ตามที่ นายวิษณุ ไล่ชะพิษ รองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร และ นายจินดา เดชพิมล รองผู้ว่าการฝ่ายส่งเสริมกีฬา 2 รองผู้ว่าการ (นักบริหารระดับ 10) ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้เกษียณอายุราชการ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.2565 พร้อมกันทั้ง 2 คน
จากนั้นการกีฬาแห่งประเทศไทย โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการ กกท. ได้เริ่มกระบวนการสรรหาภายในเพื่อหาผู้ที่จะขึ้นมาแทนทั้ง 2 คน และ มีเป็นพนักงานระดับ 9 ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ร่วม สมัครเข้าสู่การคัดเลือก จำนวน 10 คน ประกอบด้วย 1.นายสุวัตร หลวงตระกูล 2.นายยุธยา จีนหีต 3.นายวิบูณ จำปาเงิน 4.นายสมพร ไชยสงคราม 5.นายพลัฏฐ์ สุวรรณาเมธากร 6.นายปรีชา ลาลุน 7.นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก 8.นายมีชัย อินวู๊ด 9.นายก้องภพ โพธิสุวรรณ และ 10.นายเจริญชัย สุวรรณศรี
โดย ที่ผ่านมานั้นได้ผ่านกระบวนการสรรหาและคัดเลือกไปเรียบร้อยแล้วโดยคณะทำงานที่ กกท.ตั้งขึ้น และได้นำผลเสนอผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้พิจารณาพร้อมนำผลการคัดเลือกเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) เพื่อขอความเห็นชอบ และหากบอร์ด กกท.เห็นชอบก็ถือว่าเสร็จสิ้นกระบวนการนี้และจะได้ผู้ที่เหมาะสมเข้าสู่ตำแหน่งที่ว่างอย่างสมบูรณ์นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 25 ม.ค.2566 ในการประชุมคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยได้นำผลการสรรหาและคัดเลือกเข้าสู่การประชุมเพื่อขอความเห็นชอบตามกระบวนการ ปรากฏว่าที่ประชุมเห็นชอบในการที่จะแต่งตั้ง 2 รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทยคนใหม่ คือ นายวิบูณ จำปาเงิน เป็นรองผู้ว่าการฝ่ายบริหาร จากตำแหน่งเดิมคือ ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล และ นายสุรศักดิ์ เกิดจันทึก เป็นรองผู้ว่าการฝ่ายยุทธศาสตร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ จากตำแหน่งเดิมคือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา และนอกจากนี้ยังเห็นชอบให้ นพ.มีชัย อินวู้ด ผู้อำนวยการสำนักงานควบคุมสารต้องห้ามทางการกีฬา ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา ระดับ 10 ด้วย
และขณะเดียวกัน ยังมีการเห็นชอบการปรับตำแหน่งในระดับ 9 ของการกีฬาแห่งประเทศไทยในคราวเดียวกันโดยให้ นายยุธยา จีนหีต จากผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ ไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจกีฬา นายโดม ภูมิดิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจกีฬาไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล และให้นายสุวัตร หลวงตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์การกีฬา
โดยทั้งหมดให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.2566 เป็นต้นไป
