“ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติจากเปลือกมะพร้าวเหลือทิ้ง-ตะบูน” ผลงาน ราชมงคลพระนคร เพิ่มมูลค่าของเหลือทิ้งในชุมชน พัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างรายได้ให้ชุมชนบ้านลมทวน จ.สมุทรสงคราม

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter
การย้อมสีผ้าเป็นภูมิปัญญาโบราณของไทย โดยการนำเอาวัตถุดิบในธรรมชาติที่ได้จากพืช สัตว์ และ แร่ธาตุต่าง ๆ มาทำการย้อมกับเส้นด้าย เพิ่มสีสันให้มีความสวยงาม และนำมาใช้ในการทอผ้า ซึ่ง การย้อมสีผ้าด้วยวัสดุจากธรรมชาติ เป็นมรดกทางวัฒนธรรม จนกลายเป็นอัตลักษณ์ของคนแต่ละพื้นที่ มีการสืบทอดเทคนิควิธีการย้อมมายังคนรุ่นหลัง แม้เทคโนโลยีการย้อมผ้าจะเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัยก็ตาม เช่นเดียวกับ ชุมชนบ้านลมทวน หรือ คุ้งลมทวน จ.สมุทรสงคราม ชุมชนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำน้ำตาลมะพร้าว และประมง นอกจากนี้ ยังมีการจัดตั้งวิสาหกิจชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ ที่มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ลงมือทำ และได้สัมผัสกับวิถีชีวิตชาวชุมชน อาทิ การสานหมวกจากใบมะพร้าว การทำขนมต้ม การทำน้ำตาลมะพร้าว การทำไข่เค็มมรกต การทำมัดย้อม และ การทำพวงกุญแจจากขุยมะพร้าว เป็นต้น
.
.
นางสาวจุฬามณี ธัญสมุทร และ นายภารดา ปักษาทอง นักศึกษาสาขาวิชาออกแบบแฟชั่นและการจัดการสินค้าแฟชั่น คณะเทคโนโลยีคหกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร เล่าให้ฟังว่า จากอาชีพทำน้ำตาลมะพร้าว ทำให้มีเปลือกมะพร้าวเหลือทิ้งเป็นจำนวนมาก จึงมีแนวคิดในการนำเศษเปลือกมะพร้าวเหลือทิ้ง มาสกัดเป็นสีจากธรรมชาติ เพื่อใช้ในการย้อมผ้า เป็นการนำวัสดุเหลือทิ้งในท้องถิ่นมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด มากกว่าการเป็นแค่วัสดุปลูก หรือ ปุ๋ย และยังเป็นการเพิ่มอัตลักษณ์ให้กับท้องถิ่น โดยมี อาจารย์มัลลิกา จงจิตต์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาออกแบบแฟชั่นและการจัดการสินค้าแฟชั่น เป็นที่ปรึกษาโครงการ
.
ทั้งนี้ หลังจากลงพื้นที่พูดคุยกับวิทยากรที่ให้ความรู้ด้านการมัดย้อมในชุมชน พบว่า ทางชุมชนได้มีการนำกาบมะพร้าว มาสกัดน้ำสีออกมา เพื่อใช้ในการมัดย้อมผลิตภัณฑ์สิ่งทอภายในชุมชน เช่น กระเป๋าสะพาย กระเป๋าถือ กระเป๋าใส่เหรียญ พวงกุญแจ ของที่ระลึก  ดังนั้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับชุมชน ทางคณะฯ จึงนำแนวคิดในการเรียนรู้วิถีชีวิตด้านการย้อมผ้าจากสีธรรมชาติ มาใช้ดึงเสน่ห์ของชุมชน เพื่อสร้างสรรค์สินค้าและบริการ รองรับนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง
.
.
ขั้นตอนการทำน้ำย้อมที่สกัดจากเปลือกมะพร้าว เนื่องจากเปลือกมะพร้าว มีองค์ประกอบทางเคมีในการดูดซับสีย้อมเส้นด้ายผ้าฝ้ายค่อนข้างต่ำ ดังนั้น จึงนำเปลือกต้นตะบูน มาเป็นองค์ประกอบเพิ่มในกระบวนการ เพื่อให้ได้สีซึ่งมีความติดทนนาน ด้วยประโยชน์ของตะบูน คือ เปลือกให้น้ำฝาด ใช้สำหรับย้อมผ้า และเนื้อไม้มีสีขาว เปลือกต้นมีสีเทา หรือ สีเทาอมขาว หรือ เป็นสีน้ำตาลแดง ซึ่งเฉดสีของผ้าฝ้ายที่ได้หลังการย้อมจากเปลือกมะพร้าวผสมเปลือกตะบูน จะให้เฉดสีไปทางสีน้ำตาลเข้ม โดยวิธีการทำ เริ่มจากนำเปลือกมะพร้าวและเปลือกตะบูนแห้ง มาทำการต้ม ด้วยสัดส่วน 1:1 เป็นเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นกรองเศษเปลือกออกให้หมดด้วยผ้าขาวบาง นำน้ำสีที่ได้มาต้มอีกครั้ง เป็นเวลา 30 นาที ใส่โซเดียมซิลิเกต (เกลือแกง) ลงไป เพื่อให้สีติดผ้าดีขึ้น นำผ้าที่ทำการมัดเป็นลวดลายต่าง ๆ  ลงไปในอ่างน้ำย้อม คนตลอดเวลา โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นนำมาวางให้น้ำย้อมเย็น และคนผ้าต่อไปอีกครึ่งชั่วโมง พอครบตามเวลา นำผ้าล้างด้วยน้ำสะอาด และนำผ้าไปผึ่งไว้จนแห้ง
.
.
จากการทดสอบความคงทนในการติดสีของสีจากธรรมชาติจากเปลือกมะพร้าวผสมเปลือกต้นตะบูน ในการซักล้างครั้งแรก สีน้ำย้อมจะหลุดออกมามากที่สุด เนื่องจากสีที่ออกมาเป็นเม็ดสีที่ไม่เกาะเส้นใยเลย ทำให้สีตกออกมา หลังจากนั้นเมื่อนำไปซักอีก สีจะไม่หลุดออกมาอีก สีแทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง สรุปได้ว่า สีธรรมชาติจากเปลือกมะพร้าวและเปลือกต้นตะบูน สามารถนำมาทำเป็นสีย้อมผ้าจากธรรมชาติได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม นอกจากการสอนการย้อมสีให้กับชาวชุมชนที่สนใจแล้ว ทางกลุ่มยังได้สอนการเพิ่มมูลค่าสินค้า ด้วยการนำผ้าที่ได้จากการย้อมมาตัดเย็บ จนเกิดผลิตภัณฑ์มากมาย อาทิ ชุดเดรส ผ้าคลุมผม ผ้าโพกหัว กระเป๋าสตางค์ใบเล็ก ช่วยสร้างรายได้ให้กับชุมชน จนผลิตภัณฑ์เหล่านี้กำลังเป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ของชุมชนบ้านริมคลองโฮมสเตย์ จังหวัดสมุทรสาคร ด้วย “เอกลักษณ์สินค้าที่ทีมงานต้องการ คือ นำสิ่งที่เหลือทิ้งที่ทุกคนมองข้าม กลับมาใช้ประโยชน์ สร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ สร้างอาชีพและรายได้ให้คนในชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย
.
ด้าน อาจารย์มัลลิกา จงจิตต์ อาจารย์ประจำสาขาวิชาออกแบบแฟชั่นและการจัดการสินค้าแฟชั่น ที่ปรึกษาโครงการ กล่าวว่า  การบูรณาการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการใช้ประโยชน์จากพันธุ์พืช ในโครงการตามรอยพระราชดำริเพื่ออนุรักษ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อใช้ประโยชน์จากพันธุกรรมพืช ปี 2567 เป็นการบูรณาการวิชาเรียนของนักศึกษาให้เข้ากับศาสตร์สาขาวิชาที่เรียน โดยหวังให้นักศึกษามีองค์ความรู้ในการศึกษาค้นคว้า วิจัย และรวบรวมข้อมูลพืชสมุนไพร ในการนำมาพัฒนา การแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถอุปโภคหรือบริโภค อีกทั้งส่งเสริมให้เห็นคุณค่าและรู้จักใช้ประโยชน์ของทรัพยากรธรรมชาติที่มีในท้องถิ่น ซึ่งการย้อมสีธรรมชาติสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง เป็นความรู้ที่เพิ่มพูนขึ้นตามประสบการณ์ สามารถถ่ายทอดให้แก่คนรุ่นหลัง เป็นภูมิปัญญาของท้องถิ่นต่อไป

RANDOM

error: Content is protected !!