วิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ (CITE DPU) พัฒนาระบบ AI & IoT แจ้งเตือนช่วยเด็กติดในรถ หวังลดการสูญเสีย

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

‘CITE DPU’ พัฒนาคิดค้นระบบ AI & IoT ตรวจจับและแจ้งเตือนช่วยเด็กติดในรถ หลังพบสถิติมีเด็กติดในรถรับ-ส่งนักเรียน รถตู้โรงเรียนเพิ่มมากขึ้น ระบุติดในรถ 30 นาที เด็กจะเกิดภาวะช็อก หมดสติ และเสียชีวิตได้ พร้อมเผย 3 หลักการทำงาน ส่งข้อความและภาพ ผ่าน Line ไปยังคนขับรถ และผู้ปกครอง ไซเรนดัง และกระจกประตูรถฝั่งคนขับเลื่อนลง หวังสร้างความมั่นใจ ไว้วางใจแก่ผู้ปกครองส่งลูกไปโรงเรียนอย่างปลอดภัย

ผศ.อรดี พฤติศรัณยนนท์ รองคณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ (CITE) และ อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (DPU) เปิดเผยว่า ในทุก ๆ ปี จะเห็นข่าวการเสียชีวิตของเด็กจากการติดอยู่ในรถ ไม่ว่าจะเป็นรถตู้โรงเรียน หรือ รถยนต์ส่วนตัว โดยสถิติเด็กติดในรถรับ-ส่งนักเรียน ในช่วง 9 ปีที่ผ่านมา พบว่า เกิดเหตุการณ์ 130 ครั้ง มีเด็กเสียชีวิต 7 ราย เป็นเพศหญิง 4 ราย และ เพศชาย 3 ราย มีอายุระหว่าง 2-7 ปี ซึ่งถูกลืมทิ้งไว้ในรถที่จอดไว้หลังจากรับส่งนักเรียนแล้วเสร็จ นานกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป โดยเด็กอาจนอนหลับอยู่ในรถ

ด้วยภาระหน้าที่ของพ่อแม่ในปัจจุบัน ทำให้หลายคนไม่สามารถส่งลูกไปโรงเรียนได้ด้วยตนเอง ต้องใช้บริการรถโรงเรียน หรือรถรับ-ส่งนักเรียน ซึ่งพ่อแม่ทุกคนอยากให้ลูกไปถึงโรงเรียนอย่างปลอดภัย แต่เมื่อเห็นสถิติ และข่าวที่เกิดขึ้น เราจึงได้คิดค้นงานวิจัยเกี่ยวกับระบบการแจ้งเตือนและช่วยเหลือเด็กติดในรถ ซึ่งเป็นงานวิจัยที่พัฒนาและคิดค้นขึ้น เพื่อลดการสูญเสียที่จะเกิดขึ้น เบื้องต้นได้มีการสร้างระบบ AI & IoT (Artificial Intelligence : AI & Internet of Things : loT ) ซึ่งเป็นระบบตรวจจับและแจ้งเตือน โดยใช้โครงข่ายประสาทเทียม YOLO V.3 (You Only Look Once) ในการตรวจจับบุคคล เพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถรับ-ส่งนักเรียน และได้มีการทดลองระบบเรียบร้อยแล้ว

รองคณบดีวิทยาลัย CITE กล่าวต่อว่า การหลงลืมเด็กไว้ในรถตู้โรงเรียน รถรับ-ส่งนักเรียน หรือ รถยนต์ 30 นาทีแรก มีความสำคัญอย่างมาก จาก ข้อมูลการทดสอบโดย ศูนย์วิจัยสร้างเสริมความปลอดภัยและป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก โรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่า หากเด็กติดอยู่ในรถที่จอดกลางแดดเป็นเวลา 5 นาที อุณหภูมิจะสูงขึ้นจนเด็กไม่สามารถทนอยู่ได้ และเมื่อผ่านไป 10 นาที ร่างกายจะแย่ลง จนกระทั่งผ่านไป 30 นาที เด็กจะเกิดภาวะเลือดเป็นกรด ช็อก หมดสติ สมองบวม จากนั้นอาจหยุดหายใจ อวัยวะทุกอย่างจะหยุดทำงาน และอาจเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้น หากช่วยเด็กได้ภายใน 30 นาทีแรก ก็จะช่วยลดการสูญเสีย ลดอัตราการเสียชีวิตจากการหลงลืมเด็กไว้ในรถได้

“ทุกโรงเรียนควรจะมีการติดตั้งระบบการตรวจจับและแจ้งเตือน เพื่อป้องกันการลืมเด็กในรถรับ-ส่งนักเรียน รถตู้โรงเรียน ซึ่งตอนนี้หลาย ๆ โรงเรียนอาจจะมีการติดตั้งกล้องในการตรวจจับว่ามีเด็กหลงลืมอยู่ในรถหรือไม่ แต่หลักการทำงานของระบบ AI & IoT ที่คิดค้นขึ้นนั้น หาก AI ตรวจพบว่า มีบุคคลในรถหลังจากที่รถดับเครื่อง ประตูห้องโดยสารปิด และประตูคนขับรถปิด ระบบจะมีการส่งข้อความและภาพผ่านแอปพลิเคชั่น Line เพื่อแจ้งเตือนไปยังคนขับรถ และผู้ปกครองของเด็ก หลังจากนั้นจะมีไซเรนดังขึ้น และกระจกประตูรถฝั่งคนขับจะเลื่อนลง ซึ่งการจะวางระบบทั้งหมดได้นั้น ต้องได้รับความยินยอมจากทางโรงเรียน หรือ เจ้าของรถ เพราะจะต้องมีการติดตั้งกล้องและอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วย” ผศ.อรดี กล่าว

ทั้งนี้ รถที่ติดตั้งจะมีการผูกกับสัญญาณ wifi หรือ แชร์อินเตอร์เน็ตจากมือถือ ซึ่งราคาไม่แพง เพื่อช่วยป้องกันความเผลอเรอ ทำให้โรงเรียนและรถรับส่งนักเรียนได้รับความไว้วางใจ และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ปกครองได้มากขึ้น อีกทั้งสามารถนำไปต่อยอดพัฒนาเป็นอุปกรณ์ที่มีคุณค่าเชิงสังคมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ในราคาประหยัด

ทั้งนี้ ระบบดังกล่าว ตอบโจทย์เป้าหมายของมหาวิทยาลัยในการดำเนินการเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDG) ข้อ 3 การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และข้อ 9 อุตสาหกรรม นวัตกรรม  และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทางทีมวิจัยได้มีการออกแบบระบบ จัดซื้อวัสดุและอุปกรณ์ พร้อมสร้างและพัฒนาอุปกรณ์ เขียนโปรแกรม ติดตั้งอุปกรณ์ในรถ ทดสอบระบบ และปรับปรุงแก้ไขระบบ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หากโรงเรียน หรือ ผู้ปกครอง รวมถึงผู้ให้บริการรถตู้สนใจ สามารถติดต่อได้ที่ oradee.prt@dpu.ac.th หรือ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ CITE วิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์

RANDOM

ตามรอยศาสตร์พระราชา เยือนแหล่งเรียนรู้รักษ์เต่าทะเล และ Green Hotel ต้นแบบโรงแรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ที่ จ.พังงา ในโครงการทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 51

มูลนิธิทรัพย์ปัญญา ร่วมกับ กองทัพเรือ บริษัท GPSC และ ม.กรุงเทพธนบุรี เชิญชวนนักเรียน นักศึกษา ร่วมประกวดเรียงความ ในหัวข้อ “ประเทศไทยในอนาคต ที่ฉันฝันเห็น” ชิงทุนการศึกษารวม 84,000 บาท หมดเขตส่งผลงาน 31 สิงหาคม

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!