“ส่องหาปูนิ่ม ด้วย AI” นวัตกรรมเพื่อผู้ผลิตปูนิ่ม ไอเดียสร้างสรรค์ ช่วยแก้ปัญหาเกษตรกร ฝีมือนักศึกษา FIBO มจธ.

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

“2 ถึง 3 ชั่วโมง คือ ช่วงเวลาทองที่ปูทะเลหลังลอกคราบ จะต้องถูกนำขึ้นจากบ่อ เพื่อไปทำเป็น “ปูนิ่ม” เพราะหากช้ากว่านี้ ปูตัวนั้นก็จะดึงแร่ธาตุในน้ำเค็มมาสร้างกระดองแข็ง ทำให้เป็นภาระที่ต้องเลี้ยงรอการลอกคราบครั้งต่อไปอีกไม่น้อยกว่า 1 เดือน ที่สำคัญการใช้คนทำหน้าที่ส่องดูปูในตะกร้าทีละใบอย่างต่อเนื่องนั้น นอกจากต้องใช้คนงานบ่อละหลายคนแล้ว ยังมีโอกาสผิดพลาด หรือ ไม่เจอปูลอกคราบได้ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากเป็นฟาร์มปูทะเล ขนาด 500,000 ตัว จะเป็นเงินที่ถูกปล่อยคืนบ่อไปเฉย ๆ เดือนละ 864,000 บาท” น้องบีม จาก ทีม “ปูนิ่มจิ้มซีฟู้ดส์” กล่าวถึงที่มาของแนวคิดการพัฒนา “ระบบตรวจจับและเก็บเกี่ยวปูนิ่มในการเลี้ยงระบบปิดแบบธรรมชาติ (System for Detecting and Harvesting Soft-shell Crabs in Closed Natural Farming Systems)” ที่คว้ารางวัล Ford Popular Vote สุดยอดนวัตกร จาก Ford Innovator Scholarship 2024 การประกวดนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับสูง Ford Innovator Scholarship 2024

ทีม “ปูนิ่มจิ้มซีฟู้ดส์” ประกอบด้วย สมาชิก 5 คน ได้แก่ นางสาวบุณยาพร ปรีชาศุทธิ์ (น้องบีม), นางสาววรกาญจน์ ลาสุดี (น้องปีใหม่), นายวิชาญ วิชญานุภาพ (น้องไบร์ท), นายณพสัญญ์ จีระวัฒนะนนท์ (น้องออตโต้) และ นายภูนุวัฒน์ บุญเกิด (น้องเตเต้) ทั้งหมดเป็นนักศึกษาปริญญาตรี ชั้นปีที่ 2 ของ สถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม (FIBO) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) โดยมี ผศ. ดร.เอกชัย เป็งวัง และ ดร.รัตนชัย รมัยธิติมา FIBO เป็นอาจารย์ที่ปรึกษา ที่รวมตัวกันสร้างนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหาของชุมชน อันเป็นโจทย์ของการแข่งขันฟอร์ดในปีนี้

“เมื่อนำหัวข้อที่เราสนใจมาทำ SWOT (วิเคราะห์จุดเด่น-จุดด้อย-โอกาส-ความเสี่ยง) ประเทศไทยส่งออกปูทะเลมากกว่าปีละ 6 พันล้านบาท ขณะที่ มีฟาร์มเลี้ยงปูทะเลมากกว่า 5,000 ฟาร์ม การที่เราเข้าไปแก้ไขจุดที่เป็นคอขวดของการทำปูนิ่ม จึงน่าจะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรผู้เลี้ยงปูทะเลได้จริง ๆ เราจึงเลือกจะทำเรื่องนี้” น้องออตโต้ ที่ชื่นชอบปูทะเลเป็นพิเศษ กล่าวถึงกระบวนการคิดที่ทำให้เลือกปูทะเล มาเป็นหัวข้อในการทำโครงงานประกวดชิ้นนี้

สำหรับเครื่องต้นแบบของ “ระบบตรวจจับและเก็บเกี่ยวปูนิ่มในการเลี้ยงระบบปิดแบบธรรมชาติ” ที่น้อง ๆ ทีม “ปูนิ่มจิ้มซีฟู้ดส์” ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ในการสร้าง จะเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่วิ่งไปเหนือแพเลี้ยงปู ที่มีตะกร้าใส่ปูแขวนไว้ในน้ำ เพื่อหาตะกร้าที่มีปูระยะลอกคราบ แล้วนำตะกร้านั้นมาส่งให้กับคนงาน ซึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดของระบบนี้ คือ “ระบบตรวจสอบด้วยกล้อง”

“เราต้องการให้ระบบของเราสามารถใช้กับตัวบ่อและตัวแพ รวมถึงตะกร้าที่มีอยู่เดิม เพียงแต่เปลี่ยนจากการที่ใช้คนงานเป็นผู้ดึงหรือสาวแพปูเข้ามา เพื่อส่องดูด้วยตา มาเป็นการใช้ระบบรอกในการดึงแทน และมีกล้องอินฟราเรดบันทึกภาพปูในตะกร้า เพื่อส่งภาพให้ AI วิเคราะห์ว่าปูตัวนั้นอยู่ในช่วงลอกคราบหรือไม่ เพราะปูที่มีกระดองแข็ง กับ ปูนิ่ม (ปูที่มีกระดองนิ่ม) จะมีค่าการสะท้อนแสงอินฟราเรดที่ต่างกัน รวมถึงหาก AI สามารถนับจำนวนวัตถุในภาพได้มากกว่า 1 ชิ้น ก็แสดงว่าในตะกร้านั้น มีปูที่ลอกคราบแล้วได้เช่นกัน” น้องปีใหม่ อธิบายคอนเซ็ปต์ในการวิเคราะห์ภาพด้วย AI

จากการทดสอบให้ AI เรียนรู้ และจำแนกภาพอินฟราเรดของปูทะเล ทั้งปูทั่วไป และ ปูระยะลอกคราบ 2,300 ภาพ พบว่า AI สามารถแยกแยะระหว่างปูปกติ กับ ปูลอกคราบ ได้อย่างแม่นยำ โดยมีค่าความถูกต้องสูงถึง 99 เปอร์เซ็นต์ และนอกจากจะวิเคราะห์หาปูนิ่มได้แล้ว ระบบยังมีการนำภาพที่ถ่ายล่าสุดกับภาพก่อนหน้ามาซ้อนทับกัน ซึ่งหากมันเหมือนกัน (ทับซ้อนกันสนิท) แสดงว่า ปูตัวนั้นไม่มีการขยับตัวเลย ทำให้สามารถแยกปูที่ตายออกจากบ่อได้รวดเร็วขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงจากการระบาดของโรค (หากมี) ได้อีกด้วย” น้องไบร์ท ให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับระบบวิเคราะห์ด้วยภาพ

ด้าน น้องเตเต้ กล่าวเสริมว่า ในส่วนของการทำให้ตัวอุปกรณ์กล้อง และ อุปกรณ์เก็บเกี่ยว วิ่งไปตามแพแต่ละแพนั้น ทางตนเองและเพื่อน ๆ ใช้ความรู้ทางวิศวกรรมที่ได้จากการเรียนในชั้นปีที่ 1 และ 2 มาสร้าง รวมถึง “ระบบขับเคลื่อน” และ “ระบบยกตะกร้า” ที่จะมี “มือจับ” (Gripper) ทำหน้าที่ ยกตะกร้าใส่ปู ที่ AI ระบุว่า เป็นปูนิ่ม หรือ เป็นปูที่ตายแล้ว ขึ้นจากน้ำ และ “ระบบดึงแพ” ที่จะลำเลียงตะกร้าใบนั้น ๆ มาที่ฝั่ง เพื่อให้คนงานของฟาร์มจัดการต่อไป

“จากการทดสอบการใช้งาน ‘ระบบตรวจจับและเก็บเกี่ยวปูนิ่มในการเลี้ยงระบบปิดแบบธรรมชาติ’ ตัวต้นแบบ (Prototype) ที่สร้างขึ้น พร้อมกับบ่อเลี้ยงปูจำลอง ขนาด 1X2 เมตร ณ อาคาร FIBO จากเดิมที่การตรวจปูในบ่อปู จำนวน 2,000 กล่อง จะใช้เวลารอบละประมาณ 4-5 ชั่วโมง แต่ระบบใหม่นี้ใช้เวลารอบละ 2-3 ชั่วโมง เท่านั้น ทำให้รอบตรวจถี่ขึ้น มีโอกาสเจอตะกร้าที่มีปูระยะลอกคราบมากขึ้น นอกจากนั้นตัว AI ที่เราพัฒนาขึ้น ยังมีความแม่นยำในการแยกแยะระหว่างปูทั่วไป กับ ปูลอกคราบ สูงถึง 95 เปอร์เซ็นต์” น้องเตเต้ กล่าวถึงจุดเด่นด้านเทคโนโลยีของนวัตกรรมชิ้นนี้

น้องไบร์ท กล่าวต่อว่า สำหรับตัวต้นแบบที่มีขนาดประมาณครึ่งหนึ่งของตัวจริงนั้น นอกจากตัว AI ที่เป็น Open Source และ ตัวกล้องที่ผลิตจากต่างประเทศ วัสดุอุปกรณ์อื่น ๆ ล้วนเป็นของที่หาได้ในประเทศทั้งสิ้น โดยมีต้นทุนอยู่ที่ชุดละ 4 หมื่นบาท ซึ่งการผลิตจริงอาจมีราคาสูงกว่านี้ เพราะต้องเปลี่ยนจากวัสดุอะลูมิเนียมไปเป็นวัสดุสเตนเลสที่ทนต่อความเค็มของน้ำได้ดีขึ้น แต่ราคาไม่น่าเกินชุดละ 1 แสนบาท แต่ที่สำคัญ คือ ระบบนี้สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้กับผู้ประกอบการฟาร์มปูนิ่มได้จริง

“จากเดิมที่ต้องมีคนที่มีความเชี่ยวชาญในการดูปูลอกคราบ 5-6 คนต่อบ่อ ก็จะเหลือเพียง 1-2 คนต่อบ่อ เป็นการลดความเสี่ยงเรื่องการขาดแคลนแรงงานให้กับเกษตรกร ที่สำคัญ คือ เป็นนวัตกรรมที่เราต่อยอดจากรูปแบบการเลี้ยงที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งน่าจะทำให้เกิดการยอมรับของผู้ใช้ได้ไม่ยาก”

คลิปสาธิตการทำงานของระบบตรวจจับและเก็บเกี่ยวปูนิ่ม
https://drive.google.com/drive/u/2/folders/1XDQ81T2HFjX7H08vVhr9IFvfP8ljaVZ0

RANDOM

“มวยไทยซอฟต์พาวเวอร์” เห็นผลทันตา “ค่ายมวยไทยปารีส” สุกคึกคัก “รองต่อ” เผยพร้อมผลักดันต่อเนื่อง ส่งครูมวยไทยมาช่วยสอน ด้าน “ลุมพินี” วางแผนร่วมมือ ค่ายไหนเจ๋ง เล็งรับรองคุณภาพให้

“สมยศ” นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ สละตำแหน่งตามเสียง ของพลเอกประวิตรฯ ที่แนะให้อำลาเก้าอี้ผู้นำฟุตบอลไทย พร้อมเตรียมแจ้งเหตุผลแห่งการลาออกต่อ AFF,AFC และ FIFA ในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงของสมาคมฯ

สำนักงานวิจัยแห่งชาติ ประกาศรับข้อเสนอการวิจัยและนวัตกรรม โครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก (คปก.) ประจำปีงบประมาณ 2567 รุ่นที่ 26 ยื่นข้อเสนอการวิจัยได้ ตั้งแต่บัดนี้ – 25 กันยายน 2566

NEWS

สมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย เชิญชวนนักเขียนรุ่นใหม่ ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดใน โครงการประกวดวรรณกรรม รางวัล “พระองค์วรรณ” ชิงรางวัลรวม 100,000 บาท สมัครและส่งผลงานได้ ตั้งแต่บัดนี้ – 15 กันยายน

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!