ยกระดับ ‘อาชีวะเกษตร’ หนุนใช้เทคโนโลยี ผนวกหลักสูตรชลกร ปั้นเกษตรกรคุณภาพป้อนตลาดงานยุคดิจิทัล

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบนโยบายการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาของวิทยาลัยเกษตร เทคโนโลยีและประมง ประจำปีงบประมาณ 2566 พร้อมด้วย ดร.ศุภชัย ศรีหล้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช) ณ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี

ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวถึง การขับเคลื่อนการจัดการศึกษาของวิทยาลัยเกษตร เทคโนโลยีและประมง มาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นยกระดับการศึกษาอาชีวศึกษาด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พัฒนาสถานศึกษาให้เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเกษตร พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีเกษตรให้เยาวชนและคนในชุมชน รวมไปถึงการขับเคลื่อนโครงการบริหารจัดการน้ำโดยชุมชน ตามแนวพระราชดำริ และหลักสูตรชลกร ควบคู่ไปกับการนำ CODING มาเพื่อปฏิรูปวิทยาลัยเกษตรและประมง (CODING for R-Chee wa) ซึ่งถือเป็นการปฏิรูปการศึกษาไปถึงตัวเด็กทุกคนโดยตรง ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างภูมิคุ้มกันในการดำรงชีวิตในยุคดิจิทัล ที่มีความผันผวน ความไม่แน่นอน ความซับซ้อน และคลุมเครือ หรือที่เรียกว่า VUCA World

สิ่งที่ยังต้องขับเคลื่อนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อยกระดับมาตรฐานและพลิกโฉมอาชีวศึกษาของไทยให้เข้มแข็งและเทียบเท่าสากล รวมไปถึงการขยายความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งในส่วนกับภาครัฐเอง และกับภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ทรัพยากรคน และเทคโนโลยี ปรับปรุงและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันสมัย และสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในยุคดิจิทัล เรียนอาชีวะ ระหว่างเรียนต้องมีรายได้ จบมาแล้วต้องมีงานทำ

“รัฐบาลและดิฉันเองให้ความสำคัญกับอาชีวะเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอาชีวะเกษตรและเทคโนโลยี เพราะนี่คืออนาคตของชาติ เป็นกลไกที่จะขับเคลื่อนแก้วิกฤตของประเทศได้ ถ้าเราทำให้ผู้ที่เรียนเกษตรและเทคโนโลยีประมง สามารถมีงานทำ เป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่ทันสมัย ประเทศเราจะเข้มแข็งแน่นอน แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 เขียนไว้ชัดเจนว่า เราไม่ได้ผลิตนักเรียนที่มีความรู้ สอบได้ที่ 1 เท่านั้น แต่เราต้องการผลิตนักเรียนที่ทำงานได้ มีคนจ้าง นั่นคือหน้าที่ของเรา” ดร.คุณหญิงกัลยา กล่าว

ด้าน ดร.ศุภชัย ศรีหล้า ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ภาคการเกษตรของไทยต้องเตรียมตัวเพื่อเดินหน้าไปสู่เป้าหมายให้บ้านเมืองอยู่ในสถานะที่มีความพร้อมต่อการแข่งขันในระดับนานาชาติ เชื่อว่าจะมีความเข้มข้น และรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ส่วนไหนของโลก นั่นคือ พื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีรากฐานมาจากภาคเกษตร ดังนั้น ภาคเกษตรจึงเป็นหัวใจของโลกใบนี้ ที่ผ่านมา ดร.คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ได้วางพื้นฐานสำคัญไว้ให้กับวิทยาลัยเกษตรและประมง ให้เป็นสถานศึกษาที่มีศักยภาพ ในการสร้างทรัพยากรเพื่อให้มีสถานะที่เข้มแข็งเพียงพอต่อการแข่งขันในระดับโลก คือ 1. สร้างเกษตรกร 2. สร้างผู้ประกอบการภาคการเกษตร และ 3. สร้างนักวิชาการภาคการเกษตร

อ้างอิงจาก https://bit.ly/3ugffte

RANDOM

ราชมงคลพระนคร เปิดรับบทความด้านเทคโนโลยีการผลิตและการจัดการ ในการประชุมวิชาการราชมงคล MTC 2024 บทความดีเด่นจะได้รับการคัดเลือกตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ เปิดรับบทความฉบับสมบูรณ์ ตั้งแต่บัดนี้ – 31 มี.ค.

error: Content is protected !!