกลาง จะทาสีให้ชัดเจน ตีเส้นถนนภายใน ติดสัญญาณไฟจราจร เปิดให้มีการอบรมวินัยจราจร รวมทั้งนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ใช้ให้มากขึ้น เช่น ติดตั้งเซ็นเซอร์บริเวณทางแยกต่างๆ เมื่อมีคนขับรถตัดเลน ปาด แซง จะมีเสียงสัญญาณเตือนดังขึ้น 3.ระยะยาว จะมีการปรับเส้นทางการจราจรให้เหมาะสมและแก้ไขปัญหาการจราจรอย่างบูรณาการ  และโดยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานเขตลาดกระบัง การรถไฟแห่งประเทศไทย กรมการขนส่งทางบก สถานีตำรวจนครบาลจรเข้น้อย ในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

RANDOM

สสส. ร่วมกับ มูลนิธิเครือข่ายพลังสังคม ชวนน้อง ๆ เยาวชน อายุ 13-25 ปี ส่งผลงานคลิปสั้นร่วมประกวดใน หัวข้อ Party No L “ปาร์ตี้ สนุกได้ ไร้แอลกอฮอล์” ชิงทุนรวม 30,000 บาท หมดเขตสมัคร 28 ก.พ. นี้

NEWS

อว. ร่วมกับ สวทช. และ สมาคมวิทยาศาสตร์ฯ จัดโครงการมอบรางวัล Prime Minister’s Science Award 2025 เพื่อเชิญชูเกียรติโครงงานวิทยาศาสตร์ของเยาวชน และครูวิทยาศาสตร์ เพื่อรับรางวัลตัวอย่างที่ดีด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ขยายเวลาส่งผลงานถึง 20 มิถุนายน นี้

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!