“ซีเกมส์ ครั้งที่ 33” ไทยเจ้าภาพอีกครั้งหลังห่างหายจากการจัดการแข่งขันไปนานถึง 18 ปีเต็ม ลุ้นทวงคืนบัลลังก์ เจ้าเหรียญทอง ! แฟนกีฬาทั่วประเทศร่วมส่งแรงเชียร์ให้ “ทัพนักกีฬาไทย” บนแผ่นดินบ้านเกิด

นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปี พ.ศ. 2502 (ค.ศ. 1959) ในชื่อ “กีฬาแหลมทอง (SEAP Games)” ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น “กีฬาซีเกมส์ (SEA Games)” อย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2520 (ค.ศ. 1977) มหกรรมกีฬานี้ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน รวมแล้ว 32 ครั้ง
และในเดือนธันวาคมนี้ การแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 33 กำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง โดยประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ หลังห่างหายจากการจัดการแข่งขันไปนานถึง 18 ปีเต็ม นับเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญที่แฟนกีฬาทั่วประเทศจะได้ร่วมส่งแรงเชียร์ให้ “ทัพนักกีฬาไทย” บนแผ่นดินบ้านเกิด
นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนชื่อจาก “กีฬาแหลมทอง” มาเป็น “กีฬาซีเกมส์” ในปี 1977 คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ —
ชาติใดคือเจ้าซีเกมส์ตัวจริง?
จากสถิติการแข่งขันกว่า 46 ปีที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า อินโดนีเซีย คือชาติที่ครองความยิ่งใหญ่ที่สุด โดยคว้า “เจ้าเหรียญทอง” ไปได้ถึง 10 ครั้ง
ขณะที่ ประเทศไทย รั้งอันดับสอง ด้วยสถิติการเป็นเจ้าเหรียญทอง 7 ครั้ง
ส่วน เวียดนาม ซึ่งเป็นมหาอำนาจกีฬายุคใหม่ ก้าวขึ้นมาครองเจ้าเหรียญทอง 3 ครั้ง ในช่วงสองทศวรรษหลัง


ซีเกมส์ 2025 จึงเป็นเวทีสำคัญที่ประเทศไทยจะได้พิสูจน์ศักยภาพอีกครั้ง หลังจากห่างหายจากตำแหน่งเจ้าเหรียญทองมานานถึง 10 ปีเต็ม นับตั้งแต่ปี 2015
คำถามที่แฟนกีฬาทั่วประเทศรอคำตอบคือ
“ซีเกมส์ครั้งนี้ ไทยจะหยุดสถิติการเป็นเจ้าเหรียญทองของเวียดนามได้หรือไม่?”
ทุกสายตาจับจ้องไปที่ “เจ้าภาพไทย” ในฐานะความหวังของชาติ ที่พร้อมแสดงพลังแห่งมิตรภาพ ความสามารถ และหัวใจของนักสู้แห่งอาเซียนอีกครั้งใน ซีเกมส์ ครั้งที่ 33











