แพทยศาสตร์ จุฬาฯ โชว์นวัตกรรมตรวจสมองเสื่อมแฝง รู้ตัวล่วงหน้า 10 ปี ชะลออัลไซเมอร์ยามสูงวัย

แชร์บทความ

Share on facebook
Share on twitter

ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ศึกษานวัตกรรมตรวจเลือดหาสารบ่งชี้อาการสมองเสื่อมแฝง รู้ล่วงหน้า 10 ปี เตรียมตัวเพื่อชะลออาการอัลไซเมอร์เมื่อสูงวัย

ปัจจุบัน จำนวนผู้ที่มีอาการสมองเสื่อมทั่วโลกมีราว 50 ล้านคน เฉพาะในประเทศไทย พบผู้ที่มีภาวะสมองเสื่อมประมาณ 7 แสนคน ซึ่งในจำนวนนี้ 5 แสนคน เกิดจากโรคอัลไซเมอร์ หากไม่มีมาตรการในการชะลอ หรือป้องกันการเกิดภาวะสมองเสื่อม จำนวนผู้ป่วยก็จะเพิ่มขึ้น คาดการณ์ว่าทั่วโลกจะมีประชากรสูงวัยที่ป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าภายในสามสิบปี ภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์ เป็นโรคที่รักษาไม่หาย หนทางที่ดีที่สุด คือ การป้องกันไม่ให้เกิดโรค หรือชะลอการเกิดโรคให้ช้าที่สุด

นพ.ภูษณุ ธนาพรสังสุทธิ์ อาจารย์ประจำสาขาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ และหัวหน้าโครงการนวัตกรรมการตรวจเลือดวินิจฉัยภาวะสมองเสื่อมตั้งแต่ยังไม่มีอาการ ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงแนวทางการป้องกันอัลไซเมอร์ว่า “โรคอัลไซเมอร์มีระยะฟักตัว 10 – 15 ปี ก่อนที่จะเริ่มแสดงอาการ เรียกได้ว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์แฝง ผู้ป่วยจะไม่มีอาการใด ๆ สามารถทำงานได้ตามปกติ จนเมื่อการดำเนินโรคไปถึงจุดที่อาการเริ่มปรากฎ ผู้ป่วยก็สูญเสียเนื้อสมองไปมากแล้ว ตอนนั้นก็ยากจะฟื้นฟู หรือ กู้สุขภาวะของสมอง แต่ตอนนี้เรามีวิทยาการทางการแพทย์ที่ช่วยให้สามารถตรวจพยาธิสภาพของโรคอัลไซเมอร์ได้ล่วงหน้าก่อนเข้าสู่วัยเกษียณ ช่วยให้เราได้ดูแลตัวเองป้องกันอาการสมองเสื่อมที่อาจเกิดขึ้นได้

สูงวัย เสี่ยงสมองเสื่อม
ภาวะสมองเสื่อมเกิดได้จากหลายสาเหตุและหลายโรค โรคที่เป็นสาเหตุสำคัญที่สุดของภาวะสมองเสื่อม คือ อัลไซเมอร์ รองลงมา คือ โรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งสาเหตุของโรคอัลไซเมอร์นั้นเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม มลภาวะ และความเครียด ฯลฯ

อาการสมองเสื่อม และโรคอัลไซเมอร์ มักเกิดกับผู้สูงอายุในช่วง 60 ปีขึ้นไป โดย 1 ใน 16 ของผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปี มีโอกาสเป็นโรคอัลไซเมอร์ ในขณะที่ผู้มีอายุ 80 ปีขึ้นไป อัตราส่วนของการพบผู้ป่วยโรคนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็น 1 ใน 6 คน  “ยิ่งคนอายุยืนขึ้น โอกาสเป็นโรคสมองเสื่อมก็ยิ่งมากขึ้น”

ภาวะสมองเสื่อม เริ่มต้นจากอาการหลง ๆ ลืม ๆ เรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมา เมื่อมีอาการมากขึ้น ผู้ป่วยจะช่วยตัวเองได้น้อยลงเรื่อย ๆ จนกระทั่งไม่สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ด้วยตัวเอง ทำให้ต้องมีผู้คอยดูแลตลอดเวลา และเมื่อการดำเนินโรคมาถึงระยะท้าย ผู้ป่วยก็มีความเสี่ยงที่จะเสียชีวิตจากโรคติดเชื้อต่าง ๆ ได้

พยากรณ์สมองเสื่อมแฝงก่อนเกิดอาการ
โดยทั่วไป การตรวจโรคอัลไซเมอร์ก่อนแสดงอาการ มี 2 วิธี ได้แก่
1. PET Scan (Positron Emission Tomography Scan) เป็นเทคโนโลยีการตรวจโรคทางด้านเวชศาสตร์นิวเคลียร์ โดยใช้ภาพวินิจฉัยการทำงานของอวัยวะและเนื้อเยื่อภายในร่างกาย ค่าใช้จ่ายในการตรวจค่อนข้างแพง และใช้เวลาในการตรวจให้ครบ 2-3 วัน
2. การเจาะน้ำไขสันหลัง เป็นการตรวจวัดระดับโปรตีนที่ก่อโรคอัลไซเมอร์โดยการเจาะน้ำไขสันหลัง ซึ่งในประเทศไทยต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น วิธีการนี้มีผู้เข้าถึงและเข้ารับการตรวจน้อย เนื่องจากหลายคนกลัวเจ็บจากกระบวนการเจาะน้ำไขสันหลัง
แต่ปัจจุบัน อ.นพ.ภูษณุ เผยว่า ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ จุฬาฯ ใช้เทคนิคทางอิมมูนวิทยา หรือ วิทยาภูมิคุ้มกันในการตรวจเลือดแทนการเจาะน้ำไขสันหลัง โดยใช้เครื่องตรวจที่มีชื่อว่า Simoa (Single molecule array) และเครื่อง LC-MS (Mass spectrometer) เพื่อตรวจสาร Phosphorylated Tau ในเลือด ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอัลไซเมอร์แฝง และสาร Neurofilament light chan ซึ่งเป็นการตรวจการสูญเสียเนื้อสมอง

วิธีนี้ช่วยตอบโจทย์ทั้งในแง่ค่าใช้จ่ายที่ย่อมเยากว่า ลดความซับซ้อนและความเจ็บในการตรวจหาภาวะสมองเสื่อมแฝง และยังได้ผลการตรวจที่แม่นยำอีกด้วย

                                เครื่อง Simoa                                                         

เครื่อง LC-MS

ข้อดีของการเจาะเลือดตรวจอัลไซเมอร์แฝง พร้อมอธิบายเพิ่มเติมถึงขั้นตอนการตรวจว่า “การตรวจก็ง่ายและปลอดภัย ผู้รับการตรวจไม่จำเป็นต้องงดน้ำ หรืออาหาร ก่อนเข้ารับการเจาะเลือด ซึ่งพยาบาลหรือนักเทคนิคการแพทย์จะเจาะเลือดเพียง 10 ซีซีเท่านั้น และเป็นการตรวจเพียงครั้งเดียว ส่วนการวิเคราะห์ผลใช้เวลา 2 เดือนเท่านั้น” นอกจากนี้ ผู้รับการตรวจเลือดยังต้องทำแบบทดสอบความสามารถของสมองควบคู่ไปด้วย เพื่อดูต้นทุนทางสมองว่าอยู่ในระดับไหน

อ.นพ.ภูษณุ กล่าวว่า ผลจากการตรวจเลือดจะนำไปประมวลกับผลการทำแบบทดสอบ ก่อนจะแปรผลรวมอีกครั้ง ซึ่งกระบวนการทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแปรผลมีความซับซ้อน และต้องดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

ดูแลตัวเองลดโอกาสสมองเสื่อมแฝง
ผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงเป็นภาวะสมองเสื่อม หรือ อัลไซเมอร์ ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยทางพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม มลภาวะ และอายุที่มากขึ้น หากดูแลตัวเองได้ดี ลดปัจจัยเสี่ยงเสริมต่าง ๆ ก็อาจจะลดโอกาสการเกิดภาวะสมองเสื่อมได้ถึง 40% วิธีการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันภาวะสมองเสื่อม ได้แก่

– ดูแลสุขภาพไม่ให้เป็นโรค NCDs เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ฯลฯ หรือหากเป็นแล้ว ก็รักษาและควบคุมโรคประจำตัวดังกล่าวให้ดี

– ผู้ที่มีอาการหูหนวก หูตึง จะทำให้สมองไม่ได้รับการกระตุ้น ส่งผลให้สมองเสื่อมได้ง่าย จึงควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
ทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะอาหารที่มีส่วนช่วยป้องกันอาการสมองเสื่อม เช่น ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ควรเป็นอาหารทะเล งดของหวาน ของเค็ม ของทอด ทานไขมันจากพืช เช่น น้ำมันมะกอกหรือ ถั่วชนิดต่าง ๆ ฯลฯ งดสูบบุหรี่ ลดหรืองดการดื่มสุรา

“สิ่งสำคัญที่สุด คือ ควรออกกำลังกายทุกวัน ๆ ละครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง การออกกำลังกายสามารถลดภาวะสมองเสื่อมได้ เนื่องจากการออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายสร้างสารฟื้นฟูสมอง” อ.นพ.ภูษณุ กล่าวทิ้งท้าย

ผู้สนใจรับบริการตรวจเลือดหาสารโปรตีนที่ก่อโรคอัลไซเมอร์แฝง สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ เพจศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ https://www.facebook.com/trceid สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณอดิภา โทร.0-2256-4000 ต่อ 3562, 08-4113-4443 อีเมล trc.eid@gmail.com Line ID : trceid

RANDOM

สำนักหอสมุดแห่งชาติ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “งานประดับกระจก” โดยวิทยากร จาก สำนักช่างสิบหมู่ ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ในวันที่ 20 มี.ค. นี้ รับจำนวนจำกัด ผู้สนใจลงทะเบียนสมัครด่วน

เทศกาลหนังแห่งเมืองเชียงใหม่ 2568 ชวนนักทำหนังอิสระ นักเรียน นักศึกษา ส่งผลงานภาพยนตร์สั้นและภาพยนตร์สารคดี ที่พูดถึง “จิตวิญญาณท้องถิ่น” เข้าร่วมประกวด ชิงรางวัลรวม 60,000 บาท และคัดเลือกจัดฉายในเทศกาล Chiang Mai Film Festival 2025 สมัครและส่งผลงานได้ ตั้งแต่บัดนี้ – 15 พฤษภาคม

สอศ. ร่วมกับ ศูนย์ CLEC เปิด ‘ห้องปฏิบัติการภาษาจีนระดับอาชีวศึกษาแห่งแรกของโลก’ ที่วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี หนุนสร้างแรงงานคุณภาพสมรรถนะสูง รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย-จีน

You cannot copy content of this page

error: Content is protected !!