กกท.มั่นใจแม้เอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่19จะเลื่อน แต่ยังมีแนวทางรองรับปรับสู้ศึกใหญ่อย่างโอลิมปิกเกมส์2024 และกีฬาระดับนานาชาติต่อเนื่อง

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

จากกรณีที่ ทางสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย หารือร่วมกับคณะกรรมการโอลิมปิกประเทศจีน และ คณะกรรมการจัดการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 19 ซึ่งจะจัดในเดือน ก.ย.นี้ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน โดยเอาสถานการณ์ความห่วงใยและผลที่อาจจะเกิดขึ้นต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 เป็นประเด็นสำคัญ และได้สรุปว่าจะเลื่อนการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์หนนี้ออกไปก่อน และเตรียมหารือเพื่อกำหนดวันแข่งขันใหม่นั้น

ประเด็นนี้ กระทบต่อนักกีฬาไทยที่กำลังเตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์หนนี้หรือไม่ และการเก็บตัวช่วงแรกที่ผ่านมาที่มีการจ่ายเงินค่าเตรียมนักกีฬาไปจำนวนหนึ่งแล้วนั้นจะเป็นการจ่ายเพื่อการสูญเปล่าหรือไม่ เป็นประเด็นคำถามตามมาทันที หลังจากข่าวการเลื่อน “หางโจวเกมส์” นี้ออกไป

นายประชุม บุญเทียม รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่าที่ผ่านมาการเตรียมนักกีฬาของสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19  ที่ได้เริ่มต้นช่วงแรกมาตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน 2564 นั้นคงไม่ใช่ถือว่าเป็นการสูญเปล่าสำหรับการเตรียมนักกีฬา เนื่องจากว่าการเตรียมนักกีฬาของแต่ละสมาคมมีเป้าหมายร่วมอยู่ด้วยไม่ใช่ว่าจะเป็นการเตรียมงานเพื่องานเดียวแล้วจบ แต่จะมีเป้าหมายที่ต่อเนื่องไป เช่นซีเกมส์ต่อเนื่องไป เอเชี่ยนเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ต่อเนื่องไปโอลิมปิกเกมส์ เมื่อไม่มีการจัดเอเชี่ยนเกมส์ เราก็จะเชิญสมาคมกีฬาที่เกี่ยวข้องกับโอลิมปิกเกมส์มาปรับแนวทางการทำงานหลังซีเกมส์เสร็จสิ้น เพื่อจะเดินหน้าในการเตรียมความพร้อมระยะยาวสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 และพาราลิมปิกเกมส์ปีเดียวกัน ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสต่อไป

 โดยรองผู้ว่าการ กกท.ย้ำว่า หลังจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์และกีฬาอาเซี่ยนพาราเกมส์แข่งขันเสร็จสิ้น กกท.จะเชิญสมาคมกีฬาในชนิดกีฬาเป้าหมายดังกล่าวข้างต้น พิจารณาคัดเลือกนักกีฬาเข้าสู่โครงการ Road to Paris และร่วมกันจัดทำแผนการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนานักกีฬาให้มีศักยภาพสูง และการส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันในรายการเพื่อเสริมประสบการณ์และคัดเลือกให้ได้สิทธิ์เข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ในรอบสุดท้าย เพื่อสร้างผลงานให้ได้รับเหรียญทองตามเป้าหมายที่กำหนด 3-5 เหรียญทอง ซึ่งจะสอดคล้องกับเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีของชาติที่ตั้งไว้ว่าไทยได้ได้เหรียญรางวัล อันดับ 1 ใน 6 ของชาติในเอเชียที่เข้าร่วมแข่งขัน โดยได้จัดทำแผนการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนานักกีฬาให้มีศักยภาพสูง จะพิจารณาจัดหาผู้ฝึกสอนชั้นนำ ผู้เชียวชาญด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาและบุคลากรที่เกี่ยวข้องในด้านอื่นๆ ตามบริบทในแต่ละชนิดกีฬา ที่มีคุณภาพสูงโดยคัดเลือกจากภายในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งจัดหาอุปกรณ์กีฬาที่มาตรฐานสูง และสถานที่ฝึกซ้อมที่มีมาตรฐานทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้ทุกส่วนมีความพร้อมที่สุด

สำหรับงบประมาณในการดำเนินการโครงการ Road to Paris กกท. จะนำเสนอแผนการฝึกซ้อมต่อเนื่อง ผลสัมฤทธิ์และเป้าหมายที่จะได้รับต่อคณะกรรมการ กกท. เพื่อให้ความเห็นชอบ และเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติเพื่อจัดสรรงบประมาณในโครงการดังกล่าวต่อไป โดยจะเสนอเพื่อปรับแผนการเตรียมทีมเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์และเอเชี่ยนพาราเกมส์มาดำเนินการโครงการ Road to Paris โดยเริ่มเก็บตัวต่อเนื่องหลังจากเสร็จสิ้นการแข่งขันกีฬาซีเกมส์และอาเซี่ยนพาราเกมส์

แต่หากสมาคมกีฬาอื่น ๆ ที่กลับจากซีเกมส์ แล้วไม่มีแข่งในเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 19 และไม่มีชนิดกีฬานี้แข่งในโอลิมปิกเกมส์2024 และพาราลิมปิกเกมส์ 2024 ในแต่ละสมาคมกีฬากลุ่มนี้นั้น ก็มีแผนงานที่จะต้องเก็บตัวนักกีฬา เพื่อร่วมการแข่งขันในกีฬาระดับนานาชาติต่าง ๆ ตลอดทั้งปีรอยู่ ฉะนั้นแม้ว่าจะไม่มีการจัดเอเชี่ยนเกมส์ในปีนี้ นักกีฬาสมาคมกีฬาต่าง ๆ ก็คงไม่ได้ว่างเว้นจากการร่วมการแข่งขันรายการอื่น ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพของนักกีฬา นายประชุมกล่าวในตอนท้าย

RANDOM

NEWS

มาแล้วหัวเรือใหม่กีฬา ‘นายกเศรษฐา’ มอบหมายและมอบอำนาจให้ ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ กำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมเป็นประธานบอร์ด กกท.และบอร์ด กองทุนกีฬา แบบเบ็ดเสร็จ

‘อ.เค้ก’ ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์ ภาคภูมิใจ หลังถูกเลือก จากคณะมวยของโอลิมปิกสากล ให้ทำหน้าที่กำกับ-ประเมิน ผู้ชี้ขาด/ผู้ตัดสินมวยสากลสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ เลก ที่2

error: Content is protected !!