สคล.-สสส. จัดแข่ง “นักพากย์เรือเยาวชนสร้างสุข” หนุนเยาวชนโชว์ศักยภาพ ร่วมรณรงค์ห่างไกลปัจจัยเสี่ยง

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) โดยการสนับสนุนของ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กรมพลศึกษา และภาคีเครือข่าย จัดเวทีประกวด “นักพากย์เรือเยาวชนสร้างสุขระดับประเทศ” ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 2 ณ แม่น้ำน่าน เชิงสะพานพัฒนาภาคเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน เพื่อเปิดพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงศักยภาพ และค้นหาแรงบันดาลใจให้แก่ตนเอง ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ห่างไกลปัจจัยเสี่ยง เหล้า บุหรี่ และยาเสพติด รวมทั้งปลูกฝังให้เยาวชนได้มีส่วนร่วมเรียนรู้ สืบสานวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ที่มีมาแต่โบราณ

ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ มีเยาวชนนักพากย์เรือจากทั่วประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน ทั้งในประเภทเดี่ยว และประเภททีม จำนวนกว่า 22 คน ซึ่งผลการแข่งขันในประเภทเดี่ยว ผู้ชนะเลิศ ที่ได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษาจำนวน 10,000 บาท ได้แก่ ด.ช.ภูพิพัฒน์ กิตินันท์ รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ นายนันทกานต์ พรมศรี ด.ญ.ปริยฉัตร ปะระมะ และนายรักแท้ จานทอง ตามลำดับ ส่วนการแข่งขันประเภททีม โดยทีมที่ชนะเลิศ ได้ถ้วยรางวัลพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทุนการศึกษาจำนวน 25,000 บาท ได้แก่ ทีมจากภาคเหนือ (จังหวัดน่าน) เยาวชนนักพากย์เรือ ประกอบด้วย ด.ช.ณัฐประวุฒิ ชุมนันท์ ด.ช.ศักรินทร์ ยาแก้ว น.ส.จิราธร กรีเรียน ด.ญ.รุจิลักษณ์ ชัยสมทิพย์ และ น.ส.เขมอักษร ทิพย์ปัญญา ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมจากภาคใต้ (จังหวัดชุมพร) และ รางวัลรองชนะเลิศ ได้แก่ทีมจากภาคอีสาน (จังหวัดสุรินทร์)

 

นายวิษณุ ศรีทะวงศ์ ผู้จัดการแผนพัฒนานโยบายสาธารณะฯ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) เปิดเผยว่า งานประเพณีแข่งเรือปลอดเหล้ามีการรณรงค์มากว่า 17 ปี ถือเป็นประเพณีประจำในหลายจังหวัด สคล. และ สสส. พยายามยกระดับการพากย์เรือเพื่อร่วมเชิดชูงานศิลปวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าแบบนี้ให้ได้ไปต่อ ด้วยการเชื่อมไปยังคนรุ่นใหม่ โดย “นักพากย์สร้างสุข” จะเป็นการเชื่อมของคนสามวัย ทั้งผู้สูงวัย วัยกลางคน และคนรุ่นใหม่ เข้าด้วยกัน ข้อมูลต่าง ๆ จะถูกถ่ายทอดและส่งต่อเรื่องของวิถีวัฒนธรรมและประเพณีการแข่งเรือที่ทรงคุณค่าจากคนรุ่นเก่าสู่คนรุ่นใหม่

โดยนักพากย์เรือเยาวชน ไม่เพียงแต่มีทักษะในการพากย์เรือเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการสื่อสารประเด็นสุขภาวะ การประชาสัมพันธ์รณรงค์เพื่อปรับเปลี่ยนค่านิยมทางสังคม ลดปัจจัยเสี่ยงให้งานแข่งเรือ งานบุญประเพณี ปลอดเหล้า บุหรี่ การพนัน และความเสี่ยงต่าง ๆ โดยที่ผ่านมา น้อง ๆ ที่มาร่วมงานการพากย์เรือสามารถพัฒนาตนเองไปสู่เส้นทางอาชีพอื่น ๆ เช่น พิธีกร นักจัดรายการวิทยุ และอาจเชื่อมโยงไปเป็น ยูทูปเปอร์ สตรีมมิ่งเกม นักพากย์กีฬาชนิดต่าง ๆ รวมทั้งพิธีกรในงานต่าง ๆ ซึ่งเป็นเรื่องท้าทาย ดังนั้น การพากย์เรือ จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่ความสร้างสรรค์และการพัฒนาศักยภาพตนเองในแง่มุมต่าง ๆ แทนการใช้เวลาไปยุ่งเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ บุหรี่ หรือยาเสพติดชนิดต่าง ๆ ที่กำลังเป็นปัญหาในปัจจุบัน

ด้าน อาจารย์อธิปัตย์ สายสูง เลขาฯ ชมรมเรือพาย ม.เทคโนโลยีราชมงคลล้านนา จ.น่าน และ ผู้ควบคุม ทีมเรือ “ซุ้มย่าสั่งลุย” ได้เล่าถึงความรู้เรื่อง “จุมสล่าเฮือน่าน” และอัตลักษณ์ของการแข่งเรือ จ.น่าน ที่แตกต่างและโดดเด่นกว่าพื้นทื่อื่น ๆ แก่เยาวชนนักพากย์เรือสร้างสุข ก่อนการแข่งขัน ว่า ก่อนที่น้อง ๆ จะพากย์เรือ จะต้องรู้ใน 3 สิ่ง คือ รู้เรือ รู้พาย สายน้ำ (คำพูดของ อ.ขวัญทอง สองศิริ) ซึ่ง รู้เรือ หมายถึง รู้เรื่องเรือ ไม่ว่าจะเป็นเรือลำนี้ สร้างมาจากช่างฝีมือสายไหน มีเอกลักษณ์โดดเด่นอย่างไร เพื่อให้มีข้อมูลอธิบายให้ผู้ฟังได้อย่างชัดเจน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อน้อง ๆ นักพากย์ ส่วน รู้พาย หมายถึง ฝีพายเป็นใคร มีความพร้อมระดับไหน ประวัติความเป็นมา และผลงานที่ผ่านมาเป็นอย่างไร และน้อง ๆ จำเป็นต้องรู้ สายน้ำ เพราะสายน้ำมีผลต่อชัยชนะ บางครั้งเรือสูสีกัน น้องจะได้มองภาพออกว่า ลำไหนจะขึ้นนำ หรือแซงขึ้นได้

ทางด้าน “น้องภูผา” ด.ช.ภูพิพัฒน์ กิตินันท์ ผู้คว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทเดี่ยว ชั้น ม.2 โรงเรียนท่าวังผาวิทยาคม จ.น่าน เผยความรู้สึกว่า ต้องขอขอบคุณ สสส.และ สคล. ที่มีโครงการดี ๆ แบบนี้ ทำให้ผมมีโอกาสได้ค้นหาตัวเอง ส่วนตัวชอบการพากย์เรือตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และพัฒนาฝึกฝนตนเองมาตลอดจนถึงปัจจุบัน อายุ 14 ปี ดีใจมากที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ผมจะฝึกฝนตนเองในเรื่องการพากย์เรือ และพัฒนาให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป และจะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับน้อง ๆ เยาวชนในโอกาสต่อไป การแข่งขันครั้งนี้ นอกจากจะได้รับประสบการณ์ที่ดี ได้สืบสานวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามแล้ว ยังได้เพื่อนใหม่จากต่างถิ่นด้วย ส่วนอนาคตผมอยากทำงานด้านสื่อสารมวลชน อยากเป็นนักข่าว หรือ พิธีกร ครับ

ด้าน “น้องออมสิน” ด.ญ.รุจิลักษณ์ ชัยสมทิพย์ ตัวแทนผู้ชนะเลิศประเภททีม ชั้น ม.2 โรงเรียนสตรีศรีน่าน จ.น่าน กล่าวว่า ที่สนใจการพากย์เรือ เพราะบ้านติดแม่น้ำ เห็นการพากย์การแข่งเรือก็อยากลองจับไมค์ดูบ้าง การพากย์เรือ เราต้องมี 3 รู้ คือ รู้เรือ-มาจากไหน ผลงานที่ผ่านมา รู้พาย- ฝีพายชุดไหน มีผลงานอย่างไรบ้าง และ สายน้ำ – สายน้ำตะวันตก หรือตะวันออก การพากย์เรือเราจะเรียก ร่องน้ำแดง ร่องน้ำน้ำเงิน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ตนได้รับความรู้มาจากโครงการอบรมนักพากย์เยาวชนสร้างสุข จัดโดย สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) หนูได้รับความรู้ เทคนิคการพากย์ หลายอย่างจากโครงการนี้
เช่น การพากย์ต้องชัดถ้อยชัดคำ เสียงดังฟังชัด พากย์ได้น่าฟังด้วย ซึ่งหนูจะนำไปต่อยอด โดยนำไปใช้กับการเป็นพิธีกรในงานของหมู่บ้าน และงานโรงเรียน ค่ะ

RANDOM

“ขจร เจียรวนนท์” นำทัพผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ บุกให้กำลังใจคณะนักกีฬาไทยถึงภายในหมู่บ้านนักกีฬา ภายในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา สร้างขวัญกำลังใจพร้อมทำศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 32 “แคมโบเดีย 2023”

“สมาคมกีฬาม้าแข่งไทย” เร่งเครื่อง หลังได้รับข่าวดี “กกท.” ไฟเขียว ให้ใช้คำว่า “แห่งประเทศไทย” แล้ว “พล.อ.วิชญ์” นายกสมาคม เดินหน้าลุยล่าฝันผุด “สนามแข่งม้า+ศูนย์กีฬาโอลิมปิก” ให้สำเร็จ หลังมี “กลุ่มทุนต่างประเทศ” สนใจร่วมทำโปรเจ็คต์ยักษ์

NEWS

พม. ร่วมกับ มูลนิธิลมหายใจไร้มลทิน เชิญชวนน้อง ๆ เยาวชนและผู้สนใจร่วมประกวดในโครงการ จะคิด ทำ อย่างไร เพื่อเสริมสร้างค่านิยมแห่งความซื่อสัตย์ ชิงทุนการศึกษากว่า 300,000 บาท เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้ – 30 ส.ค. 67

error: Content is protected !!