“บิ๊กบอย” นำทีมส่องกล้องเล็งก่อน ม้าแข่งจะเปิดศึก ที่สนามฝรั่ง วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 นี้ ต้องเข้มจ้นแน่ เมื่อ 5 ม้าตระกูลมังกร ลงแข่งเที่ยวเดียวกัน แต่จะหยุด ชาร์มมิ่งวิน ไหวไหม ขณะที่ ไวเปอร์คอมมานด์ ดูผลงานมาดี มีโอกาสวินสบายๆ เที่ยว 7 จริงหรือไม่ ดูการวิเคราะห์วิจารณ์เพื่อความสนุกสนาน ทั้ง 9 เที่ยวแข่งด้านล่างครับ

เที่ยว 1 – ม้าไทย คลาส 5 – 1300 เมตร
ดวงใจพี่ (6) คว้าชัยได้อย่างสวยงามเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และมีลุ้นคว้าชัยซ้ำอีกครั้ง เพราะจัดเจ้าติ่ง (จ๊อกกี้สันติภาพ) ขึ้นขี่แทน จ๊อกกี้อรรถชัย ที่กำลังติดโทษแบนสองสัปดาห์ ทำให้บัดดี้คู่นี้ดูเป็นต่ออย่างชัดเจน ม้าน่ามองต่อไป วินมาร์ค (4) เคยชนะไว้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน และดูเป็นคู่ต่อสู้ท้าชิงหลักของตัวแรก แม้ได้ซองนอกสุด แต่ม้าเองก็มีสปีดดีพอจะลุ้นติดอันดับได้ ส่วนทางด้าน ดวงนที (3) ได้ วิจิตรกร ขึ้นคุมบังเหียนเป็นครั้งแรก และหวังทำผลงานติดอันดับ โอกาสมีเช่นกัน

เที่ยว 2 – ม้าไทย คลาส 4 – 1300 เมตร
ดวงน้องเล็ก (6) ได้เปรียบเรื่องน้ำหนักเหนือคู่แข่งหลายตัว และเมื่อได้เจ้าตั้ม (จ๊อกกี้วิษณุกรณ์) จับคู่กันอีกครั้ง โอกาสคว้าชัยค่อนข้างแจ่มใส เพราะเคยคว้าชัยด้วยกันมาหลายครั้งแล้ว ไปทาง เบนดิโก้ (2) ฟอร์มการวิ่งไม่ค่อยจะดีเมื่อสองสัปดาห์ก่อน แต่นัดนี้ก็ใช่ว่าจะหมดโอกาส สำหรับ ธิดาดิน (5) แม้จะต้องออกจากซอง 9 แต่คงวางแผนจะชดเชยระยะด้วยฝีมือของ จ๊อกกี้สันติภาพ จึงถือว่าก็ยังมีโอกาสได้เชียร์อยู่พอสมควร

เที่ยว 3 – ม้าไทย คลาส 3 – 1300 เมตร
ดาร์กช็อคโกแลต (1) ที่คว้าชัยไปได้อย่างสวยงามเมื่อสองสัปดาห์ก่อน แม้นัดนี้ต้องแบกน้ำหนักสูงสุดอีกครั้ง แต่โดยรวมแล้วยังดูเหนือกว่า และมีลุ้นคว้าชัยซ้ำอีกครั้ง ส่วน เบลล่าซิญญอนร่า (2) ถูกสแครชออกหลังซองในนัดก่อน มานัดนี้ถ้าโดดซองได้ดีก็มีโอกาสจะเป็นคู่ต่อสู้สำคัญ อย่าลืมมอง เป๋าฮื้อ (6) โชว์ฟอร์มการวิ่งไว้ดี ได้อันดับสองเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และนัดนี้ก็มีโอกาสโชว์ฝีเท้าอีกครั้ง

เที่ยว 4 – ม้าไทย คลาสพรีเมียม – 1300 เมตร
แบล็คเพิร์ล (1) นัดนี้ได้เจ้านิค (วันมงคล) จ๊อกกี้ที่กำลังทำผลงาน ลุ้นตำแหน่งแชมป์จ๊อกกี้ปี 2025 ขึ้นขี่เองเลย จึงถือว่าเป็นต่อค่อนข้างมาก แม้จะต้องแบกน้ำหนัก 62.0 กก. แต่คุณภาพม้าก็ยังดูดีกว่าคู่แข่งทุกม้า ไปยัง ฟลายอิ้งเฟเบิ้ล (2) เป็นม้าตัวเดียวที่เคยเอาชนะ แบล็คเพิร์ล ได้มาก่อน และครั้งนี้ยังได้เปรียบเรื่องน้ำหนักที่แบกเบากว่าตัวบน 4.5 กก. จึงมีลุ้นสู้แย่งชิงชัยชนะกันแบบจริงจัง ส่วนทางด้าน ฟลายมีทูเดอะมูน (3) กลับมาแข่งอีกครั้ง หลังพักเตรียมการฟิตซ้อม และผลงานถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ครั้งนี้แบกน้ำหนัก 56.0 กก. ก็ดูจะช่วยให้มีโอกาสลุ้นติดในกลุ่มหน้ามาก

เที่ยว 5 – ม้าเทศ คลาส 4บี – 1100 เมตร
ม้าลูกพี่ (5) มีโอกาสคว้าชัยได้ในการแข่งมาหลายครั้งแล้ว ในครั้งนี้ได้ จ๊อกกี้พงศกร ขึ้นคุมบังเหียนเป็นครั้งแรก และเป็นการขี่เพียงเที่ยวเดียวของเขาในนัดนี้ ทำให้มีต้องความตั้งใจเต็มที่ ที่จะไล่ล่าคว้าชัย และการอยู่ซอง 5 ก็ถือว่าเหมาะสม ส่วน พยนต์หนึ่ง (9) ได้ จ๊อกกี้วันมงคล ขึ้นขี่เป็นครั้งแรก แต่ได้ซองนอกสุด ทำให้ต้องออกตัวให้เฉียบคมมากหากหวังคว้าชัยชนะ ขณะที่ พยัคฆ์ธงไชย (7) ผลงานที่ผ่านมายังไม่น่าประทับใจนัก แต่ตามฟอร์มแล้วก็ใช่ว่าจะหมดโอกาสคว้าชัย

เที่ยว 6 – ม้าเทศ คลาส 4เอ – 1100 เมตร
โฮมรัน (9) โชว์ฟอร์มการวิ่งติดอันดับแขวนป้ายไว้ดีมากในครั้งก่อน แม้ครั้งนี้จะออกจากซอง 11 ซึ่งจะทำให้ยากขึ้น แต่ยังมีลุ้นคว้าชัยเป็นวินแรกในเมืองไทย มองไปยัง ไดมอนด์ริง (3) ยังคงเป็นหนึ่งในคู่ต่อสู้สำคัญ แม้ต้องแบกน้ำหนักสูงสุดที่ 59.0 กก.ก็ตาม ส่วน สุภาพบุรุษ (8) ยังคงไล่หาชัยชนะอยู่เช่นกัน ซึ่งอาจจะเป็นงานยากหน่อยในนัดนี้ แต่โอกาสแขวนป้ายก็ยังมี

เที่ยว 7 – ม้าเทศ คลาส 3 – 1100 เมตร
ไวเปอร์คอมมานด์ (4) พยายามรักษาฟอร์มชนะต่อเนื่อง และนัดนี้ได้ จ๊อกกี้พร้อมรบ ขึ้นขี่ จึงถือว่าลงตัวกับคู่นี้ ส่วน มังกรที่รัก (9) เดบิวต์ครั้งแรกในไทย หลังชนะที่มาเลเซียเมื่อไม่นานมานี้ จึงน่าสนใจมาก สำหรับม้า บลูอาย (10) จับคู่กับ จ๊อกกี้วันมงคล และมีโอกาสดีที่จะลุ้นติดอันดับแขวนป้ายเช่นกัน

เที่ยว 8 – ม้าเทศ คลาส 1 – 1100 เมตร
เที่ยวนี้มีม้า “มังกร” ลงแข่งถึง 5 ตัว และแต่ละตัวก็ดูพร้อมจะคว้าชัยกันเต็มที่ นอกเหนือจากกองทัพมังกรแล้ว ก็ยังมี ชาร์มมิ่งวิน (1) ซึ่งเป็นม้าที่น่าจับตามองมาก แต่การแบกน้ำหนักถึง 61.5 กก. อาจจะไม่ใช่ปัญหา เพราะเคยทำผลงานได้ดี กับการแบกน้ำหนักนี้มาก่อน มองไปที่ มังกรตองสอง (5) ที่ชนะมาในครั้งล่าสุด และ มังกรตองสาม (6) ซึ่งฟอร์มการวิ่งก็คงเส้นคงวาในการติดอันดับ การแข่งขันในเที่ยวนี้ จึงดูว่าน่าติดตามมาก

เที่ยว 9 – ม้าเทศ คลาส 2 – 1100 เมตร
หนึ่งบารมี (5) ซึ่งเคยโชว์ฝีเท้าทำผลงานไว้ดีในการแข่งที่สิงคโปร์ โดยการชนะ 5 วิน จากการแข่ง 31 ครั้ง และในระยะนี้เหมาะกับเขามาก แต่การที่ไม่ได้ลงแข่งมาตั้งแต่มีนาคม 2024 อาจต้องใช้เวลาสักนิดในการเรียกฟอร์มดีกลับมาอีกครั้งจึงเรียกว่ามีลุ้น ส่วนทางด้าน ฟลายอิ้งเลดี้ (3) ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไรเมื่อนัดก่อน และมานัดนี้ก็ยังน่าจับตาว่ามีโอกาสได้แก้ตัวอีกครั้ง และอย่าพลาดการมองไปที่ ฟอลโล่มี (4) ถือว่ามีลุ้นติดอันดับเช่นกัน











