มมส ร่วมกับ วช. ช่วยเกษตรกร มอบชุด ‘นวัตกรรมเพื่อการพัฒนากระบวนการผลิตข้าวฮางงอก’ ลดต้นทุนการผลิต เพิ่มกำไรให้ชุมชนอย่างยั่งยืน

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) จัดพิธีส่งมอบนวัตกรรมในโครงการพัฒนากระบวนการผลิตข้าวฮางงอกด้วยวิจัยและนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นโครงการในกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ภายใต้โครงการจัดการความรู้การวิจัยและถ่ายทอดเพื่อการใช้ประโยชน์ ประจำปี 2565

โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ศาสตราจารย์ ดร. อนงค์ฤทธิ์ แข็งแรง รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน วิจัย และนวัตกรรม และ นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ร่วมพิธีส่งมอบ ณ โรงเรียนนาเชือกวิทยาคม อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ เมื่อเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) มอบหมายให้ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ดำเนินโครงการการพัฒนากระบวนการผลิตข้าวฮางงอกด้วยวิจัยและนวัตกรรมเพื่อยกระดับคุณภาพผลผลิตทางการเกษตรอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นโครงการในกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม ภายใต้โครงการจัดการความรู้การวิจัยและถ่ายทอดเพื่อการใช้ประโยชน์ ประจำปี 2565 โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร. สุพรรณ ยั่งยืน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นหัวหน้าโครงการ เพื่อพัฒนานวัตกรรมยกระดับกระบวนการผลิตข้าวฮางงอกแบบดั้งเดิมด้วยวิจัยและนวัตกรรม ตามโมเดลเศรษฐกิจบีซีจี (BCG Model) ช่วยลดเวลา แรงงาน และต้นทุนการผลิต ของกลุ่มผู้ผลิตในพื้นที่เป้าหมาย ในพื้นที่ 2 จังหวัดได้แก่ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดกาฬสินธุ์

รองศาสตราจารย์ ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหาสารคาม เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ร่วมพัฒนาองค์ความรู้จากงานวิจัยถ่ายทอดสู่ชุมชน กับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) มาอย่างต่อเนื่อง ตามยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศของรัฐบาล และ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ในเรื่องการใช้ประโยชน์องค์ความรู้จากผลงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเชิงพื้นที่ โดยเฉพาะการสร้างนวัตกรรมเกี่ยวกับการแปรรูป ข้าวฮางงอก ซึ่งถือเป็นชุดองค์ความรู้หนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งของมหาวิทยาลัย ที่สามารถยกระดับการผลิตจากวิธีการเดิมตามภูมิปัญญาชาวบ้าน มาพัฒนาด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ จนเป็นที่ยอมรับว่าช่วยให้กระบวนการผลิตจากเดิมที่มีความยุ่งยาก ต้องพิถีพิถันเพื่อควบคุมคุณภาพ และใช้เวลานานในการผลิตต่อรอบได้สั้นลง โดยสามารถลดเวลาจากเดิม 7 วัน เหลือเพียง 2 วัน

โดยมีชุดอุปกรณ์ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ผ่านการพัฒนาของบุคลากรของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย ชุดอุปกรณ์ล้างข้าวเปลือก ชุดอุปกรณ์เร่งการแช่และเพาะงอกข้าวเปลือก ชุดอุปกรณ์นึ่งข้าวเปลือก ชุดอุปกรณ์อบแห้งอินฟราเรดแบบถังหมุน โดยเป็นผลงานที่ได้รับรางวัลการันตีจากเวทีการประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมทั้งในระดับชาติและนานาชาติหลายรางวัล ซึ่งชุดนวัตกรรมดังกล่าว สามารถช่วยลดต้นทุน และเพิ่มส่วนกำไรสุทธิได้ถึง 17.6 เท่าเทียบกับการจำหน่ายเป็นข้าวสารขาว ทำให้กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ได้รับประโยชน์จากการใช้งานนวัตกรรมได้เป็นอย่างดีในทุกมิติ ทั้งมิติด้านการยกระดับกระบวนการผลิตตามโมเดลเศรษฐกิจบีซีจี (BCG Model) มิติทางสังคมและเศรษฐกิจ และ การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน

RANDOM

กกท.และนครสวรรค์จับมือลุยจัดกีฬาอาวุโสแห่งชาติให้สมบูรณ์แบบ พร้อมปรับเวลาแข่งและจัดการช่วยระบายอากาศ เพื่อสู้ความร้อน หวังช่วยให้นักกีฬาแสดงความสามารถได้อย่างเต็มศักยภาพ

NEWS

‘อ.เค้ก’ ไพบูลย์ ศรีชัยสวัสดิ์ ภาคภูมิใจ หลังถูกเลือก จากคณะมวยของโอลิมปิกสากล ให้ทำหน้าที่กำกับ-ประเมิน ผู้ชี้ขาด/ผู้ตัดสินมวยสากลสู่โอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ เลก ที่2

error: Content is protected !!