สำนักงาน ก.พ. เปิดรับสมัครบุคลากรภาครัฐเพื่อคัดเลือกรับทุนรัฐบาล ทั้งทุนศึกษาต่อ และทุนฝึกอบรม ประจำปี 2566

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

สำนักงาน ก.พ. เปิดรับสมัครคัดเลือกบุคลากรภาครัฐเพื่อรับทุนรัฐบาล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (ทุนพัฒนาบุคลากรภาครัฐ : ทุนสำหรับผู้ที่ได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษา/ฝึกอบรมจากสถาบันการศึกษา)

วิธีการคัดเลือกและเกณฑ์การตัดสินเพื่อรับทุน มีดังนี้

1. ทุนที่รับสมัคร จำนวน 216 ทุน

1.1 ทุนศึกษา ระดับปริญญาโท และระดับปริญญาเอก จำนวน 142 ทุน เป็นหลักสูตรปกติ (full time) ที่มีการเรียนการสอนในชั้นเรียน หรือ หลักสูตร Online
1.2 ทุนฝึกอบรม จำนวน 74 ทุน เป็นหลักสูตรปกติ (full time) ที่มีการฝึกอบรมในชั้นเรียน หรือหลักสูตร Online ที่มีระยะเวลาฝึกอบรมไม่น้อยกว่า 5 วันทำการ และไม่มากกว่า 3 เดือน

2. ประเทศที่กำหนดให้ไปศึกษา/ฝึกอบรม
ประเทศที่จะให้ไปศึกษา/ฝึกอบรมกำหนดตามกลุ่มสาขาวิชาต่าง ๆ ตามที่ ก.พ. กำหนด ดังนี้
2.1 กรณีประสงค์จะไปศึกษา ณ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จะต้องเป็นสถาบันการศึกษาที่ได้รับการจัดอันดับอยู่ใน Top 20 ปีล่าสุด ของสถาบันการจัดอันดับการศึกษาที่ได้รับการยอมรับ และมีมาตรฐานเป็นสากล หรือสถาบันการศึกษาที่ส่วนราชการมีเอกสารหลักฐานที่แสดงความโดดเด่นของสถาบันการศึกษาในสาขาวิชาที่ผู้รับทุนจะไปศึกษา
2.2 สำหรับประเทศที่จะให้ไปศึกษา/ฝึกอบรม นอกเหนือจากที่กำหนด จะต้องเป็นประเทศที่มีสถาบันการศึกษา หรือสถาบันฝึกอบรมมีความโดดเด่นทางวิชาการในสาขาวิชา/หลักสูตรนั้น
2.3 สำนักงาน ก.พ. อาจพิจารณาปรับเพิ่มสาขาวิชาและประเทศที่จะไปศึกษา/ฝึกอบรม ตามความเหมาะสม

3. ข้อผูกพันในการรับทุน
3.1 ผู้รับทุนจะต้องกลับมาปฏิบัติราชการ/ปฏิบัติงาน ณ ส่วนราชการ (กระทรวง/กรม) หรือหน่วยงานของรัฐ ที่เป็นต้นสังกัดเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 เท่าของระยะเวลาที่ได้รับทุน หรือเป็นระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ในสัญญา
3.2 กรณีผู้รับทุนไม่กลับมาปฏิบัติราชการ/ปฏิบัติงานชดใช้ทุนให้แก่ราชการตามสัญญาที่ได้ทำไว้กับ สำนักงาน ก.พ. นอกจากจะต้องชดใช้เงินทุนที่ได้จ่ายไปแล้วทั้งสิ้น ยังจะต้องชดใช้เงินอีก 2 เท่า ของจำนวนเงินทุนดังกล่าวให้เป็นเบี้ยปรับอีกด้วย

4. คุณสมบัติของผู้มีสิทธิสมัครคัดเลือก
ผู้มีสิทธิสมัครคัดเลือกต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
4.1 ทุนประเภทศึกษา
(1) เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการในส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรทุน หรือข้าราชการตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ หมายถึง ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ประจำ และมิได้รวมถึงผู้ปฏิบัติงานที่เป็นลูกจ้าง สังกัดหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรทุน
(2) ปฏิบัติราชการ หรือปฏิบัติงานในหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรทุนมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 2 ปี นับถึงวันลงนามในประกาศรับสมัคร
(3) เป็นผู้มีอายุไม่เกิน 40 ปี นับถึงวันลงนามในประกาศรับสมัคร
(4) สำหรับทุนที่ให้ไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท ผู้สมัครจะต้องเป็นผู้ซึ่งไม่เคยได้รับวุฒิปริญญาโท หรือคุณวุฒิอย่างอื่นที่เทียบได้ในระดับเดียวกันในสาขาวิชาและวิชาเอก หรือเน้นทางเดียวกับทุนที่จะไปศึกษา
4.2 ทุนประเภทฝึกอบรม
(1) เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ในส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรทุน หรือข้าราชการตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ดำรงตำแหน่งที่เทียบเท่าตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ ในส่วนราชการ หรือหน่วยงานของรัฐที่ได้รับการจัดสรรทุน และปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติงานในตำแหน่งดังกล่าวมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 3 ปี นับถึงวันลงนามในประกาศรับสมัคร หรือ
(2) เป็นข้าราชการพลเรือนสามัญผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ หรือชำนาญการพิเศษ ในส่วนราชการที่ได้รับการจัดสรรทุน หรือข้าราชการตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ดำรงตำแหน่งที่เทียบเท่าตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการ หรือชำนาญการพิเศษ ในส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่ได้รับการจัดสรรทุน
4.3 เป็นผู้มีศีลธรรม และความประพฤติดี
4.4 เป็นผู้ที่ปฏิบัติงานในหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ อุทิศตน และเสียสละ
4.5 หากผู้สมัครคัดเลือกเคยไปศึกษาหรือฝึกอบรมด้วยทุนรัฐบาล (ก.พ.) มาแล้ว ต้องกลับมาปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี นับถึงวันกำหนดส่งรายชื่อให้สำนักงาน ก.พ.
4.6 กรณีผู้สมัครคัดเลือกอยู่ระหว่างรับทุนรัฐบาลไปศึกษาวิชา ณ ต่างประเทศ ไม่มีสิทธิสมัครคัดเลือกเพื่อรับทุนศึกษา/ฝึกอบรมในครั้งนี้
4.7 กรณีเป็นผู้มีสิทธิได้รับทุนรัฐบาล ก.พ. (ทุนศึกษาหรือทุนฝึกอบรม) มากกว่า 1 ทุน ผู้ได้รับทุนต้องเลือกรับทุนใดทุนหนึ่ง
4.8 กรณีผู้สมัครได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาระดับปริญญาเอกที่กำหนดให้ต้องเรียน MPhil ก่อน จะต้องเป็นไปตามหลักสูตร/เงื่อนไขการศึกษาที่สถาบันการศึกษากำหนดในสาขาวิชานั้น ๆ และระยะเวลาการศึกษารวมแล้วเป็นไปตามที่ สำนักงาน ก.พ. กำหนด
4.9 มีข้อเสนอโครงการ/การปรับปรุงภารกิจหลักที่เป็นประโยชน์สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ ยุทธศาสตร์หน่วยงาน และแสดงให้เห็นถึงการนำความรู้ที่จะได้รับจากการศึกษา/ฝึกอบรมมาปรับใช้ในการดำเนินการดังกล่าว
4.10 สาขาวิชาหรือหลักสูตรที่ผู้สมัครไปศึกษา/ฝึกอบรม ต้องเป็นสาขาวิชา/หลักสูตรที่เป็นที่ต้องการ และเป็นประโยชน์ต่อภารกิจของหน่วยงาน ทั้งนี้ หากสาขาวิชาที่จะไปศึกษาสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของส่วนราชการ หรือหน่วยงานตามยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยุทธศาสตร์หน่วยงาน หรือเป็นสาขาวิชาที่ขาดแคลน มีความจำเป็น และเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติภารกิจ แต่ไม่ตรงตามคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งที่ผู้สมัครรับทุนครองอยู่ ผู้สมัครต้องแสดงความยินยอมและยอมรับว่าหากสำเร็จการศึกษาแล้ว ไม่สามารถนำวุฒิการศึกษาดังกล่าวไปปรับคุณวุฒิการศึกษาในตำแหน่งที่ครองอยู่ได้

5. การรับสมัครคัดเลือก
5.1 ให้ส่วนราชการ (กระทรวง หรือส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรม ซึ่งไม่สังกัดกระทรวง แต่อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรีหรือส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรม และมีหัวหน้าส่วนราชการ รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี) หรือหน่วยงานของรัฐ ที่ได้รับการจัดสรรทุนกำหนดวัน เวลา รับสมัครคัดเลือก และดำเนินการรับสมัครคัดเลือกข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัด ที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนด
5.2 ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ประสงค์สมัครคัดเลือกสามารถกรอกใบสมัครทางเว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. ที่ http://register.ocsc.go.th/registration และสามารถ download แบบฟอร์มต่าง ๆ ที่ใช้ในการสมัครคัดเลือกที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.พ. ที่ www.ocsc.go.th/scholarship หัวข้อ “ทุนสำหรับบุคลากรภาครัฐ” หัวข้อย่อย “ทุนศึกษา” หัวข้อย่อย “ทุนสำหรับผู้ที่ได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษา/ฝึกอบรมจากสถาบันการศึกษา ปี 2566”
5.3 เอกสาร หลักฐานที่จะต้องนำไปยื่นสมัครคัดเลือก ณ ส่วนราชการ (กระทรวง หรือส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรม ซึ่งไม่สังกัดกระทรวง แต่อยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรีหรือส่วนราชการที่มีฐานะเป็นกรม และมีหัวหน้าส่วนราชการ รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี) หรือหน่วยงานของรัฐที่สังกัด

6. การรับเงินทุน
ผู้ได้รับทุนศึกษา/ฝึกอบรมจะได้รับเงินทุน เมื่อทำสัญญาเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ได้รับทุนศึกษาจะได้รับค่าใช้จ่าย เช่น ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ค่าใช้จ่ายเตรียมตัวก่อนเดินทาง ค่าใช้จ่ายประจำเดือน ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือและอุปกรณ์การศึกษา ค่าคอมพิวเตอร์ เป็นต้น

สำหรับผู้ได้รับทุนฝึกอบรม จะได้รับค่าใช้จ่ายก่อนเดินทาง ค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทาง ค่าวีซ่า ค่าพาหนะในต่างประเทศ ไป-กลับ (ที่พัก-สนามบิน) ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ค่าฝึกอบรม ค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทาง ค่าเช่าที่พัก และค่าประกัน
สุขภาพ ทั้งนี้ อัตราและหลักเกณฑ์การจ่ายเงินให้เป็นไปตามที่สำนักงาน ก.พ. กำหนด

อ่านรายละเอียดของทุนเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3UZ8s31

RANDOM

error: Content is protected !!