ม้าแข่งที่สนามฝรั่ง วันที่ 7 ธันวาคม 2568 นี้ ทีมงาน “บิ๊กบอย” ส่องกล้อง มองก่อนแข่งแบบใกล้ชิด เพื่อความสนุกสนานก่อนที่จะทำศึก ด้วยการวิเคราะห์ทั้ง 10 เที่ยวแข่ง ให้แฟนอาชาชาวไทยได้คึกคัก ติดตามด้านล่างครับ

เที่ยว 1 – ม้าเทศ คลาส 4 – 1200 เมตร – 14 ตัว
นายทองเอก (7) เพิ่งชนะมาแบบสบายๆ เมื่อสองสัปดาห์ก่อน และจะวางแผนสู้ซ้ำอีกครั้ง แม้ต้องแบกน้ำหนักเพิ่ม 3 กิโลกรัมก็ตาม ทางด้าน ม้าลูกพี่ (10) ได้จ๊อกกี้ พงศกร คุมบังเหียนเป็นครั้งแรก ซึ่งจ๊อกกี้ก็เพิ่งพ้นโทษแบน และต้องการสร้างผลงาน แม้จะต้องออกจากซอง 13 ก็น่าลุ้นได้ ส่วน เดอะสตาร์ (9) อาจจะยังไม่ได้แสดงฟอร์มการวิ่งที่โดดเด่นไว้มากเท่าไรนัก แต่ก็ซุ่มซ้อมไว้ดีขึ้นมากเช่นกัน การได้ จ๊อกกี้วันมงคล ขึ้นขี่อาจช่วยให้ม้าเดอะสตาร์ ทำผลงานได้ดีขึ้นแน่ๆ

เที่ยว 2 – ม้าเทศ คลาส 3 B – 1200 เมตร – 14 ตัว
เจชัวร์ (5) อยู่ในเงื่อนไขที่ดีสำหรับการลุ้นคว้าชัยชนะ แม้จะผ่านมาแล้วกว่าหนึ่งปี ตั้งแต่ได้วินครั้งล่าสุด แต่การได้จ๊อกกี้สันติภาพ ก็ช่วยเพิ่มโอกาสได้ ถึงแม้จะต้องออกซองนอกอย่างซอง 14 ก็ตาม ไปยังม้า เพชรอัมรินทร์ (4) ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการคว้าชัยชนะนัดล่าสุด และนัดนี้การแบกน้ำหนักเพียง 54.0 กิโลกรัม ก็อาจทำให้ได้เปรียบคู่แข่งหลายตัว ส่วน พารากอนบอย (3) เพิ่งอิมพอร์ตมาจากมาเลเซีย และมีลุ้นทำผลงานดีตั้งแต่การเดบิ้วต์ครั้งแรกในเมืองไทยเช่นกัน

เที่ยว 3 – ม้าเทศ คลาส 3A – 1200 เมตร – 13 ตัว (หมายเลข 2 น้องยูกิ – ไม่เข้าแข่ง)
โฮมรัน (14) คว้าชัยชนะไปได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อสองสัปดาห์ก่อน และยังเป็นตัวเต็งในเที่ยวนี้ พร้อมทั้ง การได้ซอง 2 ก็เพิ่มโอกาสให้วิ่งขึ้นนำได้ง่าย ไปยัง บิ๊กเฮง (7) ทำผลงานในช่วงทางตรงสุดท้ายได้ดีเสมอ และจะได้แทคติค สไตล์การขี่ที่นิ่ง ของจ๊อกกี้ศุภากรช่วยอีกจึงน่ามอง ส่วน มีนำทรัพย์ (1) เพิ่งคว้าชัยชนะในการแข่งครั้งแรกไปหมาดๆ และมีโอกาสที่จะเปิดสู้ซ้ำอีกครั้ง ถึงแม้ต้องแบกน้ำหนักสูงสุดที่ 59.0 กิโลกรัมก็ตาม

เที่ยว 4 – ม้าเทศ คลาส 2 – 1200 เมตร – 14 ตัว
ฟลายอิ้งเลดี้ (1) ไล่ล่าคว้าชัยจนได้รับชัยชนะเมื่อสองสัปดาห์ก่อน รอบนี้ต้องแบกน้ำหนักท็อปเวท 59.0 กิโลกรัม แต่ฟอร์มยังดีพอให้ลุ้นติดท็อปสาม ส่วน มังกรอู๋จี้ (2) แม้จะยากหน่อยในคอกปล่อย แต่เมื่อออกซองได้ ฟอร์มการวิ่งในสนาม ก็ยังเป็นต่อพอตัว ทางด้าน ซันฮีโร่ (11) แบกน้ำหนักเพียง 54.0 กิโลกรัม และได้จ๊อกกี้แสงรุ้ง กลับมาคุมบังเหียนอีกครั้ง จึงเป็นม้าที่ยังคงน่าจับตาเช่นเดิม

เที่ยว 5 – ม้าเทศ คลาส 1 – 1200 เมตร – 14 ตัว
ชัยมงคล (10) หนึ่งในม้าเทศ เคยวิ่งแข่งแล้วที่ดีที่สุดในไทยช่วงนี้ มีโอกาสสูงที่จะคว้าชัยได้อีกครั้ง โดยมีจ๊อกกี้ สันติภาพ เป็นคนขี่ยิ่งทำให้มีภาษีดี ไปยัง ชาร์มมิ่งวิน (1) เพิ่งคว้าชัยชนะไปเมื่อไม่นาน แต่ต้องเจอบททดสอบที่ท้าทายด้วยการแบกน้ำหนัก 62.5 กิโลกรัม คงเหนื่อยหน่อย ส่วน สตาร์อ๊อฟอีสาน (3) มีฟอร์มการวิ่งที่สม่ำเสมอ และพร้อมลุ้นชิงติดอันดับอีกครั้งแน่

เที่ยว 6 – ม้าไทย คลาส 5 B – 1200 เมตร – 11 ตัว
วินมาร์ค (3) กลับมาร่วมงานกับจ๊อกกี้วิจิตรกรอีกครั้ง คู่หูที่เคยคว้าชัยชนะ และเข้าอันดับรองด้วยกัน จึงมีโอกาสติดอันดับค่อนข้างสูง มองต่อไปที่ ม้าพี่ชัย (2) ได้อันดับรองๆ มา 4 นัดติด และหวังจะทำผลงานปลดล็อกชัยชนะในนัดนี้จึงต้องดูให้ดี ส่วน ยูท่าห์ (4) กลับมาจับคู่กับจ๊อกกี้วันมงคล อีกครั้ง ซึ่งครั้งที่แล้วก็ได้ร่วมมือกันคว้าชัยครั้งแรกมาแล้ว จึงเป็นคู่ที่ไม่ควรมองข้าม

เที่ยว 7 – ม้าไทยพื้นเมือง คลาส 5A – 1200 เมตร – 11 ตัว
อ้อมใจ (9) แบกน้ำหนัก 55.5 กิโลกรัม ถือว่ามีลุ้นทำผลงานดีทีเดียว โดยจ๊อกกี้ธัญญะ เคยคุมบังเหียนจนสามารถคว้าชัยมาแล้ว แม้จะต้องออกจากซอง 11 ซึ่งจะทำให้จ๊อกกี้ต้องเลือกแท็กติกให้เหมาะสมด้วย จึงจะมีลุ้น ทางด้าน ดวงน้องเล็ก (3) ฟอร์มล่าสุดอาจไม่ดีเท่าไรนัก แต่ยังน่าจะเป็นตัวเต็งของเที่ยวนี้อยู่เช่นเดิม สำหรับ ธิดาดิน (1) กับจ๊อกกี้พงศกร ก็มีโอกาสเข้ามามีบทบาทได้ในช่วงทางตรงสุดท้ายและสร้างเซอร์ไพรส์ได้

เที่ยว 8 – ถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 66 – 1900 เมตร – 10 ตัว
ลุยเซียน่า (2) ยังคงเป็นหนึ่งในม้าเด่นของรายการนี้ ซึ่งในการแข่งเที่ยวชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพเมื่อปีที่แล้วได้ที่ 2 มา และยังเคยชนะในการแข่งเที่ยวชิงถ้วยพระราชทานจักรีในปีนี้ แม้จะได้ซอง 9 แต่ด้วยความสามารถรอบด้าน และการคุมบังเหียนของจ๊อกกี้รุ่งอรุณ ยังมีสิทธิ์ลุ้นคว้าแชมป์รายการที่ 3 ของ Thai Triple Crown ส่วนทาง รุ้งแก้ว (10) กับจ๊อกกี้สันติภาพ เป็นดาวรุ่งฟอร์มแรงของปี และการแข่งระยะไกลก็เป็นจุดเด่นของรุ้งแก้ว ซึ่งรุ้งแก้วยังมีโอกาสสร้างผลงานคว้าชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตการแข่งขันในนัดนี้ สำหรับ วันเฮง (3) เพิ่งชนะในรายการแข่งชิงถ้วยพระราชทานควีนส์คัพปีนี้ และแม้จะได้จ๊อกกี้พร้อมรบขึ้นขี่เป็นครั้งแรก แต่ด้วยความเป็นม้านักสู้ วันเฮง จึงดูมีโอกาสลุ้นคว้าชัยได้อีกครั้งเช่นกัน

เที่ยว 9 – ม้าไทย คลาสพรีเมียม – 1200 เมตร – 9 ตัว
เซย์อิทโซ (1) เรตติ้ง 106 แบกน้ำหนักท๊อปเวท 62.0 กิโลกรัม แต่ยังดูเป็นม้าที่ต้องจับตามอง โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งสำคัญอย่าง แบล็คเพิร์ล ไม่ลงแข่งจึงโดดเด่น ไปยัง ทิวดอร์เกรย์ (2) เรตติ้งรองลงมา และมีลุ้นคว้าชัยชนะอีกครั้งเช่นกัน ส่วน ดาร์กช็อคโกแลต (3) ฟอร์มแรงจากการชนะสองนัดติด และยังคงเป็นม้าที่มีโอกาสสูงในเที่ยวนี้ กองเชียร์จึงไม่ควรมองข้าม

เที่ยว 10 – ม้าไทย คลาส 3 – 1200 เมตร – 10 ตัว
กริพเพน (2) ทำผลงานดีมากในการทดสอบ ด้วยสายเลือดจากออสเตรเลีย บวกกับได้ซอง 3 และการขี่ของจ๊อกกี้รณชัย ทำให้กริพเพน มีลุ้นทำผลงานเด่นตั้งแต่การแข่งเดบิ้วต์ครั้งแรกนี้ ส่วนทางด้าน ชาล็อต (3) ม้าเทศจาก เมจิคมิลเลี่ยนอีกตัวที่น่าจับตาในการแข่งเดบิ้วต์ และมองไปที่ ฟลายอเวย์ (4) ที่ยังต้องพัฒนาฟอร์มเพิ่ม แต่ครั้งนี้ก็มีหวังจะพยายามคว้าชัยชนะครั้งที่สองของอาชีพให้ได้เช่นกัน











