นักวิจัย ม.วลัยลักษณ์ ดันข้าวอินทรีย์กลุ่มวิสาหกิจฯ บ้านอ่าวเคียน ขึ้นทะเบียน อย. สำเร็จเป็นเจ้าแรกของจ.นครศรีฯ พร้อมยกระดับมาตรฐานการผลิตมุ่งสู่ตลาดข้าวพรีเมียม

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

คณะนักวิจัย ม.วลัยลักษณ์ ร่วมผลักดันข้าวปลอดสารพิษจากการทำเกษตรอินทรีย์ ของ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวอินทรีย์บ้านอ่าวเคียน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จนสามารถยื่นขอรับมาตรฐาน อย. สำเร็จเป็นเจ้าแรกของจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมยกระดับโรงสีข้าวชุมชนให้เข้าสู่กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อผลิตข้าวป้อนตลาดคนรักสุขภาพ

รองศาสตราจารย์ ดร.นฤมล มาแทน หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมน้ำมันหอมระเหยและสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และอาจารย์ประจำสำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร ม.วลัยลักษณ์ เปิดเผยว่า ตนพร้อมคณะนักวิจัย “ชุดโครงการการพัฒนาข้าวกล้อง และผลิตภัณฑ์จากข้าวกล้องคุณภาพสูงสำหรับตลาดพรีเมียม” ได้ลงพื้นที่ให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตข้าวอินทรีย์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวในโรงสีข้าวชุมชน กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวอินทรีย์บ้านอ่าวเคียน อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ให้มีมาตรฐานการผลิตระดับสากล Good Manufacturing Practice (GMP) จนสามารถขอขึ้นทะเบียน อย. ข้าวได้สำเร็จเป็นเจ้าแรกของจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยวิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวอินทรีย์บ้านอ่าวเคียน เกิดจากการรวมตัวของชาวบ้านที่มีอาชีพทำนา กว่า 50 ครัวเรือน ในพื้นที่อำเภอปากพนัง โดยเน้นการปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ และจัดตั้งเป็นโรงสีชุมชนขึ้น เพื่อลดต้นทุนการสีข้าว

และจากการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีดังกล่าว ทำให้กระบวนการผลิตข้าวของชุมชนในทุกขั้นตอนได้มาตรฐาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระบวนการเก็บรักษาข้าว โดยใช้เทคโนโลยีการเก็บรักษาข้าวเปลือกและข้าวกล้องให้ปลอดภัยจากเชื้อรา โดยใช้บรรจุภัณฑ์ควบคุมความชื้น และมีขั้นตอนการกำจัดไข่มอดโดยใช้คลื่นวิทยุ ซึ่งเป็นการผลิตข้าวที่ไม่ใช้สารเคมี ผู้บริโภคจึงมั่นใจได้ว่า จะได้บริโภคข้าวที่ปลอดภัยจากสารเคมี ลดการปนเปื้อนจากมอด แมลง และสารกำจัดเชื้อราที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยขณะนี้ทางกลุ่มมีการผลิตข้าวที่พร้อมขึ้นทะเบียน อย.แล้ว ได้แก่ ข้าวหอมปทุม ข้าวหอมนิล ข้าวสังข์หยด และข้าวไรซ์เบอร์รี่

จากการศึกษาวิจัยของนักวิจัยในศูนย์ความเป็นเลิศฯ พบว่า ข้าวกล้องสายพันธุ์ท้องถิ่นหลายสายพันธุ์ เมื่อนำไปวิเคราะห์หาสารออกฤทธิ์ พบว่า ข้าวท้องถิ่นหลายสายพันธุ์มีแนวโน้มที่จะนำมาผลิตเป็นข้าวกล้องเพื่อสุขภาพได้ เนื่องจากพบสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพอยู่หลายชนิด อีกทั้งยังพบว่า ในข้าวมีโปรตีนในปริมาณสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ข้าวไข่มดริ้น” ซึ่งเป็นข้าวสายพันธุ์พื้นเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีโปรตีนชนิดทนต่อการแปรรูปสูงถึง 10% เมื่อเทียบกับข้าวท้องถิ่นสุขภาพสายพันธุ์อื่น ๆ ที่ให้โปรตีนอยู่ระหว่าง 3 – 7% เท่านั้น เมื่อนำไปหุงสุก หรือ ผ่านกระบวนการแปรรูปด้วยวิธีต่าง ๆ โปรตีนในข้าวไข่มดริ้นจะทนต่อการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวต่าง ๆ จึงสามารถนำไปประกอบอาหารได้หลากหลาย อีกทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เกลือแร่ พร้อมวิตามินหลากหลายชนิด ที่ช่วยเรื่องสุขภาพ บำรุงระบบประสาทและสมอง โดยนักวิจัยจะผลักดันให้ชุมชนได้ปลูกข้าวสายพันธุ์นี้ให้มากขึ้น และผลักดันให้ได้ขึ้นทะเบียน อย.เป็นสายพันธุ์ต่อไป เพื่อนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ข้าวเพื่อสุขภาพ มุ่งสู่ตลาดพรีเมียมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เป็นการเพิ่มมูลค่าข้าวให้แก่เกษตรกรอีกทางหนึ่งด้วย

ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อข้าวอินทรีย์ปลอดสาร หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณสุชาติ เทียมดี หรือ คุณอารี กองทอง วิสาหกิจชุมชนผลิตข้าวอินทรีย์บ้านอ่าวเคียน หมู่ที่ 7 ต.ชะเมา อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โทร. 089-455-3398

RANDOM

error: Content is protected !!