9 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย จับมือเดินหน้าโครงการ THAI Academy – Al in Education ยกระดับระบบการศึกษาไทยเข้าสู่ยุคใหม่ วางรากฐานสร้างโอกาสการเรียนรู้ด้วย AI ให้กับคนไทยทุกช่วงวัย ส่งเสริมการปฏิรูปการศึกษาด้วยแพลตฟอร์มและเครื่องมือดิจิทัลแห่งอนาคต ณ พิพิธภัณฑ์การศึกษาไทย โถงชั้น 1 อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ
พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ กล่าวว่า นับเป็นก้าวสำคัญในการพลิกโฉมระบบการศึกษาไทยด้วยพลังของ AI และเทคโนโลยี จาก บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ลดช่องว่าง เพิ่มโอกาสทางการศึกษา เพื่อให้เด็กไทยทุกคนสามารถเข้าถึงการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ
กระทรวงศึกษาธิการ ได้กำหนดยุทธศาสตร์ “3+1 ภาษา” ได้แก่ ภาษาไทย จีน อังกฤษ และ ภาษาดิจิทัล เพื่อให้เยาวชนไทยมีทักษะพร้อมสำหรับโลกอนาคต ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการยกระดับการศึกษา คือ โครงการ “Anywhere Anytime” บนแพลตฟอร์ม NDLP (National Digital Learning Platform) ที่กำลังพัฒนาให้เป็น “ห้องเรียนกลางของประเทศ” เป็นระบบเรียนรู้ครบวงจรที่รองรับทั้งนักเรียน ครู และ ผู้บริหาร ด้วยเป้าหมายในการสร้างระบบการศึกษาที่เท่าเทียม ยืดหยุ่น และทันสมัยอย่างแท้จริง
ในระยะแรก NDLP จะช่วยให้นักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายกว่า 600,000 คนทั่วประเทศ เข้าถึงบทเรียนมาตรฐานเดียวกัน ครอบคลุมทุกกลุ่มสาระ พร้อมขยายสู่ระดับชั้นอื่นอย่างต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับ ไมโครซอฟท์ นำเนื้อหา AI และทักษะแห่งอนาคต เข้าสู่ระบบในรูปแบบ microlearning ที่เรียนง่าย ใช้เวลาสั้น ตรงกับความสนใจของผู้เรียน เด็กไทยสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามความถนัดของตนเอง ด้วยเนื้อหาที่มีคุณภาพพร้อมรับกับโลกอนาคต
ในส่วนของครูสามารถเข้าถึงบทเรียนคุณภาพและสื่อการสอนที่ครบถ้วนได้ทันที มีพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ร่วมสร้างเนื้อหาที่เหมาะสม ช่วยให้การวางแผนการสอนตอบสนองผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และผู้บริหารจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ ระบบติดตามผลการเรียนแบบเรียลไทม์ การวิเคราะห์จุดที่โรงเรียนต้องพัฒนา การอนุมัติเอกสารผ่านระบบดิจิทัล ลดงานซ้ำซ้อน และคืนเวลาให้กับผู้บริหาร
AI in Education และ NDLP ไม่ใช่แค่การเพิ่มเทคโนโลยี แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบ ที่ยกระดับทั้งผู้เรียน ผู้สอน และระบบการจัดการศึกษาให้ทันสมัย ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และตอบโจทย์อนาคต ต่อยอดองค์ความรู้ในระดับมหาวิทยาลัย ผ่านหลักสูตร AI ออนไลน์ฟรีกว่า 200 หลักสูตร เกิดเป็นระบบการศึกษาที่ไร้รอยต่อ จากโรงเรียนสู่มหาวิทยาลัยและสู่การสร้างสังคมแห่งเรียนรู้ตลอดชีวิต
ด้าน ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล กล่าวต่อว่า ความร่วมมือในวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของระบบที่ทุกคนจะมีสิทธิ์เข้าถึงความรู้ใหม่ และสามารถกำหนดอนาคตของตัวเองได้ โดย อว.ได้จัดตั้ง ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการศึกษาทั่วไปและการพัฒนาทักษะข้ามสายงานในสถาบันอุดมศึกษา (GETS) เพื่อสนับสนุนและเสริมสร้างความเข้มแข็งของทรัพยากรบุคคลให้มีทักษะแห่งศตวรรษที่ 21 เป็นทุนมนุษย์ที่มีคุณภาพของประเทศ เป็นแพลตฟอร์มรองรับโครงการความร่วมมือดังกล่าวในอนาคต
ขณะที่ นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้คือจุดเริ่มต้นของการวางรากฐานด้านการศึกษาที่แข็งแกร่ง โดยนำทักษะ AI มาให้เยาวชนไทยได้เรียนรู้อย่างทั่วถึง ซึ่งจะเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดประตูสู่โอกาสใหม่ ทั้งการเพิ่มทักษะภาษา การลดช่องว่างระหว่างผู้สอนและผู้เรียน รวมถึงยกระดับจากการเป็นผู้ใช้งานไปสู่ผู้สร้างสรรค์ เพื่อพัฒนาศักยภาพครูด้วยทักษะ AI ตั้งแต่ระดับพื้นฐานและชั้นสูง ซึ่งในอนาคตจะมีการวางแผนระยะยาวร่วมกัน เพื่อสร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่ยั่งยืนให้กับประเทศไทย เชื่อมโยงทุกวัยสู่ระบบการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ทั้งนี้ โครงการ THAI Academy – Al in Education ครอบคลุมถึงการพัฒนาทักษะ AI เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตั้งแต่ระดับประถมศึกษา มัธยมศึกษา อุดมศึกษา อาชีวศึกษา ไปจนถึง การเรียนรู้นอกระบบ นอกจากนี้ ศธ. และ อว. ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาคลังหน่วยกิตกลาง หรือ National Credit Bank System ซึ่งจะเป็นระบบที่รวบรวมผลการเรียนรู้ในทุกช่วงวัยเข้าสู่ฐานข้อมูลเดียว และยังมีแอปพลิเคชันพอร์ตโฟลิโอ ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถวางแผนเส้นทางการศึกษาและอาชีพของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาจึงไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่ในห้องเรียนหรือกรอบของอายุอีกต่อไป แต่จะเป็นระบบที่เชื่อมโยงการเรียนรู้กับโอกาสการทำงานในอนาคตอย่างเป็นรูปธรรม