ซีพี ออลล์ จัด “Creative AI Club Hackathon” ประชันไอเดีย AI เยาวชนครั้งแรก “เคี้ยงเครียด” คว้าชนะเลิศ แก้ปัญหาสุขภาพจิตเยาวชน

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

ซีพี ออลล์ จัดกิจกรรมเพื่อเยาวชนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด สนับสนุนโครงการค่าย CAI CAMP รุ่นที่ 3 ในการจัดกิจกรรม Creative AI Club Hackathon ครั้งแรก ประชันไอเดียเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย-ระดับอุดมศึกษา ปีที่ 1 ชูแนวคิด AI For Youth ปั้นผลงานที่ “คิดโดยเยาวชน ทำโดยเยาวชน เพื่อเยาวชน” มีเยาวชนจากจังหวัดต่าง ๆ ตบเท้าเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ผลปรากฎว่า “เคี้ยงเครียด” ระเบิดไอเดียสุดเจ๋งสร้างแอพ AI ช่วยดูแลสุขภาพจิตเยาวชน คว้ารางวัลที่ 1 ไปครอง

นายป๋วย ศศิพงศ์ไพโรจน์ Assistant Chief Information Technology Officer (ACIO) สำนักปัญญาประดิษฐ์สร้างสรรค์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ กล่าวว่า ได้จัดงาน Creative AI Camp ค่ายพัฒนาทักษะเยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและ ปวช.ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างต่อเนื่องมาแล้วถึง 4 ปี ล่าสุด บริษัท และ 9 พันธมิตร ได้แก่ บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท คลาวด์ เอชเอ็ม จำกัด, บริษัท ซันฟู้ดส์ เทรดดิ้ง จำกัด, บริษัท เมคเกอร์โรโบติกส์ จำกัด, บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด, บริษัท แลคตาซอย จำกัด, เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย, มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และ สำนักเคเอกซ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ตลอดจนกลุ่มเยาวชนผู้จัดงานจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และศิษย์เก่า Creative AI Camp ภายใต้ Creative AI Club ได้ร่วมกันจัดอีกกิจกรรมหนึ่งเพื่อเยาวชน ภายใต้ชื่อ “Creative AI Club Hackathon” ขึ้นเป็นครั้งแรก เป็นเวทีระยะสั้นแบบ 2 วัน 1 คืน ให้เยาวชนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและระดับอุดมศึกษา ปีที่ 1 ที่ผ่านการคัดเลือกจากทั่วประเทศ เข้ามารวมกลุ่ม และร่วมกันสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ ด้าน AI ภายใต้แนวคิดที่กำหนด

“แนวคิดในปีแรกนี้ คือ AI for Youth เรามองว่าที่ผ่านมา ผู้คนมักจะคิดถึงแต่ AI ที่เข้ามาช่วยกันแก้ปัญหาใหญ่ ๆ ระดับมหภาค แต่ไม่ค่อยมี AI ที่จะเข้ามาตอบโจทย์ความต้องการของเยาวชนโดยตรง จริง ๆ แล้ว AI for Youth เป็นเรื่องที่มีคุณค่า แต่ยังไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจ เราจึงคาดหวังว่าแนวคิดของการจัดงานครั้งแรกนี้ จะนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงาน ที่คิดโดยเยาวชน ทำโดยเยาวชน เพื่อประโยชน์ของเยาวชนจริงๆ” นายป๋วย กล่าว

ทั้งนี้ ผลของการจัดงานในปีแรก พบว่า เยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรม ล้วนมีความสามารถในการมองเห็นปัญหา (Pain Point) ที่เป็นของเยาวชนอย่างแท้จริง ทำให้ได้เห็นหลากหลายปัญหาที่ผู้ใหญ่อาจนึกไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ทั้งปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการเรียนออนไลน์ ปัญหาการแต่งกาย ปัญหาสิวในวัยรุ่น ปัญหาการเลือกอาชีพและคณะที่เรียนในอนาคต และยังได้เห็นความคิดสร้างสรรค์ของเยาวชนในการนำ AI มาแก้ปัญหาเหล่านั้น สิ่งสำคัญที่คณะกรรมการใช้ในการตัดสิน คือ แนวทางที่นำเสนอมานั้น สามารถแก้ไข Pain Point ได้จริงแค่ไหน มีความเป็นไปได้จริงทั้งทางเทคนิคและต้นทุนการดำเนินการมากน้อยเพียงใด

หลังจากนี้ บริษัทจะเดินหน้าจัดงานทั้ง Creative AI Camp และ Creative AI Club Hackathon อย่างต่อเนื่อง โดยกำลังเริ่มเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วม Creative AI Camp รุ่นที่ 5 แล้วในวันนี้ ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.caicamp.com/camp หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร. 0-2071-4509

สำหรับ รางวัลชนะเลิศ จาก Creative AI Club Hackathon ครั้งที่ 1 ได้แก่ ผลงาน “เคี้ยงเครียด” ผลงาน AI แก้ปัญหาสุขภาพจิตของเยาวชน สมาชิกในทีม ประกอบด้วย นางสาวชญาดา ม่วงบุญศรี, นายพงศพัศ เมธเศรษฐ, นายศิรวิญญ์ นิรนาทล้ำพงศ์, นางสาวเจนตา วงศ์เลิศสกุล และนายธีรภัทร รัฐวิบูลย์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ผลงาน “Vio-Protego” เว็บแอปพลิเคชันที่ใช้ AI ทำงานควบคู่กับกล้องวงจรปิด ตรวจจับปัญหาความรุนแรงในห้องเรียน (สมาชิกในทีม : นางสาวบัซลาอ์ ศิริพัธนะ, นางสาวศิรภัสสร รัตนาศิริภิรมย์, นางสาววีริสรา พันธ์วิริยะภากร, นายโฮเซ่ โกฮ์, และนายอมร พันธุรัตน์) และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ผลงาน “Ling Jak Jak” LINE-Bot ที่ใช้ AI ช่วยตรวจสอบและให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง (สมาชิกในทีม : นายฑิณภัทร กันจินะ, นายภานุรุจ ศิริณาไพศาล, นางสาวปุณยนุช ใจชอบงาม, นางสาวอัญธิดา จักสาร, และนายบอลตัน อาทิตย์ เดวิส)

นางสาวเจนตา วงศ์เลิศสกุล หรือ เจน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนดรุณสิกขาลัย (โครงการ วมว.) จากทีมชนะเลิศ กล่าวว่า ตัวของเธอมีความใฝ่ฝันอยากเป็น Data Scientist และมีความสนใจเรื่อง AI Mental Therapy อยู่แล้ว เมื่อได้ร่วมทีมกับเพื่อน ๆ จึงได้คุยกันถึง Pain Point ของวัยรุ่นยุคปัจจุบัน และตัดสินใจสร้างสรรค์ผลงาน “เคี้ยงเครียด” ขึ้นมา

“เราพบว่า เราและเพื่อนๆ วัยรุ่นเดี๋ยวนี้ ประสบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต หรือ Mental Health กันมาก ทุกคนเครียด แต่เลือกที่จะเก็บปัญหาไว้กับตัวเอง ไม่ระบายออกมา เพราะบางเรื่องมองว่าอาจจะเล่าให้เพื่อนฟังไม่ได้ เราจึงมองเรื่องการสร้างแอปขึ้นมาเป็นพื้นที่ให้คนกลุ่มนี้ได้ใส่ใจสุขภาพของตัวเอง ได้มาแสดงอารมณ์ เก็บข้อมูลโดย AI เพื่อให้รู้ว่าสภาวะทางอารมณ์ตอนนี้เป็นยังไงแล้ว หากถึงจุดที่สะสมนานไป จะได้แก้ปัญหาทัน” นางสาวเจนตา กล่าว

ขณะที่ นายพงศพัศ เมธเศรษฐ หรือ เคี้ยง นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน กล่าวว่า จากสถิติกรมสุขภาพจิต มีผู้ทำแบบสอบถาม 3.5 ล้านคน มีผู้เสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าถึง 8.56% ทีมจึงมองว่าต้องพัฒนาแอปพลิเคชันขึ้นมาแก้ปัญหาดังกล่าว โดย แอปเคี้ยงเครียด จะเป็นแอปที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ (User-friendly) ใช้เวลาแค่ประมาณ 15 นาทีต่อวัน สะท้อนเรื่องราวในแต่ละวันของตัวเอง เพื่อให้ได้เข้าใจตัวเอง แล้วให้ AI เข้ามาช่วยคัดกรองข้อความ เพื่อแบ่งข้อความออกเป็น 4 กลุ่ม คิดลบ คิดบวก กลาง ๆ และยังไม่ชัดเจน และแบ่งภาวะความเครียดเป็น 3 สี ได้แก่ สีเขียว สีส้ม และสีแดง แสดงบนปฏิทิน หากมีสีแดงบนปฏิทินต่อเนื่องกันหลายวัน อาจมีการแนะนำผู้เชี่ยวชาญให้ เพื่อช่วยบำบัดสภาวะความเครียดดังกล่าว

“แม้จะเป็นระยะเวลาเพียงสั้น ๆ เพียง 2 วัน 1 คืน แต่ Hackathon ครั้งนี้ ได้รับสิ่งดี ๆ กลับไปหลายอย่าง ทั้งทักษะการทำงานเป็นทีม การได้เรียนรู้มุมมองของเหล่าคณะกรรมการ เมนทอร์ ที่มองในมุมของผู้ใช้ การได้ฝึกทักษะการนำเสนอ รวมถึงช่วยให้ได้ค้นหาตัวเองด้วยว่า จากเดิมที่อยากเป็นวิศวกร จริง ๆ แล้วอยากเป็น Software Engineer ด้วยหรือไม่” นายพงศพัศ กล่าว

RANDOM

error: Content is protected !!