ดร.พีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการคณะกรรมการ สกสค. เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้สินครูอย่างต่อเนื่อง จากปี 2567 ที่ สกสค. ได้ร่วมกับ ธนาคารออมสิน ลดดดอกเบี้ยให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่กู้เงินตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. ร้อยละ 1 เป็นระยะเวลา 6 เดือน มีครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับประโยชน์จำนวน 230,000 ราย เป็นเงิน 1,600 ล้านบาท รวมทั้งให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาลงทะเบียนเพื่อขอรับการช่วยเหลือในการแก้ไขหนี้ที่มีปัญหาทางกฎหมาย 2 ครั้ง มีผู้ลงทะเบียนมากกว่า 14,000 ราย และได้ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินให้ความช่วยเหลือสำเร็จไปแล้ว 8,868 ราย เป็นมูลค่าความช่วยเหลือรวม 14,917 ล้านบาท
ในปี 2568 สกสค. ได้มีการประชุมหารือร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูไปแล้วเบื้องต้น รวม 7 สหกรณ์ มีความเห็นร่วมกันในแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางศึกษาที่สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล โดยเห็นสมควรให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ ด้วยการรวมหนี้ทั้งหมดไว้ด้วยกันที่สหกรณ์ที่รับเป็นสหกรณ์กลาง แล้วให้สถาบันการเงินสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้สหกรณ์กลางใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการแก้ปัญหาหนี้สินให้แก่ครูที่เข้าร่วมโครงการ โดยจะต้องจัดให้มีระบบป้องกันไม่ให้ผู้ที่เข้าร่วมโครงการไปก่อหนี้เพิ่มเติมต่อไปในอนาคตด้วย
การดำเนินการตามแนวทางดังกล่าว จะทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านการชำระหนี้ลง เนื่องจากได้รับการปรับงวดชำระหนี้ และได้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลดลง ทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามีรายได้คงเหลือต่อเดือนเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำรงชีพเพิ่มมากขึ้น และป้องกันไม่ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาไปก่อหนี้เพิ่มในอนาคตด้วย โดย สกสค. รับเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถดำเนินการตามแนวทางที่กำหนดไว้โดยเร็วต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา