ตอนที่ 14 : ศิลปศึกษา : หนังสืออุดมการณ์โอลิมปิกของคูเบอร์แต็ง : แปลโดย : ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

ศิลปศึกษา

            หากจะต้องนิยามศิลปะเฉพาะมิติบทบาทในการศึกษา ข้าพเจ้าขอกล่าวว่า สิ่งแรกและสำคัญสุดนั้น ศิลปะคือสุนทรียภาพตามความเข้าใจของรัสกิน แม้การนำแนวคิดของท่านไปใช้จะมีความเป็นอังกฤษมากในรูปแบบต่างๆซึ่งแทบจะทำให้คนอื่นไม่สามารถเข้าถึงได้

            แต่ความเข้าใจของท่านก็ถูกต้องและนำไปใช้ได้กับทุกคน การปลุกสุนทรียภาพในเด็กคือการสร้างความสวยงามแก่ชีวิตและการทำชีวิตสังคมให้สมบูรณ์แบบ แต่เราควรจะลงมือทำอย่างไร? โจทย์นี้คงเป็นงานหินเนื่องเพราะข้าพเจ้าสังเกตถึงความงุ่มง่ามและไร้ประสิทธิผลของคำตอบเกือบทั้งหมด ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ดูเหมือนจะไม่ใช่ศิลปินแห่งชาติส่วนใหญ่ที่จะเป็นแรงบันดาลใจ กรีซและอิตาลีแทบไม่มีสิ่งแบบนี้เลย ความพยายามจำนวนไม่น้อยเกิดขึ้นในเยอรมนีและฝรั่งเศสแต่ก็ไม่ประสบผล โครงการที่น่าพึงพอใจสุดคงจะอยู่ในอเมริกาซึ่งเป็นของเอกชนอย่างแน่นอน แต่ก็ลำบากต่อการติดตามในบางครั้ง

            ข้าพเจ้าจดจำการได้รับโอกาสเข้าเยี่ยมโรงเรียนศิลปะขนาดเล็กในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิซซูรีเมื่อสิบปีก่อนโดยข้าพเจ้าประทับใจยิ่งในความเรียบง่ายของวิธีการสอนอย่างแท้จริง มีผ้าใบเก่าและกองหินอ่อนที่เป็นงานศิลป์ซึ่งมีความสำคัญรองลงมาแต่แสดงให้เห็นถึงการคัดเลือกที่ดีของครู วัตถุเหล่านี้มีความเหมาะสมต่อการกระตุ้นนักเรียนให้เข้าใจเรื่องเส้น งานลอยตัวและสี ภาพวาดอย่างหวัดที่แสดงร่องรอยการขาดประสบการณ์ของพวกเขา ถูกจัดเรียงอยู่ด้านข้างภาพสีและงานปั้นของตนเอง หนึ่งในสองห้องคือห้องทำงานศิลปะ ส่วนอีกห้องดูเหมือนพื้นที่รกร้างในแวบแรกที่เห็น มีหิ้งยักษ์ยุคกลาง ประตูมหึมายุคเรเนซองส์ ภาพต่างๆหลากสีบนผนัง โต๊ะและเก้าอี้งดงามแบบหลุยส์ที่สิบหก เครื่องแก้วสีสด และโคมไฟเหล็กดัดกลางห้อง ข้าพเจ้าไม่เข้าใจงานสะสมนี้ในครั้งแรกที่เห็น แต่ข้าพเจ้ารู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่าเมื่อรู้ว่า ยกเว้นแต่พรมถักมือที่ตบแต่งหลังห้องแล้ว ที่เหลือทุกอย่างคืองานของนักเรียนทั้งสิ้น ศาสตราจารย์อธิบายวิธีการของท่านแก่ข้าพเจ้าเป็นคำพูดว่า  “นี่คือห้องปฏิบัติการของพวกเรา” ชายผู้นี้ที่ไม่ได้เป็นศิลปินโด่งดังสามารถเข้าถึงการศึกษาศิลปะที่เรียบง่ายมากซึ่งไม่เกี่ยวข้องต่อกิจวัตรประจำวันที่พวกเราในโลกเก่าถือเป็นแนวปฏิบัติดั้งเดิม งบประมาณจำกัดทำให้ท่านไม่สามารถจัดซื้อวัตถุมีค่าในระหว่างการเดินทางต่างประเทศเป็นประจำแต่ก็สามารถจดบันทึก วาดแบบหวัด เก็บภาพและทำทั้งหมดขึ้นใหม่ได้ ท่านเข้าชมพิพิธภัณฑ์ทั่วยุโรปพร้อมหนังสือประวัติศาสตร์ในมือคอยมองหาสิ่งล้ำค่าของยุคและรื้อฟื้นความหวังยามที่สิ่งเหล่านี้จะบานสะพรั่ง เมื่อกลับมาถึง นักเรียนของท่านจะลงมือสร้างความงามที่อยู่ไกลโพ้นขึ้นมาใหม่จากภาพที่ท่านนำกลับมาภายใต้การชี้นำและแรงปรารถนาที่ชัดเจน

            ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับศิลปศึกษาโดยเฉพาะชั้นมัธยมศึกษานั้น ตัวอย่างข้างต้นไม่ได้ให้สิ่งพื้นฐานในลักษณะคำใบ้ที่เป็นประโยชน์สามารถเลียนแบบให้ปฏิบัติตามได้นัก อย่างไรก็ตาม ระเบียบปฏิบัตินี้นำไปใช้ได้เพียงหนึ่งในสี่กลุ่มที่ต้องจัดแบ่งในมิติวัฒนธรรมศิลปะ ในกลุ่มแรกที่สูงสุดคือบุคคลผู้ลงมือปฏิบัติเช่น คนสร้าง คัดลอก หรือตีค่างานศิลปะ กลุ่มที่สองคือคนที่เข้าถึงสุนทรียภาพแม้ตนเองจะไม่สามารถสร้างหรือทำขึ้นใหม่ได้ กลุ่มที่สามคือคนที่เข้าใจศิลปะผ่านองค์ความรู้และการใช้เหตุผลแต่ไม่มีพรสวรรค์ต่อสุนทรียภาพนี้ กลุ่มสุดท้ายที่สี่คือมนุษย์หายากที่ไม่เกิดความรู้สึกประการใดต่องานศิลปะแม้แต่น้อย

             สำหรับข้าพเจ้า ดูเหมือนโดยทั่วไปแล้ว จะไม่มีการพินิจพิจารณาที่ดีพอต่อความแตกต่างสำคัญเหล่านี้โดยเฉพาะความแตกต่างระหว่างความรู้สึกและองค์ความรู้ซึ่งทั้งสองต่างทำให้เข้าถึงความรื่นรมย์ในศิลปะ แต่เป็นความรื่นรมย์ที่ลึกล้ำและสูงกว่าของความรู้สึกเมื่อเทียบกับองค์ความรู้ หากแต่เพียงความแตกต่างเหล่านี้จะได้รับการพิจารณาบ้างซึ่งจะสายเกินไปเมื่อการจัดแบ่งข้างต้นผ่านพ้นไปแล้ว การจัดกลุ่มนี้เกิดขึ้นเมื่ออายุเท่าไรและจะสามารถปรับแก้แนวโน้มนี้ได้มากน้อยเพียงไร? ประเด็นนี้สำคัญมากต่อการชี้แจงแต่น่าเสียดายที่กลับไม่มีคำตอบแน่ชัด ความเป็นปัจเจกบุคคลแสดงบทบาทต่อการพัฒนานี้ไม่มากนักซึ่งเป็นบทบาทที่ไม่เด่นชัดเสมือนซ่อนกายอยู่ เมล็ดพันธุ์แห่งศิลปะคือสิ่งลี้ลับเต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและแปลกประหลาด พวกเขาประสบกับการพุ่งพรวดฉับพลันของการพัฒนาและความยาวนานของการหยุดนิ่ง ความเร็วเร่งรีบและผลงานล่าช้า แม้จะไม่มีความพยายามที่จะคาดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเขา แต่ก็สามารถทำงานกับพวกเขาเพื่อเตรียมการแบ่งกลุ่มข้างต้นและช่วยเหลือในระหว่างนี้โดยช่วงชั้นประถมศึกษามีความเหมาะสมต่อภารกิจนี้ การสอนให้เด็กใช้แท่งสีและแปรง เข้าใจมิติและประเมินระยะใกล้ไกล เรียนการอ่านดนตรี ร้องเพลงและออกเสียงโน๊ตดนตรี จะเป็นการให้เครื่องมือพัฒนาศักยภาพที่พวกเขาจะต้องใช้เพื่อการเจริญเติบโตไม่ว่าจะเป็นด้านใดก็ตาม ถึงแม้บางคนจะแสดงถึงการไม่มีทักษะศิลปะ แต่จะไม่เสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ การเรียนรู้ทางตา หูและนิ้วมือจะไม่เป็นสิ่งไร้ค่าแก่ผู้ใด ในทางตรงข้าม หากปรากฎชีพจรศิลปะในปัจจุบันหรือวันข้างหน้า ก็คงไม่สามารถเมินเฉยต่อไปได้ ชีพจรภายในจะชักนำสู่ภายนอกผ่านการแสดงออกที่เรียนรู้มา วัยรุ่นจะไม่มีกลไกสมบูรณ์แบบแต่จะมีตัวพยัญชนะหรือกุญแจซึ่งหมายความว่า เขาจะมีเครื่องมือพื้นฐานของการสร้างหรือตีความศิลปะ

             กรอบและวิธีการของมัธยมศึกษาต้องปรับเปลี่ยน การฝึกใช้เครื่องกลไม่ได้บังคับแก่ทุกคนอีกต่อไป โดยหากบทเรียนดนตรีและการวาดถูกนำไปใช้โดยขาดวิจารณญาณ ก็อาจทำให้เสียแรงและเวลาได้ ในทางกลับกัน ชั้นมัธยมศึกษาคือช่วงเวลาที่ห้องเรียนควรสอนทฤษฎีดนตรี ประวัติศาสตร์คือวิธีการหนึ่งที่ทฤษฎีดนตรีจะเข้าถึงนักเรียนวัยเยาว์ หากท่านชี้แจงถึงบทบาทที่ดนตรีควรมีในชีวิตของบุคคลโดยทั่วไปแล้ว นักเรียนของท่านก็อาจจดจำคำกล่าวของท่าน แต่พวกเขาจะไม่เข้าใจในสิ่งนี้ เนื่องเพราะพวกเขาไม่ทราบถึงความหมายของศิลปะ พวกเขาไม่สามารถเข้าใจในความจำเป็นต่อการมีศิลปะ อย่างไรก็ตาม หากท่านบอกพวกเขาในบทบาทของศิลปะที่มีต่อชีวิตของผู้มีชื่อเสียงบางคนที่พวกเขาสามารถเห็นภาพตามกาลเวลาและบนแผนที่โลก เมื่อนั้น ประเด็นนี้ก็จะเฉพาะเจาะจงกับพวกเขา ความเชื่อมโยงระหว่างอัจฉริยภาพของบุคคลและศิลปะจะกลายเป็นสิ่งเข้าใจได้แก่พวกเขา เป็นที่แน่นอนว่า สิ่งนี้จะส่งผลต่อการยกสติปัญญาทั้งปวงเช่นกัน ตามที่พวกเราได้กล่าวแล้วว่า กรีซสามารถอธิบายด้วยอนุสาวรีย์ ประติมากรรม ดนตรีและการละครของพวกเขารวมทั้งสถาบันการเมืองของรัฐหรือความขัดแย้งภายในระหว่างพลเมืองตนเอง จึงน่าประหลาดใจว่าเราต้องพยายามให้สิ่งนี้เกิดขึ้นทั้งที่เป็นเรื่องง่ายและมีประโยชน์ชัดแจ้งที่จะบูรณาการศิลปะไว้ในวิชาประวัติศาสตร์

            แนวทางการสอนนี้สามารถประยุกต์ใช้ได้ทั่วไป แม้จะเป็นชะตากรรมโหดร้ายที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ต่อรูปปั้นแอร์เมสของแพร็กซิเทเลสหรือภาพวาด “Night Watch” ของเรมบรานดท์ วิหารเซนท์ปีเตอร์ในกรุงโรมหรือวิหารนอร์เทอดาร์มในกรุงปารีส ซึ่งต้องเข้าใจในความประทับใจของโลกที่มีต่องานศิลปะเหล่านี้ แต่ระบบการศึกษาต้องพิจารณานักเรียนผู้โชคดีที่สามารถชื่นชมศิลปะด้วย ระบบการศึกษาต้องพยายามทำให้ศิลปะเป็นที่เข้าใจแก่ทุกคนโดยต้องเปิดโอกาสให้ชื่นชม ต้องกระตุ้นความพยายามที่หยุดลงของผู้ลงมือปฏิบัติซึ่งได้พยายามแล้วที่จะแสดงความรู้สึกตนเอง คำว่า “อภิสิทธิ์” บ่งชี้พื้นที่ซึ่งความตั้งใจเหล่านี้ประสบปัญหา ในบรรดาผู้คนที่ตั้งใจจะทำให้ตนเองมีความเป็นประชาธิปไตยซึ่งยังไม่ทันที่จะสังเกตเห็นความเป็นประชาธิปไตยที่ขาดองค์ความรู้นั้น แนวคิดความเสมอภาคก็ได้กลายเป็นเสาหลักของสาธารณชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการศึกษาไปแล้ว แต่จะเกิดขึ้นเร็วแม้ในชั้นมัธยมศึกษาซึ่งเราต้องยอมรับถึงความอภิสิทธิ์โดยธรรมชาติซึ่งเราอาจปฏิเสธความอภิสิทธิ์ที่มนุษย์สร้างขึ้นก็ตามที

            ถึงแม้ว่าจะมีวัยรุ่นคนหนึ่งซึ่งลำบากแค่การวาดดวงตาข้างหนึ่งหรืออ่านโน๊ตดนตรีของเพลงกล่อมเด็กพื้นฐาน ก็ไม่มีเหตุผลที่จะถ่วงรั้งเพื่อนร่วมชั้นที่เติมช่องว่างพจนานุกรมตนเองอย่างรวดเร็ว นักแรเงาที่เก่งกาจ หรือคนที่เล่นซิมโฟนีบางส่วนของบีโทเฟนเพียงได้ยิน จากสัญชาติญาณตนเองเท่านั้น! หากท่านผิดพลาดในการพิจารณาข้อเท็จจริงเหล่านี้ จะไม่เพียงถ่วงการพัฒนาศิลปะของเขาโดยไม่จำเป็นแล้ว อย่างน้อยก็ยังแสดงถึงการหยุดยั้งการเจริญเติบโตโดยรวมของเขาด้วย ศิลปะไม่ใช่เครื่องประดับบางอย่างบนชิ้นงานแล้วเสร็จ แต่เป็นส่วนสำคัญยิ่งของบุคคลที่รับรู้ถึงชีพจรศิลปะซึ่งจะนำทางสู่พัฒนาการรอบด้านของเขาในอนาคต

            ข้อสรุปคือพวกเราต้องจัดทำห้องปฏิบัติการศิลปะชั้นมัธยมศึกษาซึ่งได้รับการออกแบบอย่างงดงามโดยศาสตราจารย์ในเมืองเซนต์หลุยส์ รัฐมิซซูรี ซึ่งเป็นสิ่งดีที่จะประกันว่า สิ่งปลูกสร้างใหม่ในโรงเรียนควรมีเส้นกรอบชัดเจนและหลากสีสมดุล ด้านหน้าตึกสวยงามควรตบแต่งด้วยกระเบื้องดินเผาหรือกระจกสี รวมทั้งควรวางภาพวาดตบแต่งบางชิ้นบริเวณทางเข้าและประติมากรรมหินอ่อนที่สื่อความหมายในสนามหญ้าหลัก ในวันฉลองต่างๆจะเป็นความคิดที่ดีและแรงบันดาลใจที่น่าชื่นมื่นสำหรับผู้บริหารจะจัดการแสดงแก่ศิลปินผู้โด่งดัง แต่ปัญหาของสิ่งทั้งปวงคือค่าใช้จ่ายที่สูงมากและประการต่อมาที่น่าเป็นห่วงมากกว่าคือ ความไม่พอเพียง สายตาของคนหนึ่งซึ่งรวมหมายถึงของวัยรุ่น จะสอดส่ายเลื่อนลอยเมื่อมองวัตถุที่คุ้นเคย เด็กนักเรียนจะเคยสังเกตสิ่งของรอบตัวตลอดวันและคืนว่าคืออะไรหรือไม่? ด้วยการมองสิ่งเหล่านี้ เขาจะไม่รับรู้ถึงความลึกของภาพวาดหรือความสง่างามของประติมากรรมที่แสดงออกมา

           ซึ่งรวมถึงเสียงดนตรีที่ไหลบ่าอย่างไม่คาดคิด ผลที่ได้รับจะน้อยหรือชั่วครู่เท่านั้น ยกเว้นจะมีบางอย่างที่ทำให้พวกเขาสนใจต่อเนื่อง โดยปรกติ การเยี่ยมชมอนุสาวรีย์และพิพิธภัณฑ์จะถูกดำเนินการแบบฉาบฉวยไร้ประสบการณ์ การรื่นรมย์สุนทรียภาพเช่นนี้ควรเก็บไว้สำหรับคนที่สามารถรับประโยชน์ในการนี้ซึ่งจะทำให้สิ่งเหล่านี้เป็นที่น่าชื่นชมในสายตาของผู้อื่น โดยเป็นวิธีการเดียวที่จะทำให้พวกเขาใส่ใจมากขึ้นต่อคุณค่าของศิลปะ ในบรรดาครูนั้น คงจะมีสักคนที่สามารถจัดหาทุนทรัพย์เพื่อจัดตั้งคณะกรรมการศิลปะ ซึ่งแล้วแต่กรณี อาจริเริ่มโครงการด้วยมาตรการเหมาะสมหรือกำกับดูแลผลงานของนักเรียนก็ได้ ข้าพเจ้าต้องการให้นักเรียนมีสโมสรเครื่องดนตรีและการแต่งเพลง และห้องทำงานที่เปิดกว้างสำหรับการวาดภาพ สีน้ำและประติมากรรม พร้อมกันนี้ ข้าพเจ้าก็ต้องการเห็นการแสดงดนตรีเป็นประจำและนิทรรศการประจำปีซึ่งจัดเตรียมการสนับสนุนที่จำเป็นแก่สโมสรเหล่านี้ แต่ท่านอาจกล่าวว่า สิ่งนี้เป็นเรื่องส่วนตัวทั้งสิ้น ใช่! อะไรทำให้ท่านคิดว่า การศึกษาเป็นสิ่งเป็นไปได้โดยปราศจากการเป็นเรื่องส่วนตัว?

            สิ่งนี้คือวิธีการที่จะทำให้สามารถนำนักเรียนมัธยมศึกษาไปสู่ศิลปะได้อย่างน่าเชื่อถือประหนึ่งศรัทธาแห่งศาสนา ความสวยที่แสดงออกในลักษณะนี้ จะเป็นเครื่องมือทรงพลังในการนำตนเองสู่ความดีหรือไม่? เราต้องไม่พึ่งพาผลลัพธ์นี้มากจนเกินไป ประเด็นคุณค่าเชิงจริยธรรมของศิลปะได้รับการอภิปรายล่วงเวลามานาน จะเป็นการง่ายที่จะตัดสินใจหากเราจะบากบั่นบ่งชี้จริยธรรมให้เป็นกรอบของประเด็นนี้ ศิลปะให้แสงสว่างแก่สติปัญญา บันดาลความคิดและปลุกเร้าความทะเยอทะยาน ผลเชิงจริยธรรมเหล่านี้มีค่ามากพอ แต่ตัวจริยธรรมเหล่านี้ก็ไม่ใคร่จะดีขึ้นในกระบวนการนี้ บุคลิกภาพไม่ได้แข็งแกร่งขึ้น จิตสำนึกไม่ได้หนักแน่นขึ้น หรือการต่อต้านสิ่งชั่วร้ายก็ไม่เกิดบ่อยขึ้น ความดี ความสวยและความจริงคือไตรลักษณ์ที่โลกสมัยใหม่ใช้เปรียบเทียบเป็นประจำกับตรีเอกภาพกล่าวคือ สามบุคคลที่รวมเป็นหนึ่งพระเจ้า ที่นี้ เอกภาพคือสิ่งสมมติ แต่ละสิ่งไม่จำเป็นต้องประกอบด้วยอีกสองสิ่ง โดยเฉพาะแนวคิดความสวยที่สามารถแยกเป็นอิสระจากแนวคิดความดีและความจริง ความสวยซึ่งถูกสร้างและพิจารณาโดยมนุษยชาติ ไม่ใช่ความดีหรือความจริงเสมอไป

           ในช่วงเวลาที่คนต้องบิดเบือนความจริงมากขึ้นเนื่องจากแรงกดดันของสังคมและเมื่อความไร้เดียงสาของตนเองก่อให้เกิดความโกลาหลซึ่งทำให้เส้นแบ่งความดีเลอะเลือนไป จึงเป็นธรรมดาที่เราจะหวังพึ่งในความสวย การปะติดปะต่อที่ชาญฉลาดและเกือบจะใช้เสรีภาพมากเกินควรได้ขยายตัวมากขึ้นอยู่ทุกวันโดยมีอิทธิพลแพร่หลายไปทั่วทุกพื้นที่และความไม่แน่นอนและความสงสัยก็หลบซ่อนอยู่ด้วยเช่นกัน สิ่งนี้คือที่มาของกระแสความคิดว่า ศิลปะคือพลังจริยธรรมที่สัมบูรณ์และสมบูรณ์แบบยิ่ง นักการศึกษาปฏิเสธแนวคิดนี้ แต่ก็ไม่มีเหตุผลต่อการละทิ้งศิลปะตามที่นักการศึกษายังคงกระทำอยู่ ความกลัวที่จะเป็นเจ้าภาพแก่ผู้มาเยือนที่แปลกและฟุ่มเฟือยภายในกำแพงแข็งแรงเป็นเรื่องที่ไม่ต้องสงสัย ก่อนหน้านี้ ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับรัสกินว่า สุนทรียภาพสร้างความสวยงามแก่ชีวิตและการทำชีวิตสังคมให้สมบูรณ์แบบ เหตุผลนี้ยังไม่ชอบธรรมเพียงพอต่อความพยายามที่มีเป้าประสงค์เพื่อปลูกฝังและบ่มเพาะสุนทรียภาพอีกหรือ?

            เนื่องจากข้าพเจ้ากล่าวถึงรัสกินอีกครั้งหนึ่ง จึงขอกล่าวถึงการรณรงค์ศิลปะอย่างงดงามที่ท่านได้หว่านเมล็ดไปทั่วสังคมแองโกล-แซกซัน ก่อนที่ท่านจะมาถึง จะมีใครพยายามพิจารณาห้องที่แม้จะเรียบง่ายสุด พื้นที่ขนาดเล็กไม่มีค่าใดบ้าง? ช่างฝีมือชำนาญการเคยตบแต่งห้องที่จัดเตรียมเพื่อการนั้นเนื่องเพราะขนาดหรือด้วยความมั่งคั่งของผู้พักอาศัย แต่ไม่มีใครคิดที่จะเป็นนักตบแต่งและช่างเฟอร์นิเจอร์ด้วยตนเองเพื่อจัดเตรียมบันทึกความพิถีพิถันและความสง่างามของบ้านตนเอง ข้าพเจ้าไม่เคยรู้ว่า ความพิถีพิถันและความสง่างามดังกล่าวนี้ในบ้านคนงานอังกฤษซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่พบเห็นแพร่หลายในปัจจุบันจะก่อให้เกิดอันตรายแก่การงานหรืออนาคต ในโรงเรียนประจำ ข้าพเจ้าไม่เคยสังเกตเห็นวัยรุ่นที่ตบแต่งห้องหรือ “คอก” ตนเองจะด้อยความเป็นชาย หรือในมหาวิทยาลัยซึ่งห้องสวยที่สุดจะเป็นของนักเรียนที่ขยันน้อยกว่าหรือรำ่รวยมากกว่า ในหลายกรณี ข้าพเจ้ากลับพบสิ่งตรงข้ามที่เป็นจริง

           ดังนั้น จึงไม่สิ่งใดของเรื่องนี้ที่จะไม่ค่าควรแก่เด็กชายคนหนึ่ง แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งสำคัญสุดในโลกเด็กสาว สิ่งนี้เป็นดั่งสะพานนำพาศิลปะสู่เศรษฐกิจครัวเรือน รายวิชาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเฟอร์นิเจอร์อาจมีประโยชน์ทดแทนบทเรียนที่ให้ท่องชื่อกรดต่างๆหรือฟาร์โรห์บางองค์

            โดยสรุปแล้ว เป็นการเหมาะสมในการเปิดบานประตูชั้นมัธยมศึกษาให้กว้างสำหรับศิลปะโดยไม่ร้องขอในสิ่งที่มากเกินในมิติการศึกษา หรือไม่ให้ความเชื่อถือ หากช่วงเวลาหนึ่งใดของหลักสูตรการศึกษามีความจำเป็นต่อการระมัดระวังด้วยความเคารพต่อศิลปะ ข้าพเจ้ายินดีที่จะกล่าวว่า ช่วงเวลานั้นคือชั้นอุดมศึกษาซึ่งเป็นอายุที่จินตนาการอ่อนโลกจะได้พบกับความจริงด้วยทักษะการใช้ดินสอและแปรงที่มั่นคงพอต่อการผลิตผลงานสร้างสรรค์ในเวลาต่างๆที่ไม่มีประโยชน์แก่จริยธรรม รสนิยมหรือการเล่าเรียน แม้ศิลปะอาจมีผลลบในบางครั้งต่อการสอบหรือทำให้งานอาชีพเบี่ยงเบนไปบ้าง แต่ยังคงจะต้องเน้นความสนใจไปที่ตัวนักเรียน

RANDOM

error: Content is protected !!